วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สรุปข่าวเศรษฐกิจวันที่ 6 ก.พ.56




ธปท.ให้พนง.แบงก์หยุดสงกรานต์เพียง 4 วัน
06/02/2013 , 10:38  
Filed under breakingnewsเศรษฐกิจ
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า วันหยุดในเทศกาลวันสงกรานต์ปีนี้ สถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์ไม่ได้หยุดในวันศุกร์ที่ 12 เม.ย. ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ให้หน่วยงานราชการหยุด 5 วัน เนื่องจากสถาบันการเงินจะหยุดต่อเนื่องเกิน 4 วันไม่ได้ เพราะอาจจะกระทบต่อระบบการเงิน การชำระค่าสินค้าบริการ และการโอนชำระเงินได้
ทั้งนี้ ในเทศกาลวันสงกรานต์ปีนี้ สถาบันการเงินจะหยุดต่อเนื่องถึง 4 วัน คือ วันเสาร์ที่ 13 เม.ย. – วันอังคารที่ 16 เม.ย.เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบกำหนดวันหยุดราชการต่อเนื่อง 5 วันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 12-16 เม.ย. โดยเพิ่มวันศุกร์ที่ 12 เม.ย. เป็นวันหยุดเพิ่มอีก1วัน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาได้สะดวกมากขึ้น

แนวโน้มขนส่งทางเรือปี 56 รุ่งจากภาคส่งออกฟื้นตัว
06/02/2013 , 12:45  
Filed under breakingnewsเศรษฐกิจ

แนวโน้มธุรกิจขนส่งทางเรือปี 56 เติบโตได้จากภาคส่งออกฟื้นตัว แต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำยังต้องเร่งพัฒนา
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ให้มุมมองเกี่ยวกับธุรกิจการขนส่งทางเรือในปี 2556 น่าจะเติบโตดีขึ้น จากการฟื้นตัวของภาคการส่งออกไทย หลังจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้หลายอุตสาหกรรมจะกลับมาผลิตได้อย่างเต็มศักยภาพ การปรับแผนธุรกิจของผู้ประกอบการผลิตยานยนต์ ที่เน้นการผลิตเพื่อการส่งออกมากขึ้นหลังจากสิ้นสุดนโยบายรถคันแรก คาดว่า มูลค่าการขนส่งสินค้าทางเรือในปี 2556 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 8-10% เป็น 1.29-1.33 แสนล้านบาท และปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือผ่านท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือกรุงเทพประมาณ 87-89 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4-8%
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการขนส่งทางเรือ มีความเสี่ยงจากหลายด้าน อาทิ การแข่งขันของผู้ประกอบการเรือที่รุนแรงขึ้น ขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคยังไม่มากนัก ซึ่งส่งผลกับค่าระวางเรือที่ยังไม่ฟื้นตัว ผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่มีความเสี่ยงโดยเฉพาะเรือเดินสมุทรและการเข้าจอดในท่าที่ได้รับผลกระทบ ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รวมทั้งเงินบาทแข็งค่าที่ส่งผลต่อการส่งออก และกระทบเป็นลูกโซ่ต่อมายังการส่งออกสินค้าทางเรือ
ขณะที่ความพร้อมในการแข่งขันของธุรกิจขนส่งทางเรือของไทยในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกันยังมีประเด็นท้าทาย จากผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ปี 2012-2013 ของสถาบันการจัดอันดับ เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม พบว่า คุณภาพโครงสร้างพื้นฐานทางด้านท่าเรือของไทย ถูดจัดให้อยู่อันดับที่ 56 ของโลก ลดลงจากอันดับที่ 47 ในปี 2011-2012 ซึ่งตามหลังประเทศผู้นำอาเซียนอย่างสิงคโปร์ (อันดับที่ 2) และมาเลเซีย (อันดับที่ 21) ด้านค่าใช้จ่ายขนสินค้าส่งออกต่อ 1 ตู้คอนเทนเนอร์ของประเทศไทยยังคงอยู่ในระดับสูง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2556 มีปริมาณตู้สินค้าผ่านเข้า-ออกท่าเรือแหลมฉบังประมาณ 6.3-6.6 ล้านตู้ต่อปี จากประมาณ 6 ล้านตู้ในปี 2555 และคาดการณ์ว่าจะเกินขีดความสามารถในช่วงปี 2562-2563 ที่ประมาณ 11-13 ล้านตู้ต่อปี จึงจำเป็นต้องพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เพื่อรองรับปริมาณการเติบโตของสินค้า นอกจากนี้ ต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางน้ำเพื่อรองรับ AEC  ที่ภาครัฐตั้งเป้าหมายผลักดันบทบาทให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ในอาเซียน

ธปท.ไม่กดดันคลังให้รับผิดชอบหากศก.เสียหาย
06/02/2013 , 16:24  
Filed under เศรษฐกิจ
ผู้ว่าการธปท.ระบุไม่รู้สึกกดดันและยังทำงานตามปกติต่อไป แม้รมว.คลังส่งหนังสือถึงประธานบอร์ดแบงก์ชาติให้ลดดอกเบี้ยนโยบายและให้ร่วมรับผิดชอบหากเศรษฐกิจเสียหาย ด้านผู้เชี่ยวชาญฝ่ายกฎหมายระบุบอร์ดแบงก์ชาติดูแลเฉพาะงานทั่วไป งานเกี่ยวกับนโยบายการเงิน สถาบันการเงินและระบบชำระเงินมีคณะทำงานดูแลอยู่แล้ว ทำให้บอร์ดแบงก์ชาติจะสั่งให้กนง.ลดดอกเบี้ยคงไม่ได้
กรณีที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังได้ส่งหนังสือกระทรวงการคลังถึงนายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการธปท.(กกธ.)หรือบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งนายวีรพงษ์ ได้อ่านให้กรรมการฟังในที่ประชุมบอร์ดแบงก์ชาติครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยสาระสำคัญต้องการให้ธปท.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อลดกระแสเงินทุนไหลเข้า พร้อมระบุหากระบบเศรษฐกิจเกิดความเสียหายร้ายแรง บอร์ดแบงก์ชาติต้องร่วมรับผิดชอบนั้น
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า หนังสือดังกล่าวมีมาถึงประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งตามมารยาทไม่ควรบอกรายละเอียดของหนังสือและความคิดเห็นของกรรมการบอร์ดแบงก์ชาติแต่ละท่านได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้เป็นแรงกดดันและจะยังทำงานตามปกติต่อไป และย้ำว่าการดำเนินนโยบายการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)แต่ละครั้งจะดูข้อมูลค่อนข้างมากและหลายด้านประกอบกัน ฉะนั้นประเด็นที่ว่าบอร์ดกนง.จะไม่สนใจนโยบายของรัฐในการดูแลเศรษฐกิจไทยนั้นไม่ใช่เรื่องจริง
ด้านนายชาญชัย บุญฤทธิ์ไชยศรี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายช่วยงานบริหาร ธปท. ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และในฐานะเลขานุการบอร์ดแบงก์ชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ประธานบอร์ดแบงก์ชาติยังไม่ได้ให้ร่างหนังสือตอบกลับไปยังรมว.คลังในเรื่องดังกล่าวและยังไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆ
ทั้งนี้ ในพระราชบัญญัติธปท.พ.ศ.51 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับปัจจุบันได้เขียนชัดเจนว่า บอร์ดแบงก์ชาติมีอำนาจในการกำกับดูแลงานทั่วไปของธปท. ส่วนงานเกี่ยวกับนโยบายการเงิน นโยบายสถาบันการเงิน และนโยบายระบบชำระเงิน ซึ่งเป็นงานของแต่ละคณะกรรมการดูแลอยู่แล้ว หรือในอีกแง่หนึ่ง บอร์ดแบงก์ชาติจะดูแลได้เฉพาะงานที่เหลืออยู่นอกเหนือจากงานเกี่ยวกับนโยบาย 3 ด้านดังกล่าว ดังนั้น การที่บอร์ดแบงก์ชาติจะสั่งให้บอร์ดกนง.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็คงไม่ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ผู้ว่าการธปท.กล่าวว่า แม้ทางคณะรัฐมนตรีจะประกาศให้เป็นวันหยุดเพิ่มเติมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในวันที่ 12 เม.ย.นี้ ทางธปท.ไม่ได้ประกาศให้เป็นวันหยุดของสถาบันการเงิน เนื่องจากตามระเบียบกำหนดไม่ให้สถาบันการเงินหยุดติดต่อกันเกิน 4 วัน เพราะห่วงว่าจะมีปัญหาเรื่องเงินและธุรกรรมต่างๆ ได้ ฉะนั้น เรื่องนี้ธปท.จะออกประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเร็วๆ นี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น