วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เปิดศึกโจรใต้-นาวิก จุดชนวนสงครามใต้ถึงจุดเดือด เมื่อ 14 ก.พ.56


เปิดศึกโจรใต้-นาวิก จุดชนวนสงครามใต้ถึงจุดเดือด???

สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จ.ชายแดนใต้ ภายหลังจากเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมากลุ่มโจรใต้ได้ออกโจมตีฐานปฏิบัติการทหารที่อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ก่อนที่จะมีการยิงปะทะต่อสู้อย่างดุเดือดจนส่งผลให้โจรได้เสียชีวิตไปมากถึง 16 ราย
เมื่อเวลา 01.30 น. ( 13 ก.พ.) คนร้ายประมาณ 80 คนแต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมอาวุธปืนครบมือบุกโจมตีฐานปฎิบัติการทหาร ร้อยปืนเล็กที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณบ้านยือลอ หมู่ 3 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ก่อนที่จะมีการยิงปะทะกันอย่างดุเดือด
ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตเป็นระดับแกนนำกองกำลังติดอาวุธ RKKที่เคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายในพื้นที่ อ.บาเจาะ และอ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี คือ 1.นายมะรอโซ จันทราวดี ผู้ต้องหาตามหมาย ป.วิอาญา ในคดีความมั่นคง 11 หมาย และเป็นผู้ต้องสงสัยตามหมาย พรก.จำนวน 3 หมาย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ร่วมก่อเหตุและสั่งการบุกสังหารโหดครูชลธี เจริญชล ครู ค.ศ. 2 โรงเรียนบ้านตันหยง ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ม.ค.2556 ที่ผ่านมา และคนที่คือ2.นายซาอูดี อาลี และ 3.นายซาบีรี โลตาเซะ ส่วนอีก 14 ศพอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ห่างจากถนนทางเข้าฐานปฏิบัติการประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บค-7968 ยะลา ซึ่งเป็นของคนร้ายจอดอยู่ในสภาพถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ เป็นรูพรุนไปทั้งคัน ในกระบะหลังพบเป้สนามจำนวน 8 ใบบรรจุอาวุธปืนพกสั้น ระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้างโทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้า และเครื่องยังชีพในป่าของคนร้ายที่ทิ้งไว้
เบื้องต้นคาดว่าเป็นรถของคนร้ายที่ใช้ตระเวินก่อเหตุในพื้นที่มาแล้วหลายเหตุการณ์นอกจากนี้ระหว่างทางคนร้ายได้ตัดต้นไม้ขวางถนน และโปรยตะปูเรือใบโดยเฉพาะที่บริเวณหัวสะพานบ้านบือแนปีแย หมู่ 1 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ คนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก็สหุงต้มหนัก 50 ก.ก.จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ที่ลากสายไฟยาวไปในป่ารกทึบริมทางที่คนร้ายวางไว้เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนจากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดแผนผังและเอกสารต่างๆเกี่ยวกับการบุกโจมตีฐานปฎิบัติการร้อยปืนเล็กที่ 2 ฉก.นราธิวาส 32 อีกด้วย
เวลาต่อมาพล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งประกาศห้ามประชาชนใน 6 ตำบลออกจากบ้านพัก ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ - 06.00 น. วันพรุ่งนี้ รวมเวลา 24 ชั่วโมง
โดย 6 ตำบลดังกล่าวประกอบด้วย ต.บาเระใต้ ต. บาร์เระเหนือ ต.บาลูกาสาเมาะ ต. กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และอีกสองตำบลคือ ต.ดอนทราย ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จว.ปัตตานี
ทางด้านนายสุพล โพธิ์แก้ว นายอำเภอไม้แก่น กล่าวว่า พร้อมที่จะปฏิบัติทันที  เพื่อรักษาความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ได้ออกคำสั่งไม่อนุญาตให้ อาสาสมัครรักษาดินแดนทุกคนลากิจ เพื่อให้กำลังทุกคนเข้าไปดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ อย่างเข้มงวด มีการตั้งด่านตรวจคนเข้าออกในพื้นที่ มีการตรวจสอบสถานพยาบาลว่ามีบุคคลที่ก่อเหตุในพื้นที่บาเจาะเข้ามารักษาตัวหรือไม่ นอกจากนั้นได้ประสานกำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่พร้อมชุดคุ้มครองรักษาหมู่บ้านเข้าดูแลพื้นที่สำคัญ อาทิ โรงเรียน เพื่อป้องกันการตอบโต้ ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ได้ เพราะอำเภอไม้แก่นเป็นอำเภอที่อยู่ติดกับอำเภอบาเจาะจึงเสี่ยงต่อการก่อเหตุตอบโต้ได้
          
ส่วนขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้นยังคงมีกำลังใจดี หลังจากที่ทางอำเภอได้เข้าอธิบายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะครูในพื้นที่ยังคงเปิดการเรียนการสอนตามปกติ
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) กล่าวว่า สำหรับผลสำเร็จในการปฏิบัติครั้งนี้ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ช่วยเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแส รวมทั้งมีอดีตแนวร่วมที่เคยร่วมกระบวนการซึ่งเบื่อหน่ายจึงได้ให้ความร่วมมือแจ้งกับเจ้าหน้าที่ได้ทราบ ที่ผ่านมาผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้กำชับขอให้ทุกหน่วยในพื้นที่เตรียมความพร้อมอยู่เสมอ เพราะทราบว่าคนร้ายพยายามหาวิธีการที่จะตอบโต้สืบเนื่องจากการที่ทางการได้ติดตามจับกุมแกนนำคนสำคัญในช่วงที่ผ่านมา
พ.อ.ปราโมทย์กล่าวว่า อยากขอร้องประชาชนให้ติดตามข่าวสารอยู่ที่บ้าน และเรียนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่พยายามทำให้ที่ดีสุด ขอร้องประชาชนไม่จำเป็นอย่าเป็นไทยมุง เนื่องจากเจ้าหน้าที่กำลังเคลียร์พื้นที่ และอาจมีเหตุการณ์ระลอกอื่นตามมาอีก ฉะนั้น ให้เจ้าหน้าที่ได้คุมพื้นที่และทำงาน ควรจะติดตามสถานการณ์อยู่ที่บ้านจะดีที่สุด
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านข่าวกรองรวดเร็วและดีขึ้น รวมถึงทำงานเป็นเอกภาพ ส่วนจะมีการเยียวยาครอบครัวของผู้ก่อเหตุหรือไม่นั้นต้องรอฟังสรุปจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ซึ่งขอให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้จะต้องมีการดูแลและให้ความคุ้มครองอย่างเต็มที่กับชาวบ้านที่ให้เบาะแส รวมไปถึงพัฒนางานในทุกๆด้านให้ดียิ่งขึ้น โดยไม่อยากเห็นความรุนแรงในพื้นที่ แต่ต้องมีการป้องกันที่ต้นเหตุมากกว่ามารอแก้เหตุภายหลัง
          
อย่างไรก็ตาม จะมีการชี้แจงและทำความเข้าใจกับประเทศโลกมุสลิมต่อไป ทั้งนี้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาว่าจะประกาศใช้เคอร์ฟิวหรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวต้องดูรายละเอียดในพื้นที่เป็นหลัก
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้กำชับแล้วให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้และจังหวัดสงขลา ต้องเต็มที่ในการระวังป้องกัน
          
ทั้งนี้เมื่อถามว่า มีรายงานว่า 1 ในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นมีหัวหน้าแกนนำอาร์เคเค ค่าหัว 2 ล้านบาท ด้วย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า มี 2 คน คือระดับแกนนำและระดับรองลงมา
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องชื่นชมนาวิกโยธิน กองทัพเรือที่ไม่ประมาท มีการเตรียมพร้อมป้องกันและสามารถตอบโต้ โดยที่ไม่เกิดความสูญเสียขึ้นกับเจ้าหน้าที่
          
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าในการตรวจสอบภายในตัวคนร้ายมีการเตรียมเชือกและเส้นลวด ซึ่งคาดว่าจะเอาไว้ใช้สำหรับจับตัวประกัน อย่างไรก็ตาม รู้สึกเสียใจที่สุดที่มีคนไทยที่หลงผิดเข้าไปเป็นแนวร่วมก่อเหตุจนต้องมาเสียชีวิต เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น สงสารและเห็นใจครอบครัว แต่ในส่วนของกองทัพนั้น ก็ต้องป้องกันตัวเอง ดังนั้นอยากให้ผู้ที่หลงผิดกลับมาร่วมพัฒนาชาติไทยมามอบตัว รวมถึงให้ข้อมูลแก่ภาครัฐ อย่างไรก็ตามเป้าหมายของผู้ก่อความไม่สงบที่ตั้งไว้จะไม่มีวันสำเร็จ        
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวชี้แจงถึงสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ว่า ในขณะนี้ในพื้นที่ได้มีการขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน 6 ตำบล ของ 2 อำเภอ ถ้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกจากบ้านหรือเคหะสถานก็ขอความกรุณาอย่าเพิ่งออกมา เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกของเจ้าหน้าที่ในการติดตามกลุ่มคนร้าย
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมักจะแต่งกายในชุดทหาร เหมือนเช่นหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา เพื่อเป็นการสร้างความสับสนให้กับสังคมและสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนและต่อเจ้าหน้าที่ จึงขอให้สังคมใช้วิจารณญาณสร้างความชอบธรรมให้กับเจ้าหน้าที่ หากย้อนหลังไปสำหรับเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา มีหลายเหตุการณ์ที่ผู้ก่อเหตุลงมือในลักษณะนี้ และโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่ และคิดว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนร้ายเสียเอง
      
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ร่วมเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพผู้นำศาสนาในการแก้ไขปัญหาความมั่นคง ซึ่งเป็นการระดมอิหม่ามและผู้นำศาสนาจากมัสยิดต่างๆในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ทั้ง 676 แห่ง กว่า 700 คน สานเสวนาในการแก้ไขปัญหาความมั่นคง เพื่อสร้างความเข้าใจและหาแนวทางในการเพิ่มการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาความไม่สงบ โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจอันดีต่อกรณีเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จนมีการจับกุมและวิสามัญคนร้าย ตลอดจนร่วมระดมแนวคิดของผลดี-ผลเสีย หากมีการประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่
             
อย่างไรก็ตามอิหม่าม และผู้นำศาสนาจากมัสยิดต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดปัตตานี จำนวน 676 แห่ง ยังไม่เห็นด้วยกับการประกาศใช้เคอร์ฟิว โดยได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและโหวตไม่รับการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ และขอให้การประชุมของศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศปก.กปต. ที่จะประชุมในวันที่ 15 ก.พ.นี้ มีมติไม่รับการประกาศใช้เคอร์ฟิว เพราะเหตุการณ์ในพื้นที่ยังถือว่าไม่รุนแรงถึงขั้นไม่สามารถควบคุมได้ รวมทั้งยังจะส่งผลกระทบต่อการประกอบศาสนกิจของคนมุสลิมในพื้นที่
            
ทั้งนี้  เลขาธิการ ศอ.บต. ยังได้ร่วมสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี เพื่อนำสรุปข้อมูลที่ได้ไปเสนอต่อที่ประชุม ศปก.กปต.ในวันศุกร์ที่ 15 ก.พ. ที่จะถึงนี้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น