คอ.นธ.เตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้นายกฯ-ครม.ดำเนินการ
ระบุนักการเมือง-แกนนำ ต้องลงชื่อแสดงเจตจำนงไม่ขอรับนิรโทษกรรม
นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) แถลงถึงร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมทางการเมืองของประชาชน ระหว่างวันท่ 19 ก.ย. 2549 ถึงวันที่ 10 พ.ค.2554 พ.ศ. ... (พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ) ที่คอ.นธ.เตรียมเสนอต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ในวันนี้(5 ก.พ.) ว่า สำหรับ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ จะประกอบด้วย 6 มาตรา ซึ่งเนื้อหาโดยสรุป จะเน้นในการนิรโทษกรรมเพื่อประโยชน์ของประชาชนผู้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมืองและเป็นผู้ที่มีความสุจริตทางการเมือง โดยแสดงออกตามสิทธิขั้นพื้นฐานในฐานะประชาชน โดยไม่รวมถึงแกนนำ ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจหรือสั่งการให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมกันนี้ยังไม่รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจตามกฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตามทางคอ.นธ.จึงขอเรียกร้องให้นักการเมืองหรือบรรดาแกนนำในการชุมนุมทุกฝ่าย ควรแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการลงชื่อแสดงเจตจำนงในการไม่ขอรับประโยชน์และไม่ประสงค์จะรับการนิรโทษกรรมในครั้งนี้ด้วย พร้อมยินยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติต่อไป เพื่อลดข้อครหาว่าการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯครั้งนี้เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองหรือแกนนำอีกด้วย "การเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ต่อนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ในวันนี้นั้น เพื่อให้เป็นเจ้าภาพในการนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการของรัฐสภา โดยถือเป็นวาระเร่งด่วน แล้วพิจารณา 3 วาระในคราวเดียวกัน โดยจะเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการ ทั้งรัฐสภา เผื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า ในกระบวนการแปรญัตติ ซึ่งในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่จะส่งไปยังวุฒิสภาพิจารณาต่อไปภายใน 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะลงมติในวาระ 3 ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้จะใช้เวลาทั้งสิ้น 30-45 วัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศใช้พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าวได้ภายในวันที่ 14-15 เม.ย.ทันที ก่อนถึงกำหนดปิดสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติในวันที่ 19 เม.ย.นี้ เชื่อว่าแนวทางนี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่จะลดความขัดแย้งของประเทศได้"นายอุกฤษกล่าว นายอุกฤษ กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์ ที่เสนอร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยการนิรโทษกรรมและการขจัดความขัดแย้ง นั้น ส่วนตัวเห็นว่า สามารถทำได้ แต่กระบวนการดำเนินการจะล่าช้ามาก มีหลายขั้นตอนกว่ารัฐธรรมนูญจะประกาศใช้ เพราะดูได้จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่วาระ 3 ยังค้างอยู่ในสภาฯ อยู่เลย ซึ่งหากมาทำในส่วนของนิรโทษกรรมอีก เชื่อว่าคงไปไม่รอด ส่วนของเสนอของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่าต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่เสนอร่างพ.ร.ก.นิรโทษกรรมฯ นั้น ตนมองว่า ควรเสนอเป็นร่างพ.ร.บ. จะรวดเร็วกว่า เพราะรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทันที แต่หากออกเป็นร่างพ.ร.ก.นั้น จะต้องผ่านขั้นตอนการลงพระปรมาภิไธยซึ่งจะใช้เวลานาน อีกทั้งหากออกเป็นพ.ร.ก. จะมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งถ้าหากนำเข้าสู่สภาฯ แล้วมีผู้ไม่เห็นด้วย อาจยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยตามมาตรา 184 ของรัฐธรรมนูญได้ โดยอ้างเหตุผลว่าการออกพ.ร.ก.ดังกล่าว ไม่ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ที่จะทำในช่วงสมัยประชุมประชุมสามัญนิติบัญญัติได้ และหากเป็นเช่นนั้นกลุ่มคนที่ได้นิรโทษกรรมไปแล้ว ตามพ.ร.ก.ดังกล่าว ก็ต้องได้รับผลกระทบกลับเข้าคุกเช่นเดิม ดังนั้นเห็นว่าทางกลุ่ม นปช.ควรต้องกลับไปทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากลุ่มนปช. จะเห็นด้วยกับแนวทางที่ตนและคอ.นธ.เสนออย่างแน่นอน
|
|
นายกฯ
เตรียมหารือปมชายแดนกัมพูชา หลักถกฮุนเซน
|
มีรายงานว่าวันนี้ (5 ก.พ.) ตัวแทนของกองทัพบกเตรียมนัดหารือข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารบก ได้เข้าพบหารือข้อราชการกับสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กรณีข้อพิพาทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า หลังจากร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระวรราชบิดาแห่งกัมพูชา ที่ประเทศกัมพูชา นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้รับข้อเสนอที่ทั้งสองประเทศจะเชื่อมโยงการทำงานในพื้นที่แนวชายแดนร่วมกัน ให้มีการประสานงานกันระหว่างสองประเทศให้มากขึ้น เพื่อลดความขัดแย้งในพื้นที่บริเวณชายแดน และหลีกเลี่ยงประเด็นที่ไม่สอดคล้องกับ MOU 2543 นอกจากนี้ยังระบุว่า รัฐบาลไทยได้แสดงความขอบคุณที่กษัตริย์กัมพูชาพระราชทานอภัยโทษและลดโทษให้กับคนไทยที่ถูกคุมขัง ทั้งกรณีของน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ และนายวีระ สมความคิด ขณะเดียวกันได้ฝากให้รัฐบาลกัมพูชาพิจารณาโอนตัวนักโทษคนไทยทั้งหมดกลับมารับโทษในไทยด้วย ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวการเมือง ข่าวจริง สปริงนิวส์ ทันเหตุการณ์ เห็นอนาคต
บรรยายใต้ภาพ:
ตัวแทนกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศเตรียมหารือร่วมกัน
หลังคณะของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
และผู้บัญชาการทหารบกเข้าพูดคุยเรื่องข้อพิพาทตามแนวชายไทยกัมพูชา
กับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
|
กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--ไอ.เอ็น.เอ็น
คอ.นธ. เชื่อมั่น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สามารถทำได้โดยเร็ว
เมื่อทุกฝ่ายยอมรับและเห็นด้วยกับเนื้อหา คาด ใช้เวลา30 - 45 วัน
ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดในการชุมนุมทางการเมือง ของคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ. ที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรีในวันนี้ โดย ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธานนั้น ได้ครอบคลุมไปถึงผู้กระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมทางการเมือง ระหว่างวันที่ 9 กันยายน 2549 -4 พฤษภาคม 2554 ตามมาตรา 1 ของพระราชบัญญัติ โดยระบุในมาตรา 3 ให้บรรดาผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองนั้น พ้นจากการกระทำความผิด และความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง แต่ไม่รวมถึงการกระทำของผู้มีอำนาจ ในการสั่งการในการเคลื่อนไหว ในห้วงเวลาดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้อำนาจตามกฎหมาย ในการรักษาความสงบ
โดย ศ.ดร.อุกฤษ กล่าวเชื่อมั่นว่า การพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมนี้ จะสามารถกระทำได้โดยเร็ว เมื่อทุกฝ่ายยอมรับ และเห็นด้วยกับเนื้อหาแล้ว การนำเข้าพิจารณาในวาระ 2 ทั้งของสภาผู้แทนราษฎรแ ละของสมาชิกวุฒิสภานั้น อาจทำได้โดยคณะกรรมาธิการเต็มสภา หรือให้พิจารณา 3 วาระรวด โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 30 -45 วัน และจะนำมาออกประกาศใช้ทันในสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ ในช่วงเดือนเมษายนนี้--จบ--
ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดในการชุมนุมทางการเมือง ของคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ. ที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรีในวันนี้ โดย ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธานนั้น ได้ครอบคลุมไปถึงผู้กระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมทางการเมือง ระหว่างวันที่ 9 กันยายน 2549 -4 พฤษภาคม 2554 ตามมาตรา 1 ของพระราชบัญญัติ โดยระบุในมาตรา 3 ให้บรรดาผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองนั้น พ้นจากการกระทำความผิด และความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง แต่ไม่รวมถึงการกระทำของผู้มีอำนาจ ในการสั่งการในการเคลื่อนไหว ในห้วงเวลาดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้อำนาจตามกฎหมาย ในการรักษาความสงบ
โดย ศ.ดร.อุกฤษ กล่าวเชื่อมั่นว่า การพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมนี้ จะสามารถกระทำได้โดยเร็ว เมื่อทุกฝ่ายยอมรับ และเห็นด้วยกับเนื้อหาแล้ว การนำเข้าพิจารณาในวาระ 2 ทั้งของสภาผู้แทนราษฎรแ ละของสมาชิกวุฒิสภานั้น อาจทำได้โดยคณะกรรมาธิการเต็มสภา หรือให้พิจารณา 3 วาระรวด โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 30 -45 วัน และจะนำมาออกประกาศใช้ทันในสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ ในช่วงเดือนเมษายนนี้--จบ--
ผบ.นรด.
เด้งรับแนวคิด “ประยุทธ์”จบรด.เกณฑ์ทหาร
|
วันนี้ (4 ก.พ.) พล.ท.วิชิต ศรีประเสริฐ
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวความคิดของ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
ที่จะให้ผู้ที่จบหลักสูตรนักศึกษาวิชาการทหารต้องเข้ามาเกณฑ์ทหารว่า
แนวคิดดังกล่าวถือว่าเป็นแนวคิดที่ดี และกองทัพก็มีแนวคิดในเรื่องนี้มานานแล้วว่าทุกคนที่เรียนจบหลักสูตรฯ
ควรเข้ามารับการฝึกประมาณ 3-6 เดือน เพื่อเพิ่มพูนจิตวิญญาณการรักชาติ
ซึ่งเป็นเพียงการขยายแนวความคิดเท่านั้น คงต้องไปศึกษากันในรายละเอียดว่า
จะทำกันอย่างไรต่อไป ปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ การเพิ่มยอดของนศ.วิชาทหาร
เพราะขณะนี้ผู้ที่เข้ารับการฝึก คือ ผู้ที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนต่าง ๆ จึงเกิดคำถามว่า หากมีการตรวจเลือกทหาร
ผู้ที่ไม่ได้เข้าเรียนตามสถานศึกษาต่าง ๆ ก็จะต้องเข้ามาเป็นทหาร และ
คนส่วนใหญ่ที่จะถูกเกณฑ์เข้ามาจะเป็นคนที่ไม่รู้หนังสือหรือเป็นพวกที่มีการศึกษาน้อย
ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาความแตกต่างทางสังคมชัดเจน
“ทาง นรด.
จึงต้องจำกัดยอด นศ.วิชาทหารไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำจนเกินไป
โดยขณะนี้อัตราส่วนของชายไทยที่เข้ารับการตรวจเลือกแล้วต้องเป็นทหารเกณฑ์ลดลงไปเรื่อยๆ
ซึ่งขณะนี้มีอัตราส่วนอยู่ที่ 2.3 คน ต่อการเป็นทหารเกณฑ์ 1 คน ดังนั้นหากเราเพิ่มยอด
นศ.วิชาทหารมากเท่าไรจะทำให้อัตราส่วนลดลงไปอีก
ตรงนี้เป็นสัดส่วนสำคัญที่ทางกองทัพมีการพูดคุยกันมาก
ที่สำคัญจะทำให้เกิดความรู้สึกต่อคนในระดับรากหญ้า
ดังนั้นทางกองทัพกำลังมองถึงความยุติธรรม คือ ทุกคนรักชาติต้องรับใช้ชาติ
แต่ในเรื่องการเกณฑ์ทหารต้องมีความยุติธรรมเหมือนกัน ไม่ใช่กลายเป็นว่า
คนจนต้องเป็นทหาร ถ้าเป็นอย่างนั้นจะดูไม่ดี เพราะคนจนยังจำเป็นต้องทำงาน
เพื่อครอบครัว แต่มีโอกาสที่จะได้จับใบดำใบแดงมาก
ดังนั้นคนที่อยู่ในสังคมชั้นกลางและสังคมชั้นสูงควรจะมีโอกาสเป็นทหารด้วยเหมือนกัน
เพื่อให้มีความเท่าเทียมกัน”ผบ.นรด.กล่าว
พล.ท.วิชิต กล่าวว่า
ขณะนี้ตนพยายามจำกัดอายุของผู้ที่เข้ารับการเรียนหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหารให้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป เพราะหากนำเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีมาฝึกจะเป็นการเพิ่มความรับผิดชอบของกองทัพอย่างมาก
อย่างไรก็ตามทาง นรด.ไม่สามารถฝึกนศ.วิชาทหารได้อย่าง 100 %อยู่แล้ว เพราะทาง นรด.ต้องรับผิดชอบ
นศ.ทั้งหมดว่า ห้ามบาดเจ็บ ห้ามเสียชีวิต
รายงานข่าวจากนรด.แจ้งว่า
ปัจจุบันมีนศ.วิชาทหารที่ศึกษาระหว่างชั้นปีที่ 1-5 รวมทั่วประเทศจำนวน 3 แสนคน โดยในชั้นปีที่ 4-5 จะมีนศ.วิชาทหารหญิงด้วย
ทั้งนี้นรด.ได้กำหนดจำนวนผู้เข้ารับการเรียนหลักสูตรไม่เกินปีละ 1 แสนคน ซึ่งจากการหารือในรายละเอียด คาดว่า
ต่อไปนศ.วิชาทหารอาจจะต้องเข้ารับการตรวจเลือกเข้าเป็นทหารกองประจำการ แต่จะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนระยะเวลาในการรับราชการทหารแทน
โดยอาจจะต้องเข้ามารับการฝึกประมาณ 3-6 เดือน.
|
คอลัมน์: สังคมการเมือง: แผนรบ'ปชป.-พท.''บิ๊กตู่'เปิดค่ายทหาร
|
การไปเยือนกัมพูชาของ นายกฯ ปู เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นอกจากร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ยังถือโอกาสพบ นายกฯ ฮุนเซน ขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาที่ปล่อยตัวและลดโทษให้ 2 คนไทย ผลจากสัมพันธ์ดี 2 ประเทศ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศชัดค่ายทหารเป็นกลางโดยแท้ พร้อมเปิดให้ผู้สมัครทุกคนทั้งมีสังกัดและอิสระเข้าไปหาเสียงโดยเท่าเทียม เพียงแต่ขอให้เข้ามาติดต่อตามระเบียบ จะจัดสถานที่และครอบครัวทหารไปนั่งฟัง แจ่มแจ้งชัดเจน สนามชิงผู้ว่าฯ กรุงผ่านโค้ง 2 แบบมันหยด ผู้ท้าชิง พงศพัศ เรตติ้งดีวันดีคืนจนทิ้งห่างแชมป์เก่า คุณชายหมู ถึง 10 จุดตามผลสำรวจเอแบคโพลล์ ล่าสุดพท.กางแผนยึดเมืองหลวง ให้ นายกฯ ควง จูดี้ หาเสียงเขตกทม.ชั้นในช่วง โค้งท้าย พื้นที่ไข่แดงปชป.เชียวแหละ พท.คิดไกลไปถึงแผนหาเสียงโค้งท้าย เป้าหมายแปรพลังเงียบเข้าคูหากาเบอร์ 9 อุดมเดช รัตนเสถียร ทีมยุทธศาสตร์พรรค แพลมว่าเวลาอีกเกือบเดือนจะใช้จุดเด่นของ จูดี้ พิชิตใจกลุ่มคนบ้านจัดสรร-ตึกแถวที่ไม่ฝักใฝ่การเมือง แผนเผด็จศึกคะแนนจัดตั้ง ราคาคุยของ สิงห์เหลิม ไม่รู้ช่วยพวกเดียวกันหรือเทคะแนนให้คู่ต่อสู้มากกว่า ยิ่งกรณีออกมาวิเคราะห์แทบทุกโค้งว่า พงศพัศ นำโด่งชนะชัวร์ มั่นใจถึงขนาดประกาศงดจ้อ 7 วันหากทายผิด ดีไม่ดีจะกลายเป็นรังแกคนกันเองมากกว่า งดจ้อก่อนเลือกตั้งอาจชนะ หนุ่มมาร์ค รับลูกเป็นทอดๆ จากเพื่อนเลิฟพันธมิตร เกี่ยวกับผลโพลบาดใจที่จะทำกี่ครั้ง คนของพรรคก็เป็นฝ่ายตาม เลยชูแขนสนับสนุนให้สำนักโพลไปเจาะลึกนโยบายและความพร้อมผู้สมัคร คุยว่าแนวทางนี้คะแนนฝั่งปชป.จะมาแน่นอน เตรียมหาวิธีอื่นไว้ด้วยก็ดี องอาจ คล้ามไพบูลย์ ผอ.เลือกตั้ง ปชป. เดินเกมรุกอีกขั้น เปิดนโยบายล็อตใหม่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิต 7 ด้าน หวังช่วยตีตื้นคะแนนขึ้นมา อีกทางก็ระดมแกนนำเดินสายปราศรัยย่อยทุกตรอกซอกซอย ตั้งเป้า 300 แห่งทั่วกรุง ขึ้นแซงได้รึเปล่า โปรดติดตาม ฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ. ออกมาตรการเชิงรุกคุมเข้มอุบัติภัยช่วงเทศกาลตรุษจีน เริ่มจากให้ท้องถิ่นจัดทำแผนรับมือ สำรวจความพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือระงับเหตุ ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนอัคคีภัย และจัดชุดเผชิญเหตุในพื้น ที่เสี่ยง ให้พี่น้องฉลองตรุษจีนราบรื่น |
ดิเรก ชี้
บรรยากาศขณะนี้เหมาะพิจาณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
|
ดิเรก ชี้ บรรยากาศบ้านเมืองขณะนี้ เหมาะพิจาณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ค้านออกเป็น พ.ร.ก. เกรงจะมีปัญหาตามมาภายหลัง นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือ วิปวุฒิสภา เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า บรรยากาศทางเมืองในประเทศขณะนี้ ถือว่ามีความเหมาะสมที่จะมีการพิจารณาเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผู้นำฝ่ายค้าน ก็แสดงความเห็นด้วยกับการปรองดอง เพราะเป็นหนทางเดียว ที่จะทำให้บ้านเมืองกลับมาสงบเรียบร้อย แต่จะต้องมีการพูดคุยกัยให้ตกผลึกว่าจะมีกรอบการดำเนินการอย่างไร ส่วนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ. โดยเท่าที่ฟังในรัฐสภา หลายคนก็แสดงความเห็นด้วย แต่ก็ยังมีความไม่อยากให้รัฐสภาแก้ไขเพิ่มเติม เพราะจะทำให้เกิดการได้ประโยชน์เสียประโยชน์ อย่างไรก็ต าม หากมีการนำเข้าสู่สภาวิปทั้ง 3 ฝ่าย จะต้องมีการพูดคุยกัน ก็จะได้ประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย ทั้งนี้ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการออกเป็น พ.ร.ก. เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง--จบ-- |
คอลัมน์: บทบรรณาธิการ:
นิรโทษฯจบง่ายถ้าก้าวข้ามทักษิณ
|
ที่ผ่านมา มีความพยายามจากหลายฝ่ายที่ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนักโทษหนีโทษจำคุกในคดีทุจริตตาม คำพิพากษาของศาล ในการผลักดันให้มีการออกกฎหมาย หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการนิรโทษกรรมแก่ ผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง ตั้งแต่ช่วงการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 มาจนถึงหลังเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 แต่การผลักดันกฎหมายหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการนิรโทษกรรมกลับอำพรางเป้าหมายแอบแฝง ที่แท้จริงมุ่งที่จะลบล้างโทษความผิดทั้งหมดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ทรัพย์สิน 46,000 ล้านบาท ที่ถูกศาลพิพากษายึดตกเป็นของแผ่นดินคืน เป็นเหตุให้การผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมและการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกต่อต้านจากกระแสมหาชนจำนวนไม่น้อย ที่เห็นว่าเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันศาลสถิตยุติธรรม รัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นน้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ และเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่แปลกที่นับตั้งแต่รัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้ เข้ามาบริหารประเทศจะทุ่มเททำทุกวิถีทางเพื่อผลักดันกฎหมายตลอดจนการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมีเป้าหมายแอบแฝงที่สำคัญคือ ลบล้างโทษความผิดทั้งหมดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อที่จะสามารถเดินทางกลับประเทศไทย โดยไม่ต้องรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาล เช่น นักโทษทั่วไป ล่าสุดคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ที่มีดร.อุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานรัฐสภา เป็นประธาน และเป็นคณะกรรมการ ซึ่งรัฐบาลตั้งขึ้นได้สรุปแนวทางการศึกษา เพื่อสร้างความปรองดองด้วยการเสนอให้ออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมความผิดทางการเมืองแก่ผู้ต้องหาทางการเมืองตั้งแต่การรัฐประหาร เมื่อ วันที่ 19 กันยายน 2549 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2554 ยกเว้นผู้ที่สั่งการหรือเป็นแกนนำในการชุมนุมทางการเมืองจนเกิดความสูญเสียต่อประเทศ อย่างไรก็ตาม แม้เนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษของ คอ.นธ.ในภาพรวมจะมุ่งนิรโทษกรรมแก่ประชาชนทุกสีทุกกลุ่ม ซึ่งก็น่าจะเป็นการดีที่จะนำไปสู่การสร้างความปรองดอง แต่รายละเอียดในร่างกฎหมายกลับถูกตั้งข้อสังเกตว่าแฝงไว้ด้วยเลศนัยมุ่งที่จะลบล้างโทษความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเหล่าแกนนำคน เสื้อแดง ที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 นอกจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยแล้ว กลุ่มคน เสื้อแดงอีก 2 กลุ่ม ก็พยายามผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมเช่นกัน โดยกลุ่มคนเสื้อแดงภายใต้การนำของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มคนเสื้อแดง เรียกร้องให้รัฐบาลออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นิรโทษกรรมแก่ประชาชนทุกสีทุกกลุ่ม ยกเว้นผู้สั่งการหรือแกนนำที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์รุนแรงทางการเมือง ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่ใช้ชื่อว่าแนวร่วม 29 มกราฯปลดปล่อยนักโทษการเมือง หรือกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แล้วกำหนดให้มีการนิรโทษกรรมผู้ได้รับโทษทางการเมืองทุกสี ทุกกลุ่ม ซึ่งรวมทั้งผู้ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา ล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงจุดยืนชัดเจน พร้อมที่จะสนับสนุนการนิรโทษกรรมเพื่อนำไปสู่การสร้างความปรองดองในชาติ โดยมีเงื่อนไขว่า การนิรโทษกรรมจะต้องไม่มุ่งเพื่อลบล้างโทษความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้ที่มีความผิดทางอาญาร้ายแรง เพราะฉะนั้นหากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีความจริงใจในการผลักดันกฎหมาย หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ นิรโทษกรรมแก่ผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองทุกสีทุกกลุ่ม อันจะนำไปสู่การสร้างความปรองดองอย่างแท้จริงก็จะต้องทบทวนจุดยืนตัวเองโดยต้องไม่มีวาระซ่อนเร้นมุ่งทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งหากทำได้ก็เชื่อว่าการนิรโทษกรรมจะจบลงด้วยดีราบรื่น และสันติสุขความปรองดอง ก็จะกลับคืน |
เกิดกระแสกระทบ
ภาวะผู้นำ อีกกระทอก เริ่มจากสื่อต่างประเทศนำเสนอประเด็น กดปุ่มรีโมตการเมืองไทย
โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สไกป์ผ่านรัฐบาล นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
กลายเป็นรัฐบาล 2 นายกฯ
วันต่อมา ก็มีรูปของ นายกฯปู โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก นั่งทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล
เป็นเชิงสัญลักษณ์ว่านี่คือนายกฯเมืองไทยตัวจริงเสียงจริง ไม่มีนายกฯคนที่สอง
เถียงกันไม่จบ
ฝ่ายที่รอ ชะยันโต อยู่แล้ว ตีปี๊บ กันใหญ่ ทำลายภาวะผู้นำ และประจานให้ทั่วโลกรู้ว่า การบริหารประเทศภายใต้ระบอบการปกครองประชาธิปไตยแบบไทยๆเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้มีอิทธิพลตัวจริงในการบริหารบ้านเมืองและมีอิทธิพลทางการเมืองดึงดูดให้อยู่ในขั้วอำนาจ
ภาพของ นายกฯยิ่งลักษณ์ พยายามจะทำให้ความเป็นผู้นำชัดเจนขึ้น โดยมีข่าว ขัดใจพี่ ออกสื่อบ่อยๆ เช่นการปรับ ครม. การโหวตแก้รัฐธรรมนูญ การจะตั้งเสื้อแดงเป็น รมต. เพื่อให้นายกฯยิ่งลักษณ์สลัดหลุดจากภาพของหุ่นเชิดการเมือง และบ่วงวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา
คนที่เคยทำงานกับพี่ น้องก็ไม่ค่อยปลื้ม คนที่ทำงานอยู่กับน้อง พี่ก็ไม่ค่อยปลื้ม ภาพความชัดเจนทางการเมืองก็เลยอึมครึม ไม่ค่อยจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งๆที่ จะต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ต้องเป็นปลาอยู่ในข้องเดียวกัน ถึงบางครั้งจะแปลงสภาพเป็นไก่ในเข่งเดียวกันก็เถอะ
ความเป็นจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหน ต่างประเทศหรือในประเทศ ความเป็นพี่เป็นน้องต้องมีเยื่อใย ความเป็นเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ แต่ก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้เช่นกันว่า ในประวัติศาสตร์การแย่งชิงอำนาจก็เกิดขึ้นในหมู่เครือญาติ วงศ์ตระกูลเดียวกัน เมื่อถึงคราวอำนาจไม่เข้าใครออกใคร
และต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า ศูนย์รวมอำนาจยังอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หากขาด พ.ต.ท.ทักษิณ นายกฯก็อยู่ลำบาก เสื้อแดงก็อยู่ยาก คนที่มีอำนาจวาสนาอยู่ตอนนี้ก็คงหมดวาสนา
ดาวฤกษ์ย่อมมีอิทธิพลเหนือดาวเคราะห์เสมอ
และลึกๆถ้าสังคมไม่ดัดจริต ความรู้ความสามารถ มันสมองของ พ.ต.ท.ทักษิณในการบริหารพัฒนาประเทศไปข้างหน้า เป็นที่ยอมรับ คนยังอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาบริหารประเทศ เพียงอย่างเดียว แต่ไม่อยากให้มีอำนาจ
เพราะฉะนั้นถ้าจะใช้สมองของ พ.ต.ท.ทักษิณในการชี้แนะด้านการบริหารบ้าง ก็น่าจะเป็นผลดีด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่า คนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในนี้ต้องมี ความชัดเจนและโปร่งใส ตำราด้านบริหารที่ฝรั่งตาน้ำข้าวเขียนเอาไว้เราก็เอามาใช้อย่างไม่ขัดเขินกลับภูมิใจยกย่องเสียด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นจะมีนายกฯสองคนหรือสามคนไม่ใช่สาระ
ให้ประเทศได้ประโยชน์ดีกว่าพวกมาเอาผลประโยชน์จากประเทศ.
หมัดเหล็ก
เถียงกันไม่จบ
ฝ่ายที่รอ ชะยันโต อยู่แล้ว ตีปี๊บ กันใหญ่ ทำลายภาวะผู้นำ และประจานให้ทั่วโลกรู้ว่า การบริหารประเทศภายใต้ระบอบการปกครองประชาธิปไตยแบบไทยๆเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้มีอิทธิพลตัวจริงในการบริหารบ้านเมืองและมีอิทธิพลทางการเมืองดึงดูดให้อยู่ในขั้วอำนาจ
ภาพของ นายกฯยิ่งลักษณ์ พยายามจะทำให้ความเป็นผู้นำชัดเจนขึ้น โดยมีข่าว ขัดใจพี่ ออกสื่อบ่อยๆ เช่นการปรับ ครม. การโหวตแก้รัฐธรรมนูญ การจะตั้งเสื้อแดงเป็น รมต. เพื่อให้นายกฯยิ่งลักษณ์สลัดหลุดจากภาพของหุ่นเชิดการเมือง และบ่วงวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา
คนที่เคยทำงานกับพี่ น้องก็ไม่ค่อยปลื้ม คนที่ทำงานอยู่กับน้อง พี่ก็ไม่ค่อยปลื้ม ภาพความชัดเจนทางการเมืองก็เลยอึมครึม ไม่ค่อยจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งๆที่ จะต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ต้องเป็นปลาอยู่ในข้องเดียวกัน ถึงบางครั้งจะแปลงสภาพเป็นไก่ในเข่งเดียวกันก็เถอะ
ความเป็นจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหน ต่างประเทศหรือในประเทศ ความเป็นพี่เป็นน้องต้องมีเยื่อใย ความเป็นเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ แต่ก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้เช่นกันว่า ในประวัติศาสตร์การแย่งชิงอำนาจก็เกิดขึ้นในหมู่เครือญาติ วงศ์ตระกูลเดียวกัน เมื่อถึงคราวอำนาจไม่เข้าใครออกใคร
และต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า ศูนย์รวมอำนาจยังอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หากขาด พ.ต.ท.ทักษิณ นายกฯก็อยู่ลำบาก เสื้อแดงก็อยู่ยาก คนที่มีอำนาจวาสนาอยู่ตอนนี้ก็คงหมดวาสนา
ดาวฤกษ์ย่อมมีอิทธิพลเหนือดาวเคราะห์เสมอ
และลึกๆถ้าสังคมไม่ดัดจริต ความรู้ความสามารถ มันสมองของ พ.ต.ท.ทักษิณในการบริหารพัฒนาประเทศไปข้างหน้า เป็นที่ยอมรับ คนยังอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาบริหารประเทศ เพียงอย่างเดียว แต่ไม่อยากให้มีอำนาจ
เพราะฉะนั้นถ้าจะใช้สมองของ พ.ต.ท.ทักษิณในการชี้แนะด้านการบริหารบ้าง ก็น่าจะเป็นผลดีด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่า คนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในนี้ต้องมี ความชัดเจนและโปร่งใส ตำราด้านบริหารที่ฝรั่งตาน้ำข้าวเขียนเอาไว้เราก็เอามาใช้อย่างไม่ขัดเขินกลับภูมิใจยกย่องเสียด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นจะมีนายกฯสองคนหรือสามคนไม่ใช่สาระ
ให้ประเทศได้ประโยชน์ดีกว่าพวกมาเอาผลประโยชน์จากประเทศ.
หมัดเหล็ก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น