วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ระทึกกลางดึก ไฟไหม้โรงพยาบาลดัง เร่งขนย้ายผู้ป่วยหนีตาย เมื่อ 22 ก.พ.56



ระทึกกลางดึก ไฟไหม้โรงพยาบาลดัง เร่งขนย้ายผู้ป่วยหนีตาย
 
เครื่องดูดเสมหะชำรุด ลามเกิดกลุ่มควันเป็นเปลวไฟ เผาไหม้กลางดึกโรงพยาบาลดัง เร่งขนย้ายผู้ป่วยหนีตายวุ่น
เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 22 ก.พ. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุตำรวจ 191 เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 
หลังได้รับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในพื้นที่เข้าตรวจสอบ ซึ่งในที่เกิดเหตุพบว่าได้มีกลุ่มควันออกมาจากห้องผู้ป่วยหนัก และตัวอาคารรับส่งผู้ป่วย เป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล กำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกมาจากห้องฉุกเฉิน และอาคารรับส่งผู้ป่วย จำนวนประมาณ 15 ราย ออกมาจากตัวอาคาร จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าไปตรวจสอบ พบว่าจุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้นั้นเป็นห้องเครื่องสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องดูดเสมหะ ถังออกซิเจนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งอยู่ด้านหลังห้องฉุกเฉิน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทุบกระจก เข้าไปในห้องเพื่อเร่งระบายควัน พร้อมกับใช้ถังเคมีดับเพลิงฉีดเพื่อสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด

ด้านนายแพทย์ วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้
ตนก็ได้รับรายงานจากทางโทรศัพท์ จากนั้นก็ได้รีบรุดมาตรวจสอบ เพื่อจะได้ช่วยกันประสานและส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่น โดยเบื้องต้นมีผู้ป่วย 15 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในแผนกศัลยกรรม และผู้ป่วยหนัก ซึ่งได้ส่งต่อผู้ป่วยหนักไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่จำนวน 8 ราย ส่วนอีก 7 ราย ได้ย้ายไปยังตึกดูแลผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล สำหรับสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้น มาจากเครื่องแซกชั่น หรือเครื่องดูดเสมหะ ที่อยู่ด้านหลังห้องฉุกเฉิน ซึ่งเครื่องนี้ได้ถูกใช้มานานแล้ว และอยู่ในสภาพเก่า คาดว่าคงทำงานมาหนัก จนทำให้ลูกสูบเกิดการเสียดสีกันอย่างแรง จนเกิดกลิ่นเหม็นไหม้และมีกลุ่มควันเกิดขึ้นมา แล้วกระจายไปตามท่อลมตามจุดต่างๆ ของโรงพยาบาล

ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่นานก็สามารถควบคุมเหตุการณ์ไว้ได้ โดยไม่ลุกลามไปยังจุดอื่น ถึงแม้ว่าอุปกรณ์จะเสียหายไป 1 เครื่อง 
แต่ก็มีเครื่องสำรองเตรียมพร้อมไว้แล้ว ซึ่งสามารถเปิดรักษาได้ตามปกติ เพียงแต่ปัญหาเรื่องของควันที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องปิดชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดตัวอาคารและอุปกรณ์ให้สะอาดก่อน คาดว่าภายใน 1 - 2 วันนี้ จะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ ส่วนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในช่วงนี้ ทางโรงพยาบาลก็สามารถดูแลได้อยู่แล้ว เพราะตึกที่เกิดเหตุเป็นเพียงตึกที่รับผู้ป่วยอุบัติเหตุเท่านั้น จึงไม่ได้กระทบไปยังตึกอื่น ซึ่งหากมีผู้ป่วยฉุกเฉินในระยะนี้ ก็จะส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงก่อน โดยได้ประสานกับโรงพยาบาลอื่นๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงไว้แล้ว จึงมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น