วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

ผบ.ทบ.ชี้ประชุมร่วม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นจุดเริ่มต้นหนทางปรองดอง วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18:10:05 น.




ผบ.ทบ.ชี้ประชุมร่วม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นจุดเริ่มต้นหนทางปรองดอง

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18:10:05 น.
  
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กองทัพบกมอบหมายให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. เป็นตัวแทนของกองทัพบกไปร่วมหารือเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกับนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภา เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้ได้รับรายงานจาก รอง ผบ.ทบ.ว่าได้หารือกันในหลายเรื่อง ซึ่งเป็นเพียงแค่การพูดคุยและยังไม่ได้ข้อยุติใดๆ เราจำเป็นต้องเข้าร่วมรับฟังในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ เมื่อมีคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายมา เราก็ต้องปฏิบัติ ซึ่งเป็นเพียงการหารือเริ่มต้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนหันหน้ามาพบปะกัน คิดว่าอย่าเพิ่งมองในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ กองทัพบกจำเป็นต้องทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะมี 2 สถานะ คือ 1.การเป็นเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และ 2.เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานในช่วงที่ผ่านมา ทั้งเรื่องคดีความและกรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียจากการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเราไม่ไปฟังและไม่ไปดูว่า เขาทำอะไร คงไม่ได้ อีกทั้งตนก็คงตอบคำถามผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ได้

เมื่อถามว่า การหารือดังกล่าว ฝ่ายผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายปฏิเสธเข้าร่วม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หากไม่มีผู้เข้าร่วม ก็ต้องไปหากันต่อว่า จะทำอย่างไรต่อไป คุยกันต่อหรือไม่ หรือจะเลิกคุย ตนมองว่า ต้องหาทางพูดคุยกันให้ได้ ประเทศไทยไม่เคยมีความขัดแย้งมากขนาดนี้มาก่อน ซึ่งไม่เป็นผลดีกับประเทศ ในฐานะฝ่ายความมั่นคง ประเทศเราแบ่งแยกกันไม่ได้ คนก็อย่าแบ่งแยกกัน อะไรที่แก้ไขได้โดยไม่เสียหาย ต้องช่วยกัน ส่วนทางกองทัพจะเสนอแนะฝ่ายการเมืองอย่างไรนั้น อย่าใช้คำว่ากองทัพแนะนำฝ่ายการเมือง เพราะกองทัพอยู่ภายใต้อำนาจการบริหารของรัฐบาล มีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายที่ชอบด้วยกฎหมาย ตราบใดที่รัฐบาลยังชอบด้วยกฎหมาย

"อยากถามทุกคนว่า อยากก้าวออกจากความขัดแย้งหรือไม่ ซึ่งทุกคนก็อยาก แต่ไม่รู้จะออกอย่างไร ดังนั้น ต้องไปหาทางกันให้เจอ ผมมีส่วนร่วมในการติดตามแทนกำลังพล ครอบครัวที่บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายร้อยคน ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรม การหารือและหาทางออกร่วมกัน ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ไม่อย่างนั้นก็ต้องรบกันต่อไป เราลำบากใจว่าจะทำงานร่วมกันอย่างไร ทั้งนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเราฝ่ายเดียว แต่เป็นความรับผิดชอบของคนทั้งประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สไกป์สั่งให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยทำงานเข้มข้นและแข็งกร้าวมากขึ้น เพราะที่ผ่านมารัฐบาลยอมอ่อนข้อให้กับทหารมากเกินไป พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่ได้ฟัง พ.ต.ท.ทักษิณสไกป์ แต่คิดว่า ฟังคนในประเทศก็พอแล้ว ส่วนคนที่อยู่ต่างประเทศก็คือต่างประเทศ วันนี้เราอยู่ด้วยกัน คนในประเทศก็ต้องฟังคนในประเทศ ตนไปฟังคนอื่นไม่ได้ และจะนำอย่างอื่นมาตัดสินใจเองไม่ได้ วันนี้จะต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมถึงพื้นฐานความเป็นเจ้าหน้าที่ อยากให้เข้าใจทหาร ทั้งนี้ ตนไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองและใครทั้งสิ้น ใครจะตำหนิหรือใครจะชม ก็ว่ากันไป ตนเป็นกองทัพบก 

เมื่อถามย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า พรรคเพื่อไทยอ่อนข้อให้กับทหารมานานแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า อ่อนข้ออะไร ตรงไหนและอย่างไร คงไม่ใช่รัฐบาลอ่อนข้อ แต่รัฐบาลต้องปฏิบัติตามกฎหมาย วันนี้ทำงานอยู่ด้วยกัน ตราบใดที่ยังไม่มีการทำผิดหรือถูก คงทำอย่างอื่นไม่ได้ มาถามตนทุกเรื่องเลย ทหารไม่ได้อยู่ในกลไกเลย ทั้งการเมือง บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ทหารเป็นผู้ปฏิบัติ ดังนั้น อย่าเอาเราไปตีกับใคร ขอให้เราทำหน้าที่เผชิญกับภัยคุกคามต่างๆ ดีกว่า เก็บเราไว้สู้กับโจรดีกว่า อย่าเอาเราไปสู้กันเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น