วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วางบึ้มปัตตานีอีก อนามัย-รร.พังยับ ทหารรปภ.ครูสาหัส2นาย เมื่อ 23 ก.พ.56



ชื่อเรื่อง วางบึ้มปัตตานีอีก อนามัย-รร.พังยับ ทหารรปภ.ครูสาหัส2นาย
 ผู้เขียน  -
 แหล่งข่าวหลัก แนวหน้า
 คอลัมน์ข่าว อาชญากรรม
 URL http://www.naewna.com/local/42529
 เนื้อหา
วางบึ้มปัตตานีอีก
อนามัย-รร.พังยับ
ทหารรปภ.ครูสาหัส2นาย
ยิงM79ถล่มตร.บาดเจ็บ6
สถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 7.40 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.อดุลย์ ปีแนบาโง ผกก.สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นหน้าสถานีอนามัยตะโละดือรามัน ม.4 ต.ตะโละดือรามัน จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุ ไปถึงพบว่าเหตุระเบิดดังกล่าวไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ พบว่าคนร้ายนำระเบิดมาซุกไว้ริมถนน พบชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณสอบสวนทราบว่า ขณะที่ทหารชุด รปภ.ครู ฉก.ปัตตานี 25 จำนวน 6 นายกำลังเดินตรวจเส้นทางก่อนที่คณะครูจะผ่าน ปรากฏว่าคนร้ายได้กดฉนวนระเบิดแสวงเครื่อง แต่โชคดีที่ทหารเดินตามยุทธวิธีจึงปลอดภัย

บึ้มคารร.ปัตตานีทหารสาหัส2

เหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.53 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.2514 ฉก.ปัตตานี 24 กำลังดูแลความปลอดภัยครูอยู่บริเวณโรงเรียนบ้านเกาะตา ริมถนนสาย 419 ม.3 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ ปรากฏว่าคนร้ายได้กดฉนวนระเบิดแสวงเครื่อง จนเกิดเสียงดังสนั่น แรงระเบิดทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที 2 นาย เจ้าหน้าที่รีบนำส่ง โรงพยาบาลโคกโพธิ์ ทราบชื่อ พลฯบรรหาร ลักนาควร อายุ 22 ปี และ พลฯภัทรพรรค แก้วชู อายุ 22 ปี ทั้งสองถูกแรงระเบิดและสะเก็ดระเบิดเข้าลำตัวหลายแห่ง
เสาอาคารเรียนหักสองท่อน
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.ต.ท.จำลอง สุวรรณลักษณ์ สารวัตรใหญ่ สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ นำกำลังพร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ที่อาคารเอนกประสงค์ ตั้งอยู่ภายในโรงเรียน แรงระเบิดทำให้เสาของอาคารซึ่งเป็นครึ่งปูนครึ่งไม้ขาดทำให้ตัวอาคารทรุดพังลงมาได้รับความเสียหายพบหลุมระเบิดกว้าง 30 ซม. และชิ้นส่วนระเบิดชนิดเคโมกระจายไปทั่วบริเวณ ส่วนอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอกแตกหักเป็น 2 ท่อน
โชคดีครู-นร.รอดหวุดหวิด
สอบสวนทราบว่า ขณะที่ทั้ง 2 นาย พร้อมพวกรวม 7 นาย กระจายกำลังยืนดูแลความปลอดภัยครูและนักเรียน ปรากกฎว่าคนร้ายได้กดระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 5 กก.จุดฉนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น โชคดีที่ช่วงเกิดเหตุนักเรียนและครูพึ่งทยอยมาโรงเรียน แต่ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บทันที 2 นาย
วิทยุด่วนสั่ง12อำเภอคุมเข้ม
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้วิทยุด่วนที่สุด ถึงตำรวจทั้ง 12 อำเภอให้เพิ่มความระมัดระวังพื้นที่โดยเฉพาะสถานที่ราชการ ย่านชุมชน พร้อมกำชับให้ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทันที เพื่อกดดันปิดช่องว่างไม่ให้กลุ่มก่อความไม่สงบมีโอกาสออกมาก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์
นักเรียน-ครูผวาปิดโรงเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องสงสัยจำนวน 5 คน และทำการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอส่วนโรงเรียนหลังเหตุระเบิดทำให้ครูต่างตกใจหวาดกลัว ไม่มั่นใจในความปลอดภัย ทำให้ไม่มีครูและนักเรียน ทำให้โรงเรียนจึงต้องปิดโดยปริยาย
ครู3จว.ใต้นัดถกสพฐ.26กพ.
ด้านนายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า วันที่ 26 ก.พ.ที่จะถึงนี้ที่โรงแรม ซีเอส.ปัตตานี รองเลขาธิการสพฐ.จะมีการประชุมร่วมกับสมาพันธ์ครูสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องการดูแลความปลอดภัยครูในระดับเขตพื้นการศึกษาและสมาพันธุ์ฯร่วมกันในพื้นที่เสี่ยงภัย และล่อแหลม
“ที่สำคัญขอให้ครูระมัดระวังตัวในช่วงนี้ เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงป้องกัน หลังจากเกิดเหตุการณ์ 16 ศพ การทวงคืน แน่นอน กระแสข่าวว่าครูก็เป็นกลุ่มเป้าหมายที่อ่อนแอ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องระมัดระวังตัว โดยการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ดูแลตัวเองให้เกิดความปลอดภัย สังเกตชุมชนไหนไม่ปลอดภัยก็อย่าไป และให้ปฏิบัติตามแผนและเงื่อนไขการรักษาความปลอดภัยครูทุกประการ” นายบุญสม กล่าว
ยะลายึดรถสงสัยทำคาร์บอมบ์
ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา พ.ต.อ. พชรพล ณ นคร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ตรวจสอบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิคสภาพเก่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หมายเลขเครื่อง MF616-602614 หมายเลขตัวถัง EJ -902581 มีลักษณะต้องสงสัยตรงตามที่สายข่าวรายงานจึงทำการตรวจยึดเพื่อนำมาตรวจสอบภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และ ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 นำกำลัง 80 นาย ได้ตรวจยึดมาจากอู่แห่งหนึ่ง ม.8 บ้านบุดี ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อกลางดึกผ่านมา ซึ่งมีลักษณะต้องสงสัยเตรียมใช้เป็นคาร์บอมบ์ตรงตามที่สายข่าวรายงาน
พ.ต.อ.สุคนธ์ กล่าวว่า อู่ซ่อมรถดังกล่าวอยู่ในพื้นที่บ้านบุดี อ.เมือง ยะลา ของนายแวอุเซ็ง สีมายอ เบื้องต้นนายแวอุเซ็ง ให้การว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวชื่อนายยิ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นรถของชาติมาเลเซีย โดยนายยิ ได้ลากมาซ่อมที่อู่ โดยแจ้งว่ารถคันดันกล่าวสตาร์ตไม่ติด เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ไม่สามารถติดต่อนายยิ ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดเอาไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป
งานสมโภชเจ้าแม่ปัตตานีกร่อย
ขณะที่ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานว่า งานมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานี 2556 กับงาน “กตัญญูคู่ฟ้า สมโภชเจ้าแม่ลิ้มก่อเหนี่ยว” ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ 21-27 ก.พ.นี้ บรรยากาศงานมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจากหลายพื้นที่ทยอยจัดของเพื่อจำหน่ายสินค้ากัน แต่จำนวนน้อยกว่าทุกปี ส่วนผู้ที่มาท่องเที่ยวในงานมีจำนวนน้อยกว่าทุกปีเช่นกัน ทำให้บรรยากาศงานเงียบเหงาเนื่องจากกลัวกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์ระเบิดขึ้นหลายจุดในเมืองปัตตานีที่ผ่านมาท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยในงานมีความเข้มงวดกว่าทุกปี
“เหลิม”ปัดข่าวคาร์บอมบ์5 คัน
ทางด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์และแก้ปัญหาความไม่สวงในชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) กล่าวถึงกรณีมีข่าวโจรใต้เตรียมคาร์บอมบ์ 5คันในพื้นที่ ว่า เรื่องแบบนี้ตนไม่พูดเพราะสมช.ยังไม่ได้รายงานมา วันนี้ก็มีสื่อไปแขวะตนว่าออกมาพูดก่อน ก็จะไม่ให้พูดได้อย่างไร เมื่อทางสมช.รายงานมา ตนมีนโยบายป้องกัน และไม่ต้องการให้เหตุเกิดขึ้นก่อน
โวตร.เก่าต่อสาย10นาทีรู้ข่าวหมด
“ผมทำงานแบบตำรวจเก่า แต่บางคนไม่เคยเป็นตำรวจมาก่อน บางเรื่องอาจจะเก่ง แต่ขาดความเข้าใจกับการประสานงาน สำหรับในภาคใต้ ผมอาจจะลงพื้นที่บ้าง ไม่ลงบ้าง แต่พอผมได้ข่าวปุ๊บก็จะแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทุกคนในพื้นที่เป้าหมาย โดยจะโทรศัพท์คุย ไม่ใช่ว่าผมนั่งอยู่ในทำเนียบโดยไม่ดูดำ ดูดีเขา ผมติดตามตลอด เขาทำงานกันแบบบูรณาการภายใน 10นาที ข่าวก็ถึงกันหมดแล้ว”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ยธ.ชงขยายใช้ม.21-ลดฉุกเฉิน
ส่วนพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าหารือว่า ได้ข้อสรุป2 ข้อสำคัญคือ 1.พิจารณาการขยายพื้นที่การใช้มาตรา 21 ตาม พรบ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 2551 และลดพื้นที่การประกาศใช้พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้เป็นไปตามความเห็นของกอ.รมน. และ2 .ในพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้มาตรา 21 ตาม พรบ.ความมั่นคงฯจะมีการบริหารจัดการการบังคับใช้กฎหมายอย่างบูรณาการ
เตรียมเสนอขอไฟเขียวครม.
ทั้งนี้การจะประกาศลดหรือเพิ่มพื้นที่ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กอ.รมน.ในฐานะผู้รับผิดชอบจะเป็นผู้พิจารณาสถานการณ์เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการณ์ขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปก.กปต.)และจะรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นผู้พิจารณาตามข้อเสนอต่อไป
อย่างไรก็ตาม การประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯจะครบกำหนด 19 มี.ค.นี้ ดังนั้น การจะประกาศลดหรือเพิ่มจำนวนพื้นที่ใช้มาตรา 21 จะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
ย้ำมีขั้นตอนคัดกรองคนมอบตัว
พล.ต.อ.ประชา กล่าวต่อว่า ในการใช้มาตรา 21 จะต้องมีขั้นตอนการกลั่นกรองกลุ่มบุคคลโดยหน่วยปฏิบัติคือกอ.รมน.รวมถึงจะมีการแต่งตั้งอัยการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองด้วย เพื่อแยกให้ชัดว่ากลุ่มใดคือกลุ่มผู้กระทำความผิดและกลุ่มใดคือกลุ่มผู้หลงผิด ทั้งนี้ การใช้บังคับใช้กฎหมายมาตรา 21 จะเป็นประตูสู่กระบวนการสร้างสันติภาพ
 วันที่เผยแพร่ 23 ก.พ. 2556
 วันที่บันทึกข้อมูล 23 ก.พ. 255

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น