วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

อึ้ง!แม้วโผล่มีสิทธิ์ กกต.ชี้ยังไม่ติดคุก ข่าวหน้า 1 4 March 2556


อึ้ง!แม้วโผล่มีสิทธิ์ กกต.ชี้ยังไม่ติดคุก



ภาพรวมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ไร้เหตุรุนแรง พบกระทำผิด กม.เรื่องขายสุขาช่วงเวลาห้ามมากสุด 7 ราย ทำลายป้ายหาเสียง 5 ราย ฉีกบัตรเลือกตั้ง 3 ราย ชาวบ้านบางพลัดอึ้ง! "ทักษิณ" โผล่มีสิทธิ์เลือกตั้งลำดับที่ 530 "กกต." แจงพ้นโทษเพิกถอน 5 ปี มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ อ้างไม่เกี่ยวคดีอาญา "สดศรี" ชี้จะหมดสิทธิ์ต่อเมื่อติดคุก
    เมื่อวันที่ 3 มี.ค. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงภาพรวมการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ภายหลังปิดหีบเลือกตั้งเวลา 15.00 น. ว่า สถานการณ์โดยทั่วไปในหลายหน่วยเรียบร้อยดี โดยมีเฉพาะบางเขตได้รับรายงานในเรื่องการกระทำผิดอย่างการขายสุรา 7 ราย ทำลายป้ายหาเสียง 5 ราย ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดูแลความเรียบร้อยต่อไป
    พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง (ผอ.ลต.) บช.น. กล่าวว่า ส่วนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งตั้งเเต่เวลาเปิดหีบบัตร 08.00 น. จนกระทั่งปิดหีบบัตรในเวลา 15.00 น. พบเหตุการณ์กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง 3 ราย โดยรายเเรกที่เขตเลือกตั้งที่ 13 ซ.มาตานุสรณ์ เขตบางคอเเหลม นายสมเดช เทียนสุวรรณ อายุ 57 ปี ได้ฉีกบัตรเลือกตั้งทำให้บัตรได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่นำตัวจับกุมส่ง สน.วัดพระยาไกร สอบสวนให้การว่าเป็นการเข้าใจผิดโดยกระทำโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะเข้าใจว่าจะต้องกาใส่ 2 ส่วน คือ ส่วนบุคคลเเละส่วนพรรค ดังนั้นเมื่อกาบัตรเเล้วจึงฉีกบัตรส่วนหนึ่งเเละกาอีกส่วนหนึ่ง จึงถูกจับดำเนินคดี เบื้องต้นพบเพิ่งออกจากโรงพยาบาลและมีหนังสือรับรองว่ามีอาการทางสมอง
    รายที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 16 โรงเรียนไทยอาชีวศึกษา ซอยจรัญสนิทวงศ์ 71 เขตบางพลัด น.ส.ปราณีต วัชรินทร์ อายุ 34 ปี รับบัตรเลือกตั้งเข้าไปเพื่อจะกากบาท เเต่จำหมายเลขที่จะต้องการเลือกไม่ได้ จึงถือบัตรออกมานอกคูหาเพื่อดูหมายเลขผู้สมัครบริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่เห็นเข้ามาห้ามปราม ทำให้ น.ส.ปราณีตโมโหฉีกบัตรเลือกตั้ง จึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมส่ง สน.บางพลัด ดำเนินคดี 
    รายที่ 3 เขตเลือกตั้งที่ 10 ศาลาวัดบัวผัน เขตบางขุนเทียน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่ พบ น.ส.งามเนตร เเดงดี กำลังเข้าหย่อนบัตรเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจำได้ว่า น.ส.งามเนตรได้ใช้สิทธิ์ลงคะเเนนไปก่อนหน้านี้เเล้ว จึงเข้าไปตรวจสอบพบบัตรประชาชนนางจำลอง เเดงดี เเละบัตรเลือกตั้งพับอยู่ในมือขวา น.ส.งามเนตรรับสารภาพว่าได้สวมสิทธิ์นางจำลอง ซึ่งเป็นย่าเเท้ๆ มาลงคะเเนน ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวเเละดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมาย 
    "สถานการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย และชุดปฏิบัติการได้ปฏิบัติหน้าที่ไปด้วยความเรียบร้อย ส่งผลให้การเลือกตั้งในครั้งนี้มีความเรียบร้อยดี โดยไม่พบเหตุผิดปกติใดๆ" รอง ผอ.ลต.บช.น.กล่าว
    ด้านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. พร้อมด้วยนายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กต.กทม.) แถลงข่าวสถานการณ์การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่า ภาพรวมการเลือกตั้งครั้งนี้มีความเรียบร้อยดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยพบมีการกระทำผิดที่เข้าข่าย พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น อยู่ 3 กรณี คือ การทำร้ายป้ายหาเสียง 1 ราย การแจกจ่ายสุรา 8 ราย และการฉีกบัตรเลือกตั้ง 1 ราย 
    นายภุชงค์กล่าวว่า ในเขตหลักสี่มีการร้องเรียนมีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งพบเห็นกรรมการประจำหน่วยฉีกบัตรเลือกตั้งไว้ล่วงหน้าก่อน จึงส่งผู้ตรวจการประจำหน่วยไปตรวจสอบ ได้รับการชี้แจงว่ากรรมการประจำหน่วยได้ฉีกบัตรเลือกตั้งไว้จริง แต่ยังฉีกไม่หลุดจากต้นขั้ว โดยให้เหตุผลว่าหน่วยเลือกตั้งเขตหลักสี่มีผู้มาใช้สิทธิ์เป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการฉีกบัตรเลือกตั้งไว้ล่วงหน้า เพื่อความรวดเร็วของผู้ที่มาใช้สิทธิ์
    นอกจากนี้ ที่เขตจตุจักรมีเจ้าหน้าที่ กกต.ได้เห็นมีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งแต่งชุดยูนิฟอร์มคลายเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง และติดบัตรด้วยว่าเป็นกลุ่มองค์การตรวจสอบการเลือกตั้ง และบางคนก็เข้าไปในหน่วยเลือกตั้งในขณะที่ผู้อื่นไปลงคะแนนใช้สิทธิ์อยู่ พร้อมกับสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยว่ามีเหตุร้องเรียนและมีการกระทำความผิดหรือไม่ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่พบชายกลุ่มดังกล่าวได้เข้าไปในหน่วยเลือกตั้งในลักษณะที่เหมือนจะไม่ทราบ เจ้าหน้าที่จึงได้ไปแจ้งให้กรรมการประจำหน่วยตักเตือนไป
    "ภาพรวมการเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย ปัญหาที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเจอส่วนใหญ่เป็นเรื่องหาหน่วยเลือกตั้งไม่เจอ และเรื่องของแสงสว่าง เนื่องจากช่วงบ่ายอาจจะมีฝนตก รวมถึงปัญหาของป้ายผู้สมัครที่อยู่ใกล้กับหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งพบในหลายหน่วย" เลขาฯ กกต. กล่าว 
    เมื่อถามกรณีมีชื่อของบุคคลที่เสียชีวิต แต่ยังมีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นายสุพจน์ ไพบูลย์ กรรมการ กต.กทม. กล่าวว่า จากการตรวจสอบระบบทะเบียนราษฎรพบปัญหาเกือบ 7,000 ราย ตรงนี้ต้องคุยกับทาง กทม. ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ส่วนการเกิดเหตุรายชื่อซ้ำกัน อย่างกรณีปรากฏชื่อของ นายปรีชา เอี่ยมสะอาด ใน 4 เขต ได้แก่ เขตคลองเตย เขตสายไหม เขตบางแค และเขตหนองแขมนั้น ทาง กกต.กทม.ได้มีการตรวจสอบปรากฏว่า เป็นคนละคนกัน เนื่องจากมีวันเกิดกันคนละวัน แต่มีชื่อและนามสกุลเดียวกัน ซึ่งทั้งประเทศพบว่ามีคนชื่อ ปรีชา เอี่ยมสะอาด ซ้ำกันมากถึง 33 คน จึงยืนยันว่าไม่ใช่กรณีผีโผล่แต่อย่างใด
    อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงคะแนนเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 15 โรงเรียนพิมลวิทย์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และมีผู้ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง กรณีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 744 ราย ของหน่วยเลือกตั้งที่ 15 มีชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องโทษจำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดาฯ และอยู่ระหว่างการหลบหนีคดีไปต่างประเทศ มีชื่อปรากฏอยู่ลำดับที่ 530 ของรายชื่อในหน่วยเลือกตั้ง ที่มีนายพานทองแท้ ชินวัตร, น.ส.พิณทองทา ชินวัตร และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในลำดับที่ 531, 532 และ 533 ตามลำดับ
     นายพานทองแท้กล่าวหลังใช้สิทธิ์เลือกตั้งว่า ขอให้คน กทม.ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งโดยไม่ต้องกลัวอะไร ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ บิดา ไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องการเลือกตั้ง แต่ทุกครั้งจะบอกว่าคิดถึงคนไทยและประเทศไทย 
    ขณะที่ นายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กต.กทม.) ชี้แจงว่า พ.ต.ท.ทักษิณพ้นกำหนดถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปีแล้ว จึงมีชื่อลงคะแนนเลือกตั้งตามหลักกฎหมาย แต่กรณีมีคำพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษกจะต้องถูกเพิกถอนสิทธิ์ด้วยหรือไม่นั้น เรื่องการเพิกถอนสิทธิ์จะเป็นกรณีเฉพาะเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่คดีดังกล่าวเป็นคดีอาญา จึงไม่สามารถเพิกถอนสิทธิ์ได้
    นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัด กทม. กล่าวว่า การมีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณในรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในเขตบางพลัด หน่วยเลือกตั้งที่ 15 ลำดับที่ 530 เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากหลักฐานทางทะเบียนราษฎรยังไม่มีการแจ้งย้ายชื่อออก จึงยังมีรายชื่อในบัญชีรายชื่อเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 
    "แม้ในความเป็นจริงทุกคนจะทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้วก็ตาม ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ กทม. ยังไม่มีการแจ้งย้าย จึงไม่มีการหมายเหตุรายชื่อไม่สามารถเลือกตั้งได้หรือไม่" ปลัด กทม.กล่าว
    เช่นเดียวกับนางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ในทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ยังไม่ได้มีการแจ้งย้ายออก จึงไม่สามารถถอนออกได้ เพราะต้องให้มีการแจ้งย้ายออกก่อน 
    "ในมาตรา 99 และ 100 ในเรื่องคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ก็ได้กำหนดไว้ว่าบุคคลดังกล่าวจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเองก็ได้พ้นจากการถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปีมาแล้ว ส่วนเรื่องคดีนั้นกฎหมายได้กำหนดไว้ว่า ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้งจะต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่กรณีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ถูกคุมขังหรืออยู่ในการควบคุมในระหว่างที่มีการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงไม่ขัดคุณสมบัติ" นางสดศรีกล่าว 
    นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณพ้นกำหนดถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี กรณีถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไทยรักไทย ทำให้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง
    สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่เดือน ส.ค.2551 ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น