วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ฝ่ายค้าน-สว.ไล่บี้ลงใต้ ตะเพิดเหลิม ฉะไม่อยากทำก็ลาออก เมื่อ 20 ก.พ.56



ชื่อเรื่อง ฝ่ายค้าน-สว.ไล่บี้ลงใต้ ตะเพิดเหลิม ฉะไม่อยากทำก็ลาออก
 ผู้เขียน  -
 แหล่งข่าวหลัก แนวหน้า
 คอลัมน์ข่าว Breaking News
 URL http://www.naewna.com/politic/42126
 เนื้อหา
ฝ่ายค้าน-สว.ไล่บี้ลงใต้
ตะเพิดเหลิม
ฉะไม่อยากทำก็ลาออก
เจ้าตัวเซ็นตั้ง9วาดะห์
นั่งทีม“กุนซือ”ดับไฟ
ครม.รอสัญจรปลายปี
ยิงครูปัตตานีหวิดดับ
ถล่มฐาน‘ยะลา’เจ็บ4
เมื่อวันที่19กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงเกี่ยวกับเหตุไม่สงบในชายแดนภาคใต้ ว่า การที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงกับการแก้ปัญหาเหตุไม่สงบในชายแดนภาคใต้ประกาศว่า จะลงพื้นที่หลังเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เสร็จสิ้น สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลเห็นประโยชน์ของพรรคมากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน ส่วนกรณีข่าวจะมีการตั้งกลุ่มวาดะห์เป็นที่ปรึกษาในการแก้ไขปัญหาไฟใต้นั้น มองว่า เป็นแค่มุขใหม่ทางการเมืองและเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ทางออกที่ดีทีสุดคือ นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วยตนเอง
สว.จี้“เหลิม”ลงใต้ทันทีอย่าพลิ้ว
ต่อมา มีการประชุมวุฒิสภา ที่มี นายนิคม ไวยรัชพานิช เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายประเสริฐ ชิตพงศ์ ส.ว.สงขลา หารือไปยังรัฐบาลว่า เรื่องการบริหารงานและการพัฒนาชายแดนภาคใต้ ว่า สถานการณ์ชายแดนภาคใต้นับวันจะยิ่งรุนแรงขึ้น ตนในฐานะคนในพื้นที่ภาคใต้ จึงขอเรียนว่า การบริหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบ รัฐบาลที่ผ่านมาและรัฐบาลชุดปัจจุบัน ร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้จัดทำสมุดเล่มเขียวชื่อ "นโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555-2557" ซึ่งภายในหนังสือเป็นการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกือบทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบใน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลได้หยิบนโยบายเล่มนี้มาใช้มากน้อยแค่ไหนและรองนายกฯที่กำกับดูแลปัญหาชายแดนภาคใต้ คงไม่เคยหยิบมาอ่านด้วยซ้ำ หากรองนายกฯอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่เข้าใจ ก็ควรลาออกจากการดูแลปัญหาชายแดนภาคใต้ เพื่อตั้งบุคคลคนอื่นมาทำหน้าที่แทน
ถามจะรอทำไม-ไม่ใช่หน้าที่
ด้าน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ปัญหาชายแดนภาคใต้ ต้องใช้หลักการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานคือ"เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"ทั้งต้องเอารายงานของ สมช. รายงานของคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) ซึ่งเป็นคณะกรรมการอิสระ สมัย นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ทำไว้ หลักการใต้ร่มเย็นและคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่66/23 มาปรับใช้และขอให้ผู้ที่เกียวข้องลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ทันที โดยเฉพาะรองนายกฯที่เป็นผอ.ศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ (ศปก.กปต.) ไม่ต้องรอหลังเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เพราะท่านไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง
เหลิมตั้งวาดะห์เป็นที่ปรึกษาแล้ว
วันเดียวกัน ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้ทีมงานนำคำสั่งสำนักนายกฯที่56/2556 เรื่องเเต่งตั้งที่ปรึกษารองนายกฯเพื่อให้ดำเนินการด้านการข่าวเเละขับเคลื่อนนโยบายการเเก้ไขปัญหาจังหวัดชายเเดนภาคใต้ จำนวน 9คน โดยอำนาจหน้าที่ของที่ปรึกษารองนายกฯคือ ดำเนินการด้านการข่าวเเละงานการขับเคลื่อนนโยบายเเละยุทธศาสตร์การเเก้ปัญหาชายเเดนภาคใต้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ บทบาทเเละภารกิจที่เปลี่ยนเเปลงไป อันจะก่อให้เกิดผลดีกับทางราชการ ทั้งนี้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา11 (6) เเห่ง พรบ.ระเบียบบริหารราชการเเผ่นดิน พ.ศ.2534
โดยที่ปรึกษารองนายกฯ 9คน ประกอบด้วย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา, นายเด่น โต๊ะมีนา, นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์, นายซูการ์โน มะทา, นายนัจมุจดิน อูมา, น.ส.เพชรดาว โต๊ะมีนา, นายอับดุลเร๊าะห์มาน อับดุลสมัด, นายสุทธิพันธุ์ ศรีริกานนท์เเละนายสุดิน ภูยุทธานนท์
ยืนยันทหารหนุนตั้งวาดะห์
จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์และแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศปก.กปต.)ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม.ถึงกรณีมีคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษากลุ่มวาดะห์ ว่า เลือกบุคคลเหล่านี้มาเพราะเป็นคนในพื้นที่และมีความเข้าใจชาวมุสลิมอย่างดี อีกทั้งยังสนิทสนมกับตนเป็นอย่างดี โดยจะทำงานลักษณะประชุมโต๊ะเล็ก หากแนวคิดน่าสนใจและเกิดประโยชน์ จะดึงมาประชุมร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)และฝ่ายความมั่นคงเห็นด้วยแล้ว หลังได้พูดคุยกัน 
ส่วนการจะเปลี่ยนไปใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงในราชอาณาจักร (พรบ.ความมั่นคง) นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เดินมาถูกทางแล้วแน่นอน เพราะการใช้ มาตรา21 ใน พรบ.ความมั่นคง จะทำให้เกิดการพูดคุย โดยรัฐบาลจะเน้นเจรจา หากใช้ความรุนแรงปัญหาก็จะไม่จบสิ้นและตอนนี้มีผู้ก่อความไม่สงบที่เป็นระดับคนสำคัญมาเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ประมาณ 25คน
ยั๊วะถามลงใต้หลังชิงผู้ว่ากทม.
สำหรับประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ร.ต.อ.เฉลิม ว่า ต้องรอให้นายรัฐมนตรีสั่งการ จึงจะลงพื้นที่ภาคใต้ อีกทั้งยังบ่ายเบี่ยง โดยอ้างว่า ให้รอหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เสียก่อนนั้น ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ใครเป็นคนวิจารณ์ อภิสิทธิ์ รึเปล่า ถ้าใช่ ฝากบอกอภิสิทธิ์ ว่าในชีวิตเคยจับโจรหรือไม่ เคยจับปืนหรือไม่ เคยจับคนร้ายหรือไม่ เคยเสี่ยงตายหรือเปล่า”
ผบ.ทบ.เชื่อหวังดีตั้ง”วาดะห์”
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งกลุ่มวาดะห์ 9คน มาเป็นที่ปรึกษารองนายกฯว่า เชื่อว่ารัฐบาลได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว คงต้องดูเรื่องการทำงานกันต่อไป การเชิญบุคคลทั้ง 9คน มาเป็นที่ปรึกษานั้น รัฐบาลอาจต้องการคนมาร่วมแก้ไขปัญหาเพื่อให้ตกตะกอนมากขึ้น เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจว่า รัฐบาลพยายามช่วยแก้ไขปัญหา เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ ที่แต่งตั้งกลุ่มวาดะห์มาเป็นที่ปรึกษาเพราะประชาชนในพื้นที่ยังมีอคติกับคนกลุ่มนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่หนักใจ และไม่เคยหนักใจ เพราะทหารมีหน้าที่ทำงานตามคำสั่งรัฐบาล ถ้าเข้ามาช่วยแก้ปัญหาก็เป็นสิ่งที่ดี ส่วนทหารก็ทำงานต่อไปไม่มีปัญหา
“ปู”เรียกถกบูรณาการดับไฟ
ต่อมา เวลา 13.10น.หลังประชุม ครม.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้  9กระทรวง พร้อม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.เข้าประชุมนานกว่า  1ชั่วโมง 
โดยนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้เชิญกระทรวงที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจากฝ่ายความมั่นคง เพื่อเน้นย้ำประเด็นความห่วงใย ซึ่งอยากให้เร่งดำเนินการและประสานงานให้เร็ว โดยเฉพาะการบูรณาการเรื่องการให้ข้อมูลข่าวสารในพื้นที่และการวิเคราะห์ เพื่อให้เกิดเอกภาพในการทำงาน
ป้อง“เหลิม”เดี๋ยวลงพื้นที่ก็ได้
เมื่อถามว่า จะบูรณาการลงพื้นที่กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อย่างไร นายกฯกล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ ตนในฐานะนายกฯได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผอ.ศปก.กปต.อยู่แล้ว ซึ่งท่านก็ดูภาพร่วมและวันนี้ที่คุยก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เป็นการย้ำภายใต้กระทรวง ให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและทุกกระทรวงต้องทำงานร่วมกับ ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งได้มีการประชุมกันไปครั้งหนึ่งแล้ว  เมื่อถามวว่า จะช้าไปหรือไม่ที่ ร.ต.อ.เฉลิม จะลงภาคใต้หลังเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.นายกฯล่าวว่า การลงพื้นที่ในทันที่เกิดเหตุ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทำงานอยู่แล้ว ขณะเดียวกันกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็ลงไปทำหน้าที่ของตนเอง ส่วนกรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม จะลงไปในลักษณะบูรณาการ
สมช.ชี้กว่า5อำเภอเล็งเลิกพรก.
ขณะที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม.ว่า ได้หารือว่า พื้นที่ไหนพอจะปรับลดกำลังได้ หากพื้นที่ไหนสถานการณ์เริ่มเบาลงก็จะเก็บเป็นข้อมูลไว้เพื่อพิจารณาปรับลดจาก พรก.ฉุกเฉิน เป็น พรบ.ความมั่นคง ซึ่งวันที่ 19มีนาคม จะครบกำหนดใช้ พรก.ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ดังนั้นจึงพูดคุยกันว่า พื้นที่ใดบ้างที่พอจะลดโทนลงมาเหลือเพียง พรบ.ความมั่นคง ซึ่ง สมช.จะประชุมหารือข้อสรุปต่อไป
คาดดีเดย์ประกาศใช้19มี.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้น 5อำเภอใน 3จังหวัดภาคใต้ คือ อ.เบตง จ.ยะลา อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี  อ.กาบัง อ.แว้ง และอ.สุครีริน จ.นราธิวาส มีแนวโน้มจะลดจาก พรก.ฉุกเฉิน เป็น พรบ.มั่นคงและวันที่ 19มีนาคมนี้ จะเพิ่มพื้นที่ที่จะปรับลดระดับได้อีกหรือไม่  เลขาฯสมช.กล่าวว่า ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ตกผลึกก่อน เพราะสถานการณ์พัฒนาได้ตลอด ที่สำคัญที่สุดที่รัฐบาลตระหนักคือเมื่อ มีการประกาศลดระดับจาก พรก.ฉุกเฉินเป็น พรบ.ความมั่นคง ไม่ประสงค์ต้องไปประกาศเป็นพื้นที่ประกาศ พรก.ฉุกเฉินอีก จึงต้องให้ความแน่ใจเรื่องของสถานการณ์และกำลังในพื้นที่ที่จะดูแลได้ ทั้งนี้ จากการประเมินไว้เบื้องต้นมีมากกว่า 5อำเภอ แต่ความเข้มข้นใน 5 อำเภอ น่าจะมีความพร้อมกว่า ซึ่งจริงๆแล้วขณะนี้ต้องรอกำลังตำรวจก่อน เพราะหลักการเมื่อประกาศลดโทนทหารต้องถอนกำลัง ตำรวจกับกระทรวงมหาดไทยต้องเสริม คือทุกส่วนต้องสอดรับกัน ทั้งนี้อัตราตำรวจอนุมัติมาแล้ว 1,700อัตราและอัตราอาสาสมัครได้รับมาแล้ว 900อัตรา
ไล่ยิงครูปัตตานีบาดเจ็บสาหัส
สำหรับเหตุร้ายรายวันในพื้นที่นั้น กลางดึกคืนวันที่ 18กุมภาพันธ์ เกิดเหตุคนร้ายขับรถกระบะ ไม่ทราบเลขทะเบียน ตามประกบยิง นายสมาน อีซอ อายุ 56ปี ครูโรงเรียนบ้านตุปะ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ขณะขับรถกระบะอีซูซุ ทะเบียน บท1018นครศรีธรรมราช ออกจากร้านน้ำชามุ่งหน้ากลับบ้านพัก ต.ตะโละ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี โดยเหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านเปาะกูแม ม.2 ต.ตะโละ อ.โคกโพธิ์ ซึ่ง นายสมาน ถูกยิงที่แขนและซี่โครงขวา จากนั้นได้ขับรถพุ่งลงข้างทางและแข็งใจหนีไปหลบซ่อนป่า กระทั่งมีชาวบ้านมาพบและนำส่ง รพ.ปัตตานี โดยมีอาการสาหัส ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์
ล่าแนวร่วมโจมตีฐานบาเจาะ
เวลา 03.30น.วันที่ 19กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พ.อ.ธนิต แสงจันทร์ หัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า พ.ท.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผบ.ฉก.นราธิวาส30 สนธิกำลังตำรวจและทหาร 60นาย บุกตรวจค้น 5เป้าหมาย พื้นที่บ้านมือและ หมู่1ต.สาวอ อ.รือเสาะ เพื่อไล่ล่ากองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคกลุ่ม นายรอแปอิง อุเซ็ง ซึ่งเป็น 1ใน 5 กลุ่มที่หลบหนีมาได้ หลังร่วมกันนำกำลังบุกโจมตีฐานปฎิบัติการร้อยปืนเล็กที่2 ฉก.นราธิวาส 32 บ้านยือลอ ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จนถูกวิสามัญเสียชีวิตไป 17ศพ รวมถึง นายมะรอโซ จันทรวดี แกนนำระดับปฎิบัติการที่นำกำลังบุกโจมตีฐาน เมื่อวันที่ 13กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
รวบได้2รายอีก3หนีหวุดหวิด
เมื่อถึงเป้าหมายที่บ้านพักไม่มีเลขที่ เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังโอบล้อมและแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น โดยมีชายฉกรรจ์ 3คน ซึ่งอยู่ในบ้านพักวิ่งหนีไปในป่ารกทึบ ส่วนอีก 2คน ชูมือออกมามอบตัว คือ นายไอร์สือมาล เจ๊ะหะมะ ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดตำรวจ สภ.รือเสาะและมีหมายจับ พรก.อีก 1หมาย ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังติดที่ร่วมโจมตีฐานปืนเล็กฉก.นราธิวาส32 ส่วนอีกคน คือ นายอาลี บากา ผู้ต้องหาตามหมายจับของ สภ.รือเสาะ คดีวางเพลิงโรงเรียนบ้านมือ หมู่1 ต.สามัคคี อ.รือเสาะและเป็นมือประกอบระเบิดให้แนวร่วมในพื้นที่ อ.ศรีสาครและอ.รามัน จ.ยะลา
ยึดปืน9มม.-อุปกรณ์ยังชีพ
ต่อมา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในบ้านพักอย่างละเอียด พบปืนพกสั้นขนาด 9ม.ม.จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 26นัด เปลสนาม โทรศัพท์มือถือ 4เครื่อง ซิมโทรศัพท์ 5อัน ลูกประคำ เงินสด และรองเท้า ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2รายและของกลาง ไปสอบสวนขยายผลที่ฐานปฎิบัติการ ฉก.นราธิวาส30 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดสวนธรรม ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ส่วนชายฉกรรจ์อีก 3คน ที่วิ่งหลบหนีไปนั้น ได้จัดกำลังออกไล่ล่าอย่างกระชั้นชิดแล้ว ซึ่ง1ใน 3คนร้ายที่หนีไปได้นั้น คือ นายรอแปอิง อุเซ็ง หัวหน้าชุดที่ร่วมบุกโจมตีฐานปฎิบัติการร้อยปืนเล็กที่2 ฉก.นราธิวาส32
ยิงผช.ผญบ.ปัตตานีดับคาที่
เวลา 08.20น.วันที่ 18กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.สุชาติ อัศวจินดา ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายยิงราษฎรเสียชีวิต 1ราย เหตุเกิดที่ ม.3 ต.ป่าบอน อ.โคกโพธิ์ จึงนำกำลังตำรวจ และทหาร รุดไปตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตคือ นายสมศักดิ์ สุรสิทธิ์ อายุ 45ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.4 อยู่บ้านเลขที่41/1 ม.4 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ นายสมศักดิ์ กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากส่งภรรยาไปทำงานที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม พื้นที่ ต.มะกรูด ระหว่างทางมีคนร้าย 2คน ขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงด้วยปืนพกสั้นขนาด.38 กระสุนถูกที่ศรีษะเสียชีวิตทันที สาเหตุอยู่ระหว่างสืบสวนว่า เกี่ยวข้องกับเหตุไม่สงบหรือไม่
เตือนคาร์บอมบ์2คันจ้องป่วน
ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ แจ้งเตือนว่า ขณะนี้กลุ่มก่อความไม่สงบประกอบระเบิดรถยนต์ 2คัน คือ รถยนต์อีซูซุ ตอนเดียวไม่ทราบสีและทะเบียน และรถเก๋งยี่ห้อโปรตอน ไม่ทราบสีและไม่ทราบทะเบียน รูปทรงคล้ายกับรถเก๋งมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์
จึงขอให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มการเฝ้าระมัดระวังอย่างเข้มข้น ตามสถานบันเทิง โรงแรม ธนาคาร ศูนย์การค้าและย่านใจกลางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเข้ามาก่อเหตุที่ใดที่หนึ่งได้ในพื้นที่เป้าหมาย 4จังหวัด ประกอบด้วย จ.สงขลา ปัตตานี ยะลาและจ.นราธิวาส
 วันที่เผยแพร่ 20 ก.พ. 2556
 วันที่บันทึกข้อมูล 20 ก.พ. 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น