วงปราศรัยพระวิหารสับรัฐดำเนินนโยบายเข้าทางกัมพูชา
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2556 ที่บริเวณศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลุ่มกำลังแผ่นดินนำโดยนายกิติศักดิ์ พ้นภัย และกลุ่มธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยในกรณีเขาพระวิหารและมณฑลบูรพา นำโดย นายสมาน ศรีงาม รวมทั้งกลุ่มรวมพลังปกป้องแผ่นดินอีสานตอนใต้ - ตะวันออก ได้เปิดเวทีปราศรัยกรณีคดีปราสาทพระวิหาร โดยมีผู้มารับฟังรวม 200 คน
นายกิติศักดิ์ พ้นภัย หัวหน้ากลุ่มกำลังแผ่นดิน เปิดเผยว่า การปกป้องดินแดนไทยบริเวณเขาพระวิหารนั้น ขณะนี้รัฐบาลไทยยังคงเป็นรองในด้านการต่อสู้ที่ศาลโลก ซึ่งหากสู้ต่อไป ไทยต้องเสียดินแดนที่บริเวณเขาพระวิหารอย่างแน่นอน เนื่องจากแนวนโยบายของรัฐบาล ไปเข้าทางกัมพูชา ดังนั้น ตนจึงเห็นว่าไทยจะต้องถอนตัวออกจากอำนาจของศาลโลก ไม่ยอมรับขอบเขตอำนาจของศาลโลก โดยจะต้องใช้ระบบรัฐของไทยจัดการแก้ไขปัญหาทุกอย่างบริเวณเขาพระวิหาร จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้
นายสมาน ศรีงาม แกนนำกลุ่มธรรมยาตราฯ กล่าวว่า ตนได้นำเสนอไปยังกระทรวงทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐบาลไทยว่า ในการแก้ไขปัญหาเขาพระวิหารนั้น จะต้องนำเอาอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 มาใช้ในการแก้ไขปัญหา เนื่องจาก อนุสัญญาสยามฝรั่งเศสค.ศ.1904 และ 1907 เป็นโมฆะเพราะ นายปรีดี พนมยงค์ ไม่ได้สัตยาบันกับรัฐสภาไทย แต่ว่าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกลับดื้อดึงไม่เห็นด้วย และยังบอกกันว่าอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 เป็นโมฆะไม่สามารถนำเอามาใช้ได้ เป็นความคิดเห็นที่ไม่ถูกต้อง ตนจะขับเคลื่อนในเรื่องนี้ เพื่อที่จะได้ทวงคืนเขาพระวิหารและมณฑลบูรพาให้กลับมาเป็นของประเทศไทยให้จงได้ จึงขอให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศร่วมกันต่อสู้ ซึ่งขณะนี้กำลังล่ารายชื่อเพื่อร่วมกันฟ้องศาลโลกในนามประชาชนชาวไทยต่อไป
นายกิติศักดิ์ พ้นภัย หัวหน้ากลุ่มกำลังแผ่นดิน เปิดเผยว่า การปกป้องดินแดนไทยบริเวณเขาพระวิหารนั้น ขณะนี้รัฐบาลไทยยังคงเป็นรองในด้านการต่อสู้ที่ศาลโลก ซึ่งหากสู้ต่อไป ไทยต้องเสียดินแดนที่บริเวณเขาพระวิหารอย่างแน่นอน เนื่องจากแนวนโยบายของรัฐบาล ไปเข้าทางกัมพูชา ดังนั้น ตนจึงเห็นว่าไทยจะต้องถอนตัวออกจากอำนาจของศาลโลก ไม่ยอมรับขอบเขตอำนาจของศาลโลก โดยจะต้องใช้ระบบรัฐของไทยจัดการแก้ไขปัญหาทุกอย่างบริเวณเขาพระวิหาร จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้
นายสมาน ศรีงาม แกนนำกลุ่มธรรมยาตราฯ กล่าวว่า ตนได้นำเสนอไปยังกระทรวงทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐบาลไทยว่า ในการแก้ไขปัญหาเขาพระวิหารนั้น จะต้องนำเอาอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 มาใช้ในการแก้ไขปัญหา เนื่องจาก อนุสัญญาสยามฝรั่งเศสค.ศ.1904 และ 1907 เป็นโมฆะเพราะ นายปรีดี พนมยงค์ ไม่ได้สัตยาบันกับรัฐสภาไทย แต่ว่าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกลับดื้อดึงไม่เห็นด้วย และยังบอกกันว่าอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 เป็นโมฆะไม่สามารถนำเอามาใช้ได้ เป็นความคิดเห็นที่ไม่ถูกต้อง ตนจะขับเคลื่อนในเรื่องนี้ เพื่อที่จะได้ทวงคืนเขาพระวิหารและมณฑลบูรพาให้กลับมาเป็นของประเทศไทยให้จงได้ จึงขอให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศร่วมกันต่อสู้ ซึ่งขณะนี้กำลังล่ารายชื่อเพื่อร่วมกันฟ้องศาลโลกในนามประชาชนชาวไทยต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น