วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คอลัมน์: ผ่าประเด็นร้อน: ศึกชิงผู้ว่าฯกทม.วัดใจคนกรุง ยอมรับพวกเผาเมือง-หมิ่นเบื้องสูง เมื่อ ๔ ก.พ.๕๖



คอลัมน์: ผ่าประเด็นร้อน: ศึกชิงผู้ว่าฯกทม.วัดใจคนกรุง ยอมรับพวกเผาเมือง-หมิ่นเบื้องสูง?


          ทีมข่าวการเมือง
         
          เหลืออีกราว 1 เดือน ก็จะถึงวันชี้ชะตาว่า ระหว่าง 2 ตัวเต็งอย่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีต ผู้ว่าฯกทม.จากพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ แชมป์เก่ากับผู้ท้าชิงคือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เสาไฟฟ้าทักษิณจากพรรคเพื่อไทย ใครจะเข้าป้ายได้นั่งเก้าอี้ผู้ว่าเมืองหลวง ซึ่งจะหย่อนบัตรลงคะแนนกันในวันที่ 3 มี.ค.นี้  ซึ่งแม้ผลสำรวจของโพลล์หลายสำนักล่าสุดจะชี้ว่า พล.ต.อ.พงศพัศมีคะแนนนำ แต่สถานการณ์ มีโอกาสเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งคงต้องดูกลยุทธ์หาเสียงของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันหย่อนบัตร แต่ที่สำคัญก็คือตัวแปรที่จะเป็นจุดชี้ขาดชัยชนะของแต่ละฝ่าย นั่นคือชาวกรุงที่เป็นพลังเงียบอีกถึงประมาณ ครึ่งหนึ่งที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร
          ศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ผู้สมัครหาเสียงสร้างภาพดราม่ามากกว่าการเลือกตั้งทุกครั้ง ที่ผ่านมา ถึงขนาดแค่เรื่องเป้ากางเกงขาดก็เอามาโชว์เป็นผลงานสร้างคะแนนนิยม รวมทั้งชูนโยบายขายฝันแบบรายวันอย่างไม่รับผิดชอบว่าจะทำได้จริงอย่างที่หาเสียงหรือเปล่า ซึ่งอาจเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน จนล่อแหลมอาจตายน้ำตื้นเพราะทำผิด กฎหมายเลือกตั้ง
          ศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้วนับว่าสำคัญกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะพรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถช่วงชิงเก้าอี้ผู้ว่า เมืองหลวงจากพรรคประชาธิปัตย์ได้เลยแม้แต่ ครั้งเดียว ซึ่งครั้งนี้นอกจากพรรคเพื่อไทยจะอาศัยความได้เปรียบในฐานะรัฐบาลที่คุมกลไกอำนาจรัฐทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยเหลือให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พิชิตศึกชิงผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ ที่สำคัญก็คือคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล ที่กำชับให้รัฐบาลหุ่นเชิดภายใต้การนำของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาวให้ระดม สรรพกำลังและทำทุกวิถีทางเพื่อยึดเก้าอี้ผู้ว่า เมืองหลวงให้ได้เพราะมีความสำคัญอย่างใหญ่หลวงต่อแผนการของระบอบทักษิณที่หวังผูกขาดอำนาจ ยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในอนาคต
          เพื่อแผนรวบอำนาจในศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย และ พล.ต.อ.พงศพัศ ถึงกับ ชูนโยบาย "ไร้รอยต่อ"ในการหาเสียงโดยพยายามชี้ว่าถ้าเลือกผู้ว่าฯกทม.ที่สังกัดคนละพรรคกับรัฐบาลก็จะทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งเหมือนช่วงน้ำท่วม  แต่หากผู้ว่าฯกทม.กับรัฐบาลเป็นพรรคพวกเดียวกันก็
          จะทำให้การบริหารงานราบรื่น
          ที่น่าสนใจก็คือ การให้ความสำคัญกับศึกเลือกตั้งชิง เก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ของรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณถึงกับ ไม่สนใจว่าจะเสียคะแนนนิยมด้วยการระดมแกนนำคนเสื้อแดงตัวเอ้ที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 และหลายคนเคยจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงอย่างเหิมเกริมเข้าร่วมการปราศรัยและรณรงค์หาเสียง ให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ อย่างเปิดเผย อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ สส. พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.พรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ
          เพราะฉะนั้นศึกชิงผู้ว่าเมืองหลวงครั้งนี้จะเป็นการพิสูจน์วัดใจชาวกรุงว่าลืมเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองจนพินาศย่อยยับรวมทั้งขบวนการจาบจ้วงเบื้องสูง และจะยอมให้ระบอบทักษิณยึดเมืองหลวงและผูกขาดอำนาจบริหารประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือไม่--จบ--

.....แนวหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น