วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

สงครามชิงกรุงเทพฯยังไม่ยุติ โดย วสิษฐ เดชกุญชร วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20:06:35 น




สงครามชิงกรุงเทพฯยังไม่ยุติ โดย วสิษฐ เดชกุญชร

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20:06:35 น.
  


จนถึงวันนี้ กรุงเทพมหานครก็ยังไม่มีผู้ว่าราชการ

ถึงแม้ว่าผลการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.จะปรากฏชัดแล้วว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้รับคะแนนเสียงเหนือกว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งคนอื่นๆ แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ยังไม่รับรองผลการลงคะแนนนั้น

ขอทวนความจำก่อนว่า คุณเรืองไกรนั้นเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า เป็นนักร้องเรียนกล่าวหาตัวยง แต่เดิมผู้ที่ตกเป็นเป้าของการร้องเรียนกล่าวหาของคุณเรืองไกรคือ (พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร และผู้สนับสนุน (พ.ต.ท.)ทักษิณ ในเดือนพฤษภาคม 2551 คุณเรืองไกรได้ยื่นฟ้องนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่าจัดรายการโทรทัศน์ "ชิมไปบ่นไป" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 3 เป็นการผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ตัดสินให้ นายสมัครพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 9 กันยายนปีเดียวกัน

ครั้นแล้วต่อมาก็ปรากฏว่าคุณเรืองไกรไปปรากฏตัวบนเวทีและสนับสนุนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และตั้งแต่นั้นมาผู้ที่ตกเป็นเป้าของการร้องเรียนกล่าวหาของคุณเรืองไกรก็คือ ผู้เป็นปฏิปักษ์กับ (พ.ต.ท.)ทักษิณ โดยเฉพาะคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกคนอื่นๆ ของพรรค

คราวนี้คุณเรืองไกรได้ยื่นคำร้องต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งของ กทม. (กกต. กทม.) และประธาน กกต.ขอให้ตรวจสอบคุณศิริโชค โสภา คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ ดร.เสรี วงษ์มณฑา ว่าได้กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 57 (5) ของพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545

มาตรา 57 (5) ของพระราชบัญญัติฉบับที่กล่าว ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการ เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือให้งดเว้นการลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครใดด้วยวิธีการหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้าย หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัครใด

ในคำร้องนั้น คุณเรืองไกรอ้างว่าคุณศิริโชคได้แพร่ภาพ พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ ผู้สมัคร ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งในด้านหลังมีภาพไฟกำลังลุกไหม้ (เผาเมือง) ซึ่งคุณเรืองไกรอ้างว่าเป็นการใส่ร้าย พล.ต.อ.พงศพัศ ส่วนคุณอภิสิทธิ์ได้กล่าวปราศรัยมีความตอนหนึ่งว่า "อภิสิทธิ์เบอร์อะไร... (16) ประชาธิปัตย์เบอร์อะไร... (16)" ทั้งๆ ที่คุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สำหรับ ดร.เสรี วงษ์มณฑา นั้น คุณเรืองไกรร้องว่าได้แพร่ข้อความในเฟซบุ๊กว่า "ใครก็ตามที่ไม่ต้องการให้เพื่อไทยยึดครองกรุงเทพฯ ปราการด่านสุดท้ายที่เหลืออยู่ เราต้องถามตัวเองว่า จะลงคะแนนให้ใครที่จะทำให้พงศพัศไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ คำตอบก็คือ คุณชายสุขุมพันธุ์ หมายเลข 16" ซึ่งคุณเรืองไกรเห็นว่าเป็นการใส่ร้ายหรือจูงใจให้เข้าใจผิด

เท่านั้นยังไม่พอ หลังการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม. 3 วัน ในวันที่ 8 มีนาคม คุณเรืองไกรได้ยื่นคำร้องต่อประธาน กกต.กทม.อีก คราวนี้กล่าวหาว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ทำผิดพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 ที่ประกาศจะแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ 31 คน ในขณะที่กฎหมายอนุญาตให้ตั้งได้ไม่เกิน 9 คน

เพราะการยื่นคำร้องของคุณเรืองไกร กกต.จึงยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือก ในขณะที่ กกต.กทม.กำลังพิจารณาคำร้องนั้นอยู่

เหตุการณ์อื่นที่ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม. แต่จำเพาะต้องมาเกิดในเวลาใกล้เคียงไล่เลี่ยกันก็คือ การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (คำย่อเป็นภาษาไทยมีคือ กสพ. แต่คนไทย (รวมทั้งคนในกรมสอบสวนคดีพิเศษตั้งแต่อธิบดีลงมา) นิยมเรียกย่อเป็นฝรั่งว่า ดีเอสไอ) เรียก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้จ่ายเงิน บำรุงพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยวิธีให้สภาผู้แทนราษฎรหักเงินเดือนแล้วเอาเข้าบัญชีของพรรค ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 มาตรา 57 วรรค 2 ที่ระบุว่า การบริจาคให้แก่พรรคการเมืองตั้งแต่สองหมื่นบาทขึ้นไป จะต้องกระทำโดย สั่งจ่ายเป็นตั๋วแลกเงินหรือเช็คขีดคร่อม

หนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เชิญคุณชายสุขุมพันธุ์ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 14 มีนาคม นี้

เป็นอันว่าคุณชายสุขุมพันธุ์ที่คนกรุงเทพฯจำนวน 1,256,349 คน ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการ กทม. เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคมที่ผ่านไป จะได้เป็นผู้ว่าราชการ กทม.หรือไม่ยังไม่มีใครรู้ จนกว่า กกต.กทม.จะสืบสวนสอบสวนคำร้องของคุณเรืองไกรเสร็จ หากในการสืบสวนสอบสวน กกต.กทม.เชื่อว่ามีการกระทำความผิดตามที่คุณเรืองไกรร้องเรียนจริง กกต.กทม.ก็จะต้องเสนอ กกต.ให้พิจารณาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของคุณชายสุขุมพันธุ์ แล้วสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่

ผลการเลือกตั้งคราวที่แล้วแสดงว่า คนกรุงเทพฯที่เลือกคุณชายสุขุมพันธุ์มี 1,256,349 คน ส่วนคนที่เลือก พล.ต.อ.พงศพัศมี 1,077,899 คน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 4,244,465 คน ไปใช้สิทธิเพียง 2,715,640 คน หรือร้อยละ 63.98

ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ พรรคประชาธิปัตย์จะต้องหาผู้สมัครรับเลือกตั้งใหม่แทนคุณชายสุขุมพันธุ์ซึ่งถูกเพิกถอนสิทธิ และคนกรุงเทพฯ ที่ไม่เอา พล.ต.อ.พงศพัศหรือพรรคเพื่อไทย จะต้องตัดสินใจใหม่ว่าจะเอาใครสังกัดพรรคใด

ครับ..สงครามชิงกรุงเทพฯยังไม่ยุติ จนกว่า (พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร จะยึดกรุงเทพฯ ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น