วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ข่าวหนังสือพิมพ์ วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2556




สรุปข่าวที่น่าสนใจ
หนีไม่รอดแก๊งรีดดาราจับ 2 ด.ต.ป. ให้ออกทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 10 ก.พ. เวลา  14.00 น. ที่ บช.น.  พล.ต.ท.คำรณวิทย์  ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นัยวัฒน์  ผะเดิมชิต  ผบก.น. 4 พ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 และหัวหน้าชุดทีมสืบสวนสอบสวน สน.วังทองหลาง ควบคุมตัว ด.ต.วีรฤทธิ์  หรือ  สิทธิ์  ดวนสูง  อายุ  42 ปี สังกัด ผบ.หมู่ ป.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสุริโย หรือ โย ภูครองทุ่ง  อายุ  43 ปี และนายอำพล หรือ  เปี๊ยก  ดิลงพงศ์ธนา  อายุ  44 ปี ญาติของ ด.ต.วีรฤทธิ์  มาแถลงข่าว  ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน และข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำการด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย  ส่วน ด.ต.วีรฤทธิ์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 1 กระทง ข้อหาเป็นเจ้าพนักงนเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
พล.ต.ต.สุพิศาล  ภักดีนฤนาถ  ผบก.ป.  กล่าวว่า ตำรวจ บก.น. 4  ประสานมายังกองปราบปรามเกี่ยวกับตำรวจที่เข้าไปร่วมแก๊งคดีนี้ พร้อมขอให้ส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สน.วังทองหลาง เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า  ตำรวจที่เข้าไปอยู่ในแก๊งรีดไถคือด.ต.ไพบูลย์ ยืนยัน อยู่ กก.2 ป. บก.ป. จะส่งตัวไปเพื่อรับทราบข้อหาและสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน  จากนั้นตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของตัวบุคคลไม่เกี่ยวกับหน่วย เพราะกองปราบฯไม่มีนโยบายเช่นนี้  ถ้ามีการจับกุมจริงต้องมีคำสั่งจากต้นสังกัด นี่เป็นการทำงานส่วนตัว อาจจะเป็นการหลงผิดคบกับตำรวจโรงพักอื่นและพวกโรโบคอปตระเวนตีกิน  ชักจูกกันไปทำสิ่งที่ไม่ดี  เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง กองปราบฯไม่ช่วยอยู่แล้วนิ้วไหนไม่ดีก็ต้องตัดทิ้ง  ตามนโยบาย พล.ต.อ.อดุลย์  แสงสิงแก้ว  ผบ.ตร.
ด้าน พ.ต.อ.นฤนาท  พุทไธสง ผกก.สน.ปากเกร็ด  จ.นนทบุรี  ผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.วีรฤทธิ์  ดวนสูง  กล่าวว่า  ตนสั่งการให้ พ.ต.ท.ประสงค์  ศิริทิพย์วานิช รองผบก.ป.สภ.ปากเกร็ด ผู้บังคับบัญชาในสายงานเรียกตัวมาพบและลงบันทึกประจำวัน นำตัว ด.ต.วีรฤทธิ์ ส่ง สน.วังทองหลาง สอบสวนตั้งแต่เมื่อตอน 02.00 น. ของวันที่ 9 ก.พ. ส่วนเรื่องการลงโทษทางวินัย ต้องรอให้ สน.วังทองหลางสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาก่อน  ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำความผิดจริง ถ้าผลการสอบสวนพบว่าเป็นผู้กระทำผดและแจ้งข้อหาแล้วจึงจะรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงเพื่อให้พิจารณาลงโทษทางวินัยต่อไป
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  11/02/2013
ตั๊ก – บงกชรับท้องเกือบ 2 เดือนแล้ว
น.ส.บงกช  คงมาลัย  หรือ ตั๊ก – บงกช  ดารานักแสดงและว่าที่เจ้าสาวของเจ้าสัวหมื่นล้าน คุณบุญชัย เบญจรงคกุล กล่าวถึงการถอนตัวจากละครเรื่อง “นางมาร” และข่าวลือดังกล่าว ว่า  ได้ตัดสินใจถอนตัวจากละครเป็นเรื่องจริง เพราะรู้สึกเกรงใจผู้จัดละครเมย์  เฟื่องอารมณ์ และหนุ่ม –กรรชัย กำเนิดพลอย และพี่ใหญ่ (นายบุญชัย) ได้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวน 2 ล้านบาท เสียดาย เหมือนกันที่ไม่ได้เล่นทั้งๆ ที่ถ่ายทำไปบ้างแล้ว เมื่อถามถึงกระแสข่าวลือเรื่องตั้งท้อง ตั๊ก กล่าวยอมรับว่า เป็นเรื่องจริง  เป็นข่าวดีสำหรับตั๊ก จึงไม่คิดปิดบัง ตอนนี้ตนกำลังท้องได้เดือนกว่า ๆ เข้าสู่เดือนที่ 2 หลังจากรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ก็รู้สึกตื่นเต้น ดีใจมาก เขามาเร็วกว่าที่คิด หลังจากนั้นพี่ใหญ่พาไปฝากครรภ์หมอ รพ.บำรุงราษฎร์ หมอจึงแนะนำ ช่วง 1-3 เดือนให้ระวังและดูแลตัวเองดีๆ จึงปรึกษาพี่ใหญ่และตัดสินใจถอนตัวจากละครดีกว่าเพื่อดูแลเขาให้ดีที่สุด  ตอนนี้ก็เริ่มมีอาการแพ้ท้องนิดหน่อย โดยเฉพาะเวลานั่งรถแพ้ถึงขนาดทะเลาะกับพี่ใหญ่ ตนอยากกินอาหารรถเผ็ดๆพี่ใหญ่จะห้ามปราม และดูแลตั๊กเป็นอย่างดี และรู้สึกดีใจที่กำลังมีลูก  ในเรื่องอาหารคุณหมอยังแนะนำไม่ให้กินของดิบ ทั้งๆที่ปกติตนเป็นคนชอบกินส้มตำปลาร้ามาก
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  11/02/2013
71% ตัดสินใจแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สวนดุสิตโพล  เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯทั้ง 50 เขตจำนวน 1,395 คนเรื่อง “เจาะลึกพฤติกรรมการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ของคนกรุงเทพฯ”  โดยเมื่อถามว่าคนกรุงเทพฯมีโอกาสเปลี่ยใจที่จะเลือกผู้สมัครคนอื่นจากเดิมที่ตั้งใจไว้หรือไม่  พบว่าร้อยละ  71.17 ระบุว่าไม่เปลี่ยนใจ ร้อยละ  16.06 มีโอกาสเปลี่ยน  ร้อยละ  6.93 มีโอกาสเปลี่ยนใจอยู่บ้าง  และร้อยละ  5.84  มีโอกาสน้อยที่จะเปลี่ยนใจ  เมื่อถามว่า ผู้สมัครทั้ง  25  เบอร์  ควรหาเสียงในโค้งสุดท้ายอย่างไร  คนกรุงเทพฯจึงจะเลือก พบว่า  ร้อยละ  43.29  เห็นว่าควรมีวิธีการหาเสียงแตกต่างงัดเอาทีเด็ดออกมาโชว์  ร้อยละ  21.65  เน้นนำเสนอนโยบาย  วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ทำได้จริง  ร้อยละ  20.35  ต้องลงพื้นที่ทุกวัน  เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม  ร้อยละ  7.79  หาเสียงตามปกติและไม่โจมตีคู่แข่ง
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  11/02/2013
“จูดี้” ไม่เกี่ยวคดี 396 สภ. “ธาริต” ยันชี้ ปธ.ทีโออาร์คนละยุค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่  10 ก.พ.  ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ  ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พรรคเพื่อไทย (พท.)  เดินทางไปยื่นเอกสารชี้แจงกรณีโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 แห่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)  ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  ระบุว่า  เป็นประธานคณะกรรมการกำหนดขอบเขตของงาน (ทีโออาร์) กับนายธาริต  เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ จากนั้นนายธาริต  ใช้เวลาตรวจสอบเอกสารประมาณ 20 นาที ก่อนแถลงข่าว
นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  กล่าวว่า  จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ พล.ต.อ.พงศพัศ มายื่นกับพนักงานสอบสวนพบว่าเป็นเอกสารที่ดีเอสไอรวบรวมมาแล้วซึ่งข้อมูลตรงกัน ทั้งหมดเป็นเอกสารราชการ จึงไม่พบว่า พล.ต.อ.พงศพัศ  มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำหนดทีโออาร์การก่อสร้างโรงพัก 396 แห่งทุกอาคารร่วมกันครั้งเดียวที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้ แต่ปรากฏชื่อของ พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิตติรัตน์ เป็นประธานกำหนดทีโออาร์ฉบับหลังจากที่นายสุเทพ อนุมัติให้รวมการจัดจ้างสัญญาเดียว
ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ  พงษ์เจริญ  ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ฯกทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า  ที่ต้องรีบเข้าพบนายธาริตเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สื่อข่าวนำข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบและไม่ใช่ข้อเท็จจริงไปนำเสนอ  ขณะนี้มีกฎหมายการเลือกตั้งบังคับใช้อยู่แล้ว เกรงว่าผู้สื่อข่าวที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์นำเรื่องดังกล่าวไปเสนอทำให้เกิดการเข้าใจผิดและจะกลายเป็นการให้ร้ายผู้สมัคร ซึ่งมีโทษรุนแรงจึงไม่อยากให้ใครถูกดำเนินคดี  ดังนั้น จึงมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบถึงเอกสาร 2 ส่วนที่แยกกัน และมีข้อเท็จจริงปรากฏชัด  (หนังสือพิมพ์มติชน)
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ยังเชื่อว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะชี้แจงได้ เพราะทำหน้าที่ตลอดเวลาที่ได้มีการปฏิบัติหน้าที่และเป็นไปได้ด้วยดี การทำงานมีประสิทธิภาพ เมื่อถามว่าจะส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมที่กำลังดีขึ้นหรือไม่ กรณีที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างโรงพัก นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้ เรื่องทั้งหมดต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ขณะนี้ดีเอสไอพยายามดึงตนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทั้งที่ไม่มีหน้าที่แทรกแซงในการจัดซื้อจัดจ้าง แต่นายธาริตอ้างว่ามีการร้องคัดค้านการรวมสัญญาก่อสร้าง โดยใช้เวลาดำเนินเรื่องเพียง 2 วัน ซึ่งความจริงระยะเวลาเท่านี้หนังสือจะถูกส่งมาถึงตนได้อย่างไร ดังนั้น นายธาริตไม่ควรพูดลอยๆ และก็ไม่ห่วงว่าจะมีการปั้นเอกสารขึ้นมาใหม่หวังเอาผิดตน เพราะเชื่อว่าความจริงไม่มีวันตาย  (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)  
พระเทพฯเสด็จเยาวราช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์  เวลา  16.50 น.  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เสด็จพระราชดำเนิน  โดยรถยนต์พระที่นั่งไปทรงเปดงานตรุษจีนเยาวราช  ปี  2556  โดยทรงกราบสักการะพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก  ที่ประดิษฐานภายในพระอุโบสถวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นจุดแรก  โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี คณะผู้จัดงาน ผู้แทนจากรัฐบาลจีน ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อแดง  ถือธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์เฝ้ารับเสด็จ
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์มติชน  วันที่  11/02/2013
ถกหัวหน้าพท.ดันนิรโทษสูตร 2 ร่าง
นายเจริญ  จรรย์โกมล  รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1  กล่าวว่า  วันที่  11  กุมภาพันธ์  จะนัดหารือกับนายจารุพงศ์   เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่าจะเห็นพ้องกับหลักการเบื้องต้นที่ตัวแทนกลุ่ม พธม. ตัวแทนกลุ่ม นปช. ได้หารือกันในเบื้องต้นแล้ว  เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา  ที่เห็นร่วมในหลักการที่จะให้ออกร่าง  พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็น 2 ฉบับ คือ 1. ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับประชาชนในคดีทางการเมือง  ซึ่งยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าเป็นช่วงใด  และ  2. ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการบรรเทาความขัดแย้ง “หากได้รับการตอบรับก็จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา  เพื่อพิจารณาว่าคนกลุ่มใดจะเข้าข่ายรับการนิรโทษกรรมหรือทางพรรคเพื่อไทยจะมีข้อเสนอ  เงื่อนไขอย่างไร  แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่างหารือหรือไม่  เพราะอาจมีภารกิจมาก แต่หากมีโอกาสได้หารือกันทางหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  คงต้องนำหลักการไปเสนอ และปรึกษาหารือกันภายในพรรคอีกครั้ง”
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์มติชน  วันที่  11/02/2013
ลอบกัด “5 ทหาร” พลีชีพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 10 ก.พ. พ.ต.ต.ต่อพันธุ์ ปะสันเที๊ยะ สวญ. สภ.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับรายงานทางวิทยุตำรวจว่า เกิดเหตุระเบิด บนถนนสายท่าธง – วังพญา บ้านกูแบเทระ หมู่ที่ 1 ต.ท่าธง หลังได้รับแจ้ง รีบประสานงานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD ภ.จว.ยะลา ตำรวจพิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา และรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น รีบนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง นายอวยชัย จุฬาศิริวงศ์ ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอรามัน และกำลัง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง จำนวนหนึ่ง ซึ่งการเดินทางเข้าไปยังจุดเกิดเหตุต้องใช้ ความระมัดระวัง เนื่องจากตลอดเส้นทาง มีการวางตะปูเรือใบเป็นระยะๆ ที่เกิดเหตุ พบบริเวณริมถนนพบซากรถยนต์กระบะ ตรวจสอบเป็นยี่ห้อมาสด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน บจ-2182 ยะลา ของน.ส.ตติยารัตน์ ช่วยแก้ว ผอ.รร.บ้านบาโง  หมู่ที่ 1 ต.ปาหนัน  ใช้ป้ายทะเบียนปลอม หมาเลข บฉ.6896 ปัตตานี ซึ่งถูกคนร้ายประกบยิงเสียชีวิตและชิงรถรถไป เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.56 แตกเป็นเศษเหล็กเป็นชิ้นๆ กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ห่างกัน พบรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ  ยี่ห้ออีซูซุสีเขียว ที่ใช้สำหรับในราชการทหาร พลิกคว่ำกระเด็นไปประมาณ 10 เมตร ใกล้รถพบศพ จนท.ทหาร นอนเสียชีวิต 4 นาย และห่างกันประมาณ 5 เมตร พบทหารเสียชีวิตอีก 1 นาย รวมเสียชีวิต 5 นาย เบื้องต้น จนท.สันนิษฐานว่าเป็นการก่อเหตุของกลุ่ม นายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ หรือ “เปเล่ดำ” กับ นายอับดุลเราะแม  เจ๊ะเต๊ะ สองแกนนำอาร์เคเค ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.วังพญา ต.อาซ่อง ต.กอตอตือระ รวมตัวกับแกนนำที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานีเพื่อตอบโต้กรณี ที่ หน.กลุ่ม นายกามัน   ไชยชนะ แกนระดับสั่งการ ถูกตำรวจ สภ.รามัน จับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 8 ต.ค.55 ที่ผ่านมา
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่  11/02/2013
หวั่นชุมชนต้าน “แผนน้ำ”
นายสันติ  บุญประคับ  เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  กล่าวว่า โดยหลักการการสร้างเขื่อน ขนาด 100 ล้านลบ.ม. ขึ้นไปเข้าข่ายโครงการหรือกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ซึ่งเบื้องต้นกรณีของเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์  ของกลมชลประทานที่อยู่ภายใต้แผนของ กบอ. ก็ได้ทำอีเอชไอเอ เสนอมาที่ สผ.แล้ว แต่รอบแรกคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาโครงการ (คชก.) ตีกลับให้ไปแก้ไขปรับปรุงรายละเอียดต่างๆให้ครบถ้วน ขณะเดียวกันทางสผ. และ คชก. ด้านแหล่งน้ำ  จะลงพื้นที่ในวันที่ 8 ก.พ. นี้เพื่อดูข้อเท็จจริง ก่อนที่จะนัดประชุมกันในวันที่ 12 ก.พ.นี้   ส่วนโครงการประตูระบายน้ำกั้นในแม่น้ำสายหลักทุกโครงการเข้าข่ายจะต้องทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ยกเว้นโครงการฟลัดเวย์ ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่ายังไม่ได้ถูกกำหนดชัดเจน อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการพัฒนาในพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีการขึ้นทะเบียนตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 พ.ย. 2552 ก็ต้องเสนอขอความเห็นชอบจาก ครม. เช่นกัน
นายสุทัศน์  วีสกุล  ผู้เชี่ยวชาญน้ำ  จากสถาบันเอไอที  กล่าวกับ กรุงเทพธุรกิจทีวี ถึงประเด็นดังกล่าว ว่า  ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการโครงการคือ  บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกเช่น บริษัทเควอเตอร์ของเกาหลีไม่มีพาร์ทเนอร์คนไทย อาจจะมีปัญหาในเรื่องความเข้าใจกับชุมชน เพราะหลายโครงการจะต้องทำความเข้าใจกับชุมชนซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคการดำเนินการบ้าง
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่  11/02/2013
ค้านต่างชาติ “ประมูลน้ำ”
นายกิจจา  ผลภาษี  อดีตคณะกรรมการยุทธศาสตรเพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ผู้ซึ่งมีส่วนร่วมในการวางแผนบริหารจัดการน้ำตั้งแต่ต้น  กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า  ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลเปิดให้บริษัทรับเหมาออกแบบก่อสร้างต่างชาติเข้ามา การกระทำเช่นนี้เท่ากับเงินไหลออกนอกประเทศไปเลย  โดยเฉพาะเงินที่ใช้ในโครงการนี้ 3.5 แสนล้านบาท  บริษัทต่างชาติที่ได้งานไป ทำได้อย่างเดียวคือจ้างคนไทยให้ทำงาน คงไม่มีเวลาพอที่จะขนคนของเขาเข้ามา สิ่งสำคัญของเรื่องนี้ต้องดูที่ทีโออาร์ว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับทีโออาร์เป็นอย่างไรมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำแค่ไหน ผลที่ออกมาไม่น่าเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ต่างชาติเข้ามามากเกินความจริง  ดังนั้น  เงินลงทุน  3.5  แสนล้านบาท  คงจะตกอยู่กับต่างชาติมากที่สุด คนไทยคงได้แค่เศษเงินที่เป็นค่าแรงมากกว่า  จึงไม่แน่ใจว่ารัฐบาลกู้เงินให้คนไทยหรือกู้ให้ต่างชาติ  “ผมเป็นห่วงการใช้เงิน 3.5  แสนล้านบาทมาก กลัวจะออกนอกลู่นอกทาง เพราะตอนหลังๆดูเหมือนการเมืองจะเข้ามายุ่งเกี่ยวเยอะมาก ทุกอย่างมันไม่เป็นไปตามที่เคยเสนอไว้  ส่วนข้าราชการก็ถูกใช้ไปในทางการเมือง”
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่  11/02/2013
บ้านแพงทั่วไทย
นายมานพ  พงศทัต  อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำภาควิชาเคหการคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า  ปัจจุบันผู้ประกอบการรายใหญ่ในธุรกิจในอสังหาริมทรัพย์ได้ขยายการลงทุนไปต่างจังหวัดมากขึ้น  ซึ่งจะส่งผลให้ราคาที่ดินในต่างจังหวัดสูงขึ้น และจะส่งผลกระทบให้ราคาบ้านในต่างจังหวัดมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
ด้านนายสัมมา  คีตสิน  ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์  กล่าวว่า เมื่อมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาพัฒนาโครงสร้างในต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลให้ราคาที่ดินขึ้นเร็ว  ทำให้ต้นทุนในการพัฒนาแพงขึ้น ประชาชนก็จะต้องซื้อบ้านแพงขึ้นด้วย นอกจากนี้ บางพื้นที่เริ่มมีการพัฒนามากเกินไปจนเริ่มน่ากังวล
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่  11/02/2013
“ไอแบงก์”  ออกอาการเงินฝากหด
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง  กล่าวว่า  ฐานะของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์)  มีปัญหาทรุดหนักอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดในเดือน ม.ค. 2556  มีเงินฝากออกจากธนาคารกว่า 1 หมื่นล้านบาท  นอกจากนี้ หนี้เสียของธนาคารเมื่อตอนสิ้นปี 2555 อยู่ที่ 2.5  หมื่นล้านบาท หรือ 22.5% ของหนี้ทั้งหมด เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) อยู่ที่ 4.6% แต่ปัจจุบันหนี้เสียเพิ่มขึ้นเป็น 3.9 หมื่นล้านบาท หรือ 30% ของหนี้ทั้งหมดทำให้เงินกองทุน BISติดลบสูงถึง  5% ซึ่งหากเป็นมาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำกับดูแลธนาคารพาณิชย์จะต้องถูกควบคุมกิจการเพื่อหยุดความเสียหายทันทีที่เงินกองทุนติดลบ  นายกิตติรัตน์  ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้สั่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  (สศค.) เข้าไปตรวจสอบฐานะของไอแบงก์เป็นการด่วนเพื่อหยุดความเสียหายไม่ให้มากไปกว่านี้
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่  11/02/2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น