วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ใช้แผนทะเลเพลิง แก้แค้น ถล่มใจกลางเมืองย่านธุรกิจ วางบึ้ม เผาปัตตา เมื่อ 18 ก.พ.56



ชื่อเรื่อง ใช้แผนทะเลเพลิง แก้แค้น ถล่มใจกลางเมืองย่านธุรกิจ วางบึ้ม เผาปัตตานี
 ผู้เขียน  -
 แหล่งข่าวหลัก แนวหน้า
 คอลัมน์ข่าว อาชญากรรม
 URL http://www.naewna.com/local/41889
 เนื้อหา
ใช้แผนทะเลเพลิง‘แก้แค้น’

ถล่มใจกลางเมืองย่านธุรกิจ
วางบึ้ม!เผาปัตตานี
อส.สังเวย3-ชาวบ้านเจ็บอีก11
ป่วนพร้อมกันทั้งคืนกว่า10จุด
จับตาแนวร่วม3กองร้อยเอาคืน
โจรใต้ได้ออกปฏิบัติการโจมตีย่านเศรษฐกิจและสถานบันเทิงใจกลางเมืองปัตตานีตลอดทั้งคืนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่อง
จนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ มีทั้งการวางระเบิดแสวงเครื่อง และวางระเบิดเพลิงเผานับ 10 จุด เพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่และทำลายขวัญประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ หลังแนวร่วม 17 คน เสียชีวิต จากเหตุโจมตีฐานทหารนาวิกโยธินที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาสเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

สำหรับสถานการณ์ความรุนแรง ที่ จ.ปัตตานี ตลอดทั้งคืนได้เกิดเหตุระเบิด เพลิงไหม้ ย่านร้านค้า สถานบันเทิง จำนวน 8 จุด ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ตั้งแต่เวลา 18.40-24.00 น.ทำให้ตลอดทั้งคืนเจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทุกหน่วยเพื่อเก็บกู้วัตถุระเบิด ช่วยกันดับเพลิงไหม้ และตั้งจุดตรวจเพื่อสกัดติตามคนร้าย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงมีการตรวจสอบความเสียหายและสิ่งต้องสงสัยอย่างละเอียดเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ในเช้านี้อีกครั้ง สามารถสรุปเหตุได้ดังนี้
วางบึ้มร้านของชำแต่กู้ได้ทัน
เหตุแรกเมื่อเวลา 18.40 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองรับแจ้งพบวัตถต้องสงสัยนำมาวางที่ร้านไพศาล เป็นร้านขายของชำตั้งอยู่ที่ ถ.อุดมวิถี จึงได้ทำการเก็บกู้ได้สำเร็จ ตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดเพลิง มีส่วนประกอบ เป็นกล่องกระดาศขนาด 2X8 นิ้ว นาฬิกาตั้งเวลา23.58น.เชื้อประทุในหลอดพลาสคิกมีหัวไม้ขีดไฟ หลอดน้ำมันอยู่ในถุงยางอนามัย
ระเบิดปั้มชาวบ้านเจ็บ1ราย
ต่อมาเวลา 19.00 น. จุดที่ 2 ได้เกิดเหตุระเบิดในซอยเอสโซ่ ย่านสถานบันเทิงคาราโอเกะ ถ.รามโกมุท บริเวณถังขยะหน้าบ้านเลขที่ 71/12 เสียหายเล็กน้อย แรงระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อ นายปอน ชุมพงษ์ อายุ 32 ปี ถูกสะเก็ดที่ใบหน้า ตรวจสอบพบว่าคนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่องบรรจุกล่องเหล็ก น้ำหนัก 3 กิโล ระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์ ยังเหลือกล่องเหล็กเป็นแผ่นและพบเศษเหล็กตัดท่อน
ซุกบึ้ม50กก.โชคดีตามเก็บทัน
จุดที่ 3 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ได้ทำการตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ติดป้ายทะเบียน กธล 542 ปัตตานี ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง จอดอยู่ด้านขวาที่พ่วงข้างมีฝาปิด บนฝาปิดวางกระติกน้ำแข็ง 3 ใบ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดฝาพบถุงปุ๋ยวางอยู่กลาง สองฟากข้างมีแกลลอนน้ำมันขนาด 5 ลิตรข้างละ 4 อัน เมื่อเปิดถุงปุ๋ยพบถังแก๊ส ขนาด บรรจุแก๊ส 15 กก. ต่อวงจรระเบิดอยู่ด้านข้าง เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บกู้สำเร็จพบว่าเป็นระเบิดรวมน้ำหนักประมาณ 50 กก. มีส่วนประกอบที่สำคัญตั้งวงจรด้วยระเบิดเวลา ดินระเบิดอินโฟ เหล็กเส้นตัดท่อน
ตรวจพบดีเอ็นเอเจ้าของจยย.
เจ้าหน้าที่ได้ทำการจัดเก็บ DNA และลายนิ้วมือแฝงที่รถจักรยานยนต์ แกลลอนน้ำมัน ถังแก๊ส ปผงวงจร จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ทางทะเบียนพบว่าเป็นรถของนายสะโบน ระเหม บ้านเลขที่ 181/1 ม.3 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา สภาพรถอาญัติ แผ่นป้ายทะเบียนแจ้งหายปี2550 ที่ตลาดเปิดท้ายอบต.บานา เป็นป้ายทะเบียนของนายสุรินทร์ นิธิวัฒนาประสิทธิ เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์ต่อไป
วางระเบิดเพลิงกะเผาทั้งเมือง
จุดที่4 พบวัตถุต้องสงสัยระเบิด เพลิง ที่ร้านออนวิทยา ถ.ปัตตานีภิรมณ์ และจุดที่ 5 ที่ร้านรุ่งเรือง ถ.พิพิธ ป็นระเบิดเพลิงลักษณะเดียวกันที่ร้านไพศาล เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้สำเร็จ ไม่ได้รับความเสียหาย
ต่อมาเวลา 24.00 น. จุดที่ 6 ได้เกิดเหตุระเบิดเพลิงไหม้ที่ไดอาน่าซูเปอร์มาร์เก็ต ถนนอุดมวิถี ทำให้เกิดระเบิดเพลิงไฟลุกไหม้ด้านในซูเปอร์มาร์เก็ต เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังพร้อมประสานหน่วยกู้ภัย และชุดดับเพลิงเทศบาลเมืองปัตตานี เข้าไปช่วยเหลือทันที เนื่องจากเป็นร้านซุปเปอร์มีข้าวของเป็นจำนวนมาก มีเครื่องใช้ที่เป็นพลาสติกจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เพลิงไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วในที่สุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าหวิดวอด

จุดที่ 7 ในระหว่างนั้นได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้บริเวณสี่แยกไฟแดง ห่างจากจุดแรกเพียง 100 เมตร เป็นตึกสี่ชั้นซึ่งเป็นร้านเมืองไทยจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในบ้านที่ชั้น 4 มีผู้สูงอายุ ตา ยาย นอนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือ โชคดีที่อาสาสมัครกู้ภัยสามารถขึ้นไปที่ชั้น 4 แล้วนำสองตายายลงมาได้อย่างปลอดภัย
จุดที่ 8 เวลาไล่เลี่ยกันได้เกิดเหตุระเบิดเพลิงที่ร้านดีเครื่องครัว ถนนสุวรรณมงคล แต่เจ้าของร้านสามารถดับเพลิงไว้ได้ทัน
เผาเสาสัญญาณมือถือ-วงจรปิด
ในส่วนพื้นที่อ.ยะรัง เมื่อเวลา 03.35 น. เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิง2จุดคือเผาเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ GSM ที่ ม.5 ต.ปิตูมูดี เป็นเหตุให้ตู้ควบคุมได้รับความเสียหายจากเพลิงลุกไหม้ทั้งหมดมีมูลค่าความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านบาท และ กล้องวงจรปิดบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลยะรัง ม. 1 ได้รับความเสียหาย 1 จุด บริเวณด้านข้างโรงพยาบาล ม.2 จำนวน 1 จุด และบริเวณ ม.2 บ้านบาซาเวาะเซ็ง ได้รับความเสียหาย รวมจำนวน 3 จุด
เผาที่พักชรบ.-เครื่องจักรเสียหาย
เวลาไล่เรี่ยกันคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางเพลิงที่พักเฝ้ายามของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ป้อม ชรบ.)บริเวณ ม.1 บ้านปูลาโต๊ะรายอ ต.ระแว้ง เป็นเหตุให้เครื่องจักรของกลุ่มแม่บ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่โชคดีที่ชาวบ้านได้ช่วยกันดับไฟได้ทัน จึงทำให้อาคารและเครื่องจักนับร้อยเครื่องได้รับความเสียเพียงบางส่วน
แหล่งข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ข่าวแจ้งเตือนมาแล้วว่ากลุ่มแนวร่วมในพื้นที่เตรียมที่จะลงมือก่อเหตุทุกรูปแบบ เพื่อโต้เจ้าหน้าที่รัฐ หลังจากห่วงเวลาที่ผ่านมาภายในสามวัน เจ้าหน้าที่ได้มีการควบคุมตัวคนร้ายคดีความมั่นคงได้อย่างต่อเนื่อง
บึ้มหอนาฬิกากลางเมืองปัตตานี
ต่อมาเวลา 11.55 น.พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นบริเวณหอนาฬิกาในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ข้างร้านเสื้อผ้าตรงข้ามร้านบิ๊กเบน คอฟฟี่ แอนเรสเตอรองต์ ถ.หนองจิก ต.สะบารัง จึงรายงานให้ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผบก.นำกำลัง และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงรีบช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี
อส.สังเวยไฟแค้นดับ3ศพ
แรงระเบิดทำให้กระจกร้านอาหารดังกล่าว และ บ้านเรือนร้านค้า กระจกแตกได้รับความเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน รถ จยย.เสียหายกว่า 10 คัน รถยนต์ 1คันและแรงระเบิดในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพคือ นายวิโรจน์ จันทสิริ นายสุกรี ดือเระ และนายอิทธิพล อาแซ ทั้งสามเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจังหวัดปัตตานี
ชาวบ้านรับเคราะห์เจ็บอีก11
ส่วนผู้บาดเจ็บมี 11 ราย คือ นายอิทธิพล อาแซ อาการสาหัส นส.โซฟียะ เปาะจิ นายคฑาพันธ์ สินสนอง นายอิทธิพล อาแซ นางดารุณี เสถียรมงคล นายสุกิจ ยูโซ๊ะ นายอิบรอเฮม เตาะสาตู นางกิ่งกาญจน์ มหาวรรณ นายวสันต์ จันทร์บุญธรรม นายสมศักดิ์ แก้วมณี และเด็กชายอำนาจ แซ่หว่อง ทั้งหมดถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณลำตัว นำส่งโรงพยาบาลปัตตานี อาการปลอดภัย
จากการสอบสวนทราบว่า ได้มีคนร้ายนำระเบิดบรรจุในถังดับเพลิงขนาดเล็ก น้ำหนัก 10 กก.จำนวน 2 ลูกรวม 20 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร วางไว้ในกองผ้าตรงข้ามร้านอาหารบิ๊กเบ็น โดยมีอาสาสมัครและประชาชนกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ จากนั้นคนร้าย ได้กดจุดชนวนจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ประชาชนแตกฮือ ต่างวิ่งหลบหนีคนละทิศคนละทางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเคลียร์พื้นที่
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภาพจากวงจรปิด ปรากฏว่า พบคนร้ายเดินถือถุงผ้ามาวางไว้ที่จุดเกิดเหตุตรงที่ อส.อยู่ จากนั้นรีบเดินหนีไปโดยที่ไม่มีใครเอะใจ กระทั่ง อส.ทั้ง 3 นายเดินทางมาถึงคนร้ายก็กดชนวนระเบิดทันที
ชี้คนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกัน
ด้านพล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ระบุว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุสร้างสถานการณ์เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งตนได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มตลอดเวลา ทั่งๆ ที่มีข่าวออกมาตลอดเวลา แต่เราก็ป้องกันอย่างเข้มงวด กลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะมีการวางแผน และใช้ชุดที่รู้จักเส้นทางหลบหลีกเจ้าหน้าที่หลังก่อเหตุ จึงสามารถหนีออกจากพื้นที่ได้ ทั้งนี้ตนจะเร่งรัดสืบสวนสอบสวนติดตามไล่ล่าคนร้ายกลุ่มนี้ให้เร็วที่สุด
เจอบึ้มอีก1ลูกที่ห้างไดอาน่า
ต่อมาอีก 1 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่า มีผู้พบเห็นระเบิดลูกหนึ่ง ซุกไว้ใกล้กับห้างไดอาน่าซุปเปอร์มาเก็ตกลางเมืองปัตตานี ที่เพิ่งถูกระเบิดเพลิงไปเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา จึงเข้าทำการเก็บกู้จนสำเร็จ อย่างไรก็ตามขณะนี้ ตำรวจ ทหาร อส. ได้ตรึงกำลังทุกจุดในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ซึ่งอาจจะมีเหตุระเบิดอีก
ผู้ว่าฯชี้เป็นการตอบโต้จนท.
ส่วนนายประมุข ลมุล ผู้ว่าฯปัตตานี ระบุว่า เป็นที่แน่ชัดว่าการก่อเหตุครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณแสดงพลังของผู้ก่อการเพื่อต้องการตอบโต้สิ่งที่เกิดขึ้นในอำเภอบาเจาะอย่างแน่นอนเพราะเครือข่ายส่วนหนึ่งมีแนวร่วมเคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์ความไม่สงบอยู่ในปัตตานี
โดยคนร้ายมีแผนมุ่งหวังให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ในหลายจุดพร้อมกันกับการลอบวางระเบิดเวลาที่ลักลอบซุกซ่อนในหลายๆจุด
แฉแผนทะเลเพลิงกลางเมือง
“ที่สำคัญการใช้ระเบิดเพลิงนั้นคนร้ายล้วนพุ่งเป้าไปที่อาคารบ้านเรือน หรือสถานที่เป้าหมายที่ติดไฟง่ายเช่นบ้านไม้ อาคารไม้ รวมถึงห้างไดอาน่าที่ภายในเป็นสินค้าที่ติดเพลิงได้ง่ายแทบทั้งสิ้น เขาพยายามจะสร้างภาพให้จุดเกิดเหตุมีสภาพคล้ายทะเลเพลิงแต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงและควบคุมสถานการณ์รวมถึงเก็บกู้ระเบิดเวลาได้ทันท่วงที จึงสามารถป้องกันก่อนเกิดภาพความสูญเสียอย่างมหาศาลได้ทันท่วงที”ผู้ว่าฯปัตตานี กล่าว
นายประมุข กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้สั่งการให้ทุกหน่วยออกติดตามคนร้ายจากภาพบันทึกในกล้องวงจรปิด พร้อมกับการได้ประกาศให้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเมืองปัตตานีแบบเข้มข้นเต็มกำลัง เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างเต็มที่
คาดฝีมือของกลุ่ม”มะซอรี”
ขณะที่พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า คาดว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มของนายมะซอรี เดอลามะ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุสร้างสถานการณ์หลายจุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเพื่อแก้แค้นเหตุการณ์วิสามัญ 16 ศพที่เบาเจาะ ขณะนี้ในพื้นที่ จ.ปัตตานีตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดแล้ว
ทั้งนี้ขอเตือนประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ให้เฝ้าสังเกตกลุ่มผู้ก่อเหตุที่มักจะแต่งกายเป็นหญิงเพื่อแฝงตัวมาสร้างความรุนแรงหากพบวัตถุต้องสงสัยขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที และว่าในวันที่ 18กพ.นี้ทางกองทัพจะแถลงรายละเอียดการปฏิบัติการที่อ.บาเจาะว่าเป็นไปอย่างรัดกุมเพื่อทำความเข้าใจหลังจากมีการขยายผลเหตุปะทะกล่าวหาเจ้าหน้าที่สร้างความรุนแรง
เตือนสื่อตกเป็นเครื่องมือโจร
พร้อมทั้งขอร้องสื่อบางสำนักที่ ระวังจะตกเป็นเครื่องมือหรือแนวร่วมมุมกลับของขบวนการก่อความไม่สงบเพราะการรายงานข่าว โดยอ้างคำสัมภาษณ์ของภรรยานายมะรอโซว่าเหตุผลที่สามีต้องก่อความรุนแรงเพราะคับแค้นจากเหตุการณ์ตากใบนั้นเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นเพราะก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์ปะทะกันเจ้าหน้าที่ยังเคยเข้าไปเยี่ยมเยียนครอบครัวของนายมะรอโซ เพื่อปรับความเข้าใจและหาทางออก ที่บอกว่าหวาดกลัวเจ้าหน้าที่ไล่ล่านั้นไม่เป็นความจริง
ทหารขึ้นเขาบูโดล่าคนร้าย
สำหรับความเคลื่อนไหวหลังนายมะรอโซ จันทรวดี แกนนำอาร์เคเคถูกวิสามัญเสียชีวิตพร้อมพวกรวม 16 คนนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 และทหารพรานได้ร่วมกันสนธิกำลัง ขึ้นติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายบนเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี ในพื้นที่เขตรอยต่อของ อ.รือเสาะและบาเจาะอย่างต่อเนื่องด้วยการใช้วิธีสะกดรอยคราบเลือดของคนร้ายที่ตกอยู่บนแนวทางเดินที่มุ่งหน้าขึ้นเทือกเขา
ตามมา3วันยังคว้าน้ำเหลว
โดยเชื่อว่า มีแกนนำอย่างน้อย 2 ใน 5 คน คือ นายอับดุลฮากิม ปูตะ นายยัฟรี สารอเอง นายอาพันดี กาพา นายรอแปอิง อุเซ็ง และนายมะดารี วาหลง รวมอยู่ด้วย เพื่อขึ้นไปสมทบกับกลุ่มสมาชิกแนวร่วมของนายมะรอโซ จันทรวดี ที่หลงเหลืออยู่ เพื่อเตรียมการที่จะเคลื่อนไหวตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งการติดตามไล่ล่าเป็นเวลากว่า 3 วัน หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังไม่พบกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีแต่อย่างใด เนื่องจากพื้นที่ป่าบนเทือกเขา เป็นป่าอุดมสมบูรณ์มีความรกทึบและหนาแน่นเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ
จับตาแนวร่วม3กองร้อยเอาคืน
แหล่งข่าวเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ในพื้นที่ 7 อำเภอ คือ บาเจาะ รือเสาะ ศรีสาคร จะแนะ สุคิริน แว้ง และเจาะไอร้อง ได้มีการเฝ้าระวังตั้งวางมาตรการตั้งรับ หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าได้มีสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ จำนวน 3 กองร้อย มีการเคลื่อนไหวแฝงตัวดูลาดเลาในทางลับเตรียมที่จะมีการประชุมก่อเหตุด้วยการวางระเบิดบุกโจมตีจุดตรวจ และฐานปฏิบัติการณ์ย่อยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ล่อแหลม เพื่อที่จะตอบโต้เจ้าหน้ารัฐ
“หลังนายมะรอโซ จันทรวดี ทางขบวนการได้แต่งตั้งนายมูหะหมัด โบกี ที่ปรึกษาของนายมะรอโซ ขึ้นรับตำแหน่งรับผิดชอบแทน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ทราบประวัติของนายมูหะหมัดมากนัก รู้แต่ว่ามีความสุขุมรอบคอบ และโหดเหี้ยมกว่านายมะรอโซ หลายเท่า” แหล่งข่าวระบุ
นาวิกฯเดินเท้าชี้แจงปชช.
ที่สนามโรงเรียนบ้านตันหยง หมู่ 6 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นาวาเอก สมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ พร้อมด้วย นาวาโท ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ได้ร่วมกันจัดโครงการเดินเท้าเข้าชุมชน เพื่อเป็นการเยี่ยมเยียนผู้นำศาสนาผู้นำชุมชนรวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มสตรี เพื่อชี้แจงถึงความจำเป็นในการใช้มาตรการรุนแรงวิสามัญนายมะรอโซ จันทราวดี พร้อมพวกรวม 16 คน
นราฯงัดแผน’พิทักษ์โก-ลก56’
ขณะที่นายเมธา สุบิน ปลัดอาวุโส รักษาการนายอำเภอสุไหงโก-ลก กำชับหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง รักษาความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเข้มงวด หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยสั่งเพิ่มมาตรการการป้องกันและเฝ้าระวังตามแผน “พิทักษ์โก-ลก 56” เพื่อให้ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นอำเภอชายแดน และเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของ จ.นราธิวาส ปลอดภัยมากที่สุด
“ปู” โบ้ยศปก.กปต.แจงบึ้มปัตตานี
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุระเบิดหลายจุดใน จ.ปัตตานีว่า เรื่องดังกล่าวศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) จะเป็นผู้แถลงถึงรายละเอียด ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้ถือเป็นการตอบโต้หลังเจ้าหน้าที่วิสามัญ 16 ศพหรือไม่ นายกฯกล่าว ขออนุญาติยังไม่ให้ข้อมูล เพราะถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหว
 ภาพประกอบ [1]
 วันที่เผยแพร่ 18 ก.พ. 2556
 วันที่บันทึกข้อมูล 18 ก.พ. 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น