ส.ว.วอน "เจริญ" หยุดดันนิรโทษฯ แนะเดินหน้าตามข้อเสนอ คอป. อย่าหวังผลเพื่อยุติคดี
วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16:08:38 น.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 มีนาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา หารือว่ากรณีที่ 42 ส.ส.พรรคเพื่อไทยเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ.... โดยจะมีการเลื่อนวาระเข้าพิจารณาในสภาอย่างเร่งด่วนและผิดปกติ โดยนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาคนที่ 1 เชิญหารือ 11 ฝ่าย แต่มองว่าเรื่องนี้เป็นสินค้าเก่าที่มีส่วนผสม 3 ส่วน คือ 1.นิรโทษกรรม 2. อำพราง 3.สอดไส้ ที่เมื่อเปิดดูก็รู้ว่าเป็นสินค้าในเครือบริษัทในห้างใบห่อตราดูไบทั้งหมด ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เคยกล่าวว่า จะมอบให้อำนาจหน้าที่และงบประมาณให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ในการตรวจสอบความจริงและนำความจริงไปสู่การปรองดอง อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคัดค้านการปรองดอง ไม่มีใครต่อต้านการสมานฉันท์ และไม่มีใครขัดขวางการออมชอม แต่จะต้องเป็นสิ่งที่รักษาไว้ซึ่งนิติรัฐ และคงไว้ซึ่งนิติธรรม นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง 10 เมษายน-19 พฤษภาคม 2553 มีข้อเท็จจริงบางประการที่ขอเรียนผ่านไปกับผู้ที่กำลังเจรจาการนิรโทษกรรมในขณะนี้คือ 1.ไม่ได้มีนักโทษที่ถูกขังในเรือนจำ จำนวน 1-3 พันคน ตามที่มีการกล่าวอ้าง กลุ่มที่ 2.ผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบัน ตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำนวน 6 ราย กลุ่มที่ 3.ที่อยู่เรือนจำอื่นๆ จำนวน 9 ราย ซึ่งทั้งหมดที่ไม่ได้ปล่อย เพราะอาจหลบหนีคดี และอาจจะพาดพิงไปเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 รวมถึงผู้บงการด้วย เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหวเพื่อยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขณะนี้เป็นเพราะกลัวที่จะถูกดำเนินคดีหวังผลให้ยกเว้นคดี และหนีการลงโทษทางกระบวนการยุติธรรม ขอเรียนต่อนายเจริญ ด้วยความเป็นห่วงว่า ขอให้ยุติเรื่องดังกล่าวไว้ก่อน และดำเนินการตามข้อเสนอของ คอป. มิฉะนั้นอาจจะเกิดปัญหาขึ้น |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น