พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น พร้อมคณะ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
17 ม.ค.- เวลา 17.15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนางอะคิเอะ อาเบะ ภริยา พร้อมด้วย นายฮิโรชิเกะ เซะโค รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายชิเกะกะซุ ซะโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 17-18 มกราคม 2556 ในโอกาสนี้ นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศญี่ปุ่น และนายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น ปฏิบัติหน้าที่ล่ามภาษาไทย -ญี่ปุ่น ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
การเมือง
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพร้อมภริยา เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
17 ม.ค.-นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้อนรับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพร้อมภริยา ที่ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 17 - 18 มกราคม นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ต่อจากนั้นร่วมหารือทวิภาคีเต็มคณะ ภายหลังการหารือนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศแถลงการณ์ร่วม จากนั้นนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและภริยานายกรัฐมนตรีไทยแถลงว่ารัฐบาลญี่ปุ่นและนักธุรกิจญี่ปุ่น สนใจอย่างมากในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการเชื่อมเอเชียตะวันออกกับตลาดขนาดใหญ่ อย่างเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และยุโรป จึงแจ้งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นว่า ประเทศไทยและสหภาพพม่า ต้องการเห็นญี่ปุ่นเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการลงทุนนี้ สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ทั้ง 2 ประเทศ เห็นตรงกันว่า ต้องเพิ่มความร่วมมือระหว่างกัน อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2555 การลงทุนของญี่ปุ่นในไทยมีการขยายตัวถึงร้อยละ 85ขณะที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวขอบคุณการต้อนรับของรัฐบาลไทย การหารือครั้งนี้มีความเห็นตรงกัน ในการเดินหน้าพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน เช่น เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง โดยเฉพาะการส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่สำคัญเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศที่ครบรอบ 40 ปี
ประธานรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลี เข้่าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นผู้นำหญิงนำพาภูมิภาคเอเชียสู่ความรุ่งเรือง
16 ม.ค.-นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ นายคัง ชาง-ฮี ประธานรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลีใต้ เข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐสภา ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีที่นางสาวปัก กึน-ฮเย (Park Geun-hye) ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรก ซึ่งประธานรัฐสภาเกาหลีใต้ กล่าวว่าการที่เกาหลีใต้และไทยมีผู้นำหญิงเช่นเดียวกัน จะนำพาภูมิภาคเอเชียสู่ความรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นนายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีและขอบคุณที่ภาคเอกชนเกาหลีใต้ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการระบบบริหารจัดการน้ำและป้องกันอุทกภัย กลุ่มบริษัทของเกาหลีใต้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะดูแลให้การเปิดประมูลเป็นไปอย่างโปร่งใสและรอบคอบ
การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
14 ม.ค.-พลตำรวจโท ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กำหนดให้จัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556 และกำหนดวันรับสมัครระหว่างวันที่ 21 - 25 มกราคม ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร การเลือกตั้งครั้งนี้มีข้อห้ามตามมาตรา 57 ของพระราชบัญญัติการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ห้ามไม่ให้นำสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งส่วนกรณีผู้สมัครจะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งโดยใช้ช่องทางสื่อออนไลน์ สามารถทำได้แต่ต้องไม่มีการใส่ร้ายบุคคลอื่น และต้องไม่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่ง กกต. ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและสังเกตการณ์ไว้แล้ว หากพบการกระทำผิกฎหมายสามารถดำเนินการได้ทันที16 ม.ค.-นายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กกต.ประจำกรุงเทพมหานคร กำหนดให้ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ใช้ป้ายหาเสียงในรูปแบบป้ายประกาศจำนวนไม่เกิน 15 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้ง และป้ายขนาดใหญ่หรือป้ายคัดเอ๊าท์จำนวนไม่เกิน 5 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งกรุงเทพมหานคร มีจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 6,548 หน่วย และกำหนดให้ผู้สมัครหนึ่งคนมีผู้ช่วยหาเสียงได้ไม่เกิน 500 คน และต้องแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วันนอกจากนี้ได้กำหนดสถานที่ให้ผู้สมัครปราศรัยหาเสียงไว้จำนวน 15 แห่ง อาทิ ลานคนเมือง สวนจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ เขตจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร และสวนลุมพินี ซึ่งผู้สมัครยื่นขอใช้เป็นสถานที่ปราศรัยหาเสียงได้
เศรษฐกิจ
นิตยสารฟอร์บส์ เสนอไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Forbes Global CEO Conference 2014
16 ม.ค.-นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้นายคริสโตเฟอร์ ฟอร์บส์ รองประธานนิตยสารฟอร์บส์ เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โอกาสนี้นายคริสโตเฟอร์เสนอให้รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Forbes Global CEO Conference 2014 ซึ่งเป็นการประชุมที่นิตยสารฟอร์บส์จัดขึ้นทุกปี หมุนเวียนให้ประเทศต่างๆได้เป็นเจ้าภาพ มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้นำองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ได้พบปะหารือเพื่อแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็น และข้อตกลงทางธุรกิจซึ่งจะเป็นผลดีทั้งต่อประเทศเจ้าภาพและนักธุรกิจที่เข้าร่วมประชุม โดยนิตยสารฟอร์บส์ให้เหตุผลว่า เห็นความก้าวหน้าและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไทย นายกรัฐมนตรีได้รับข้อเสนอนำไปพิจารณา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยืนยัน รัฐบาลมีพื้นที่โกดังเพียงพอเก็บข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว
14 ม.ค.-นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โกดังกลางของรัฐบาลยังมีพื้นที่เพียงพอในการเก็บผลผลิตข้าวจากโครงการรับจำนำที่ได้สีข้าวเปลือกแปรสภาพแล้ว การที่โรงสีบางรายร้องเรียนว่าโกดังกลางมีพื้นที่ไม่เพียงพอนั้น เนื่องจากโกดังกลางอยู่ห่างไกลจากโรงสีของผู้ประกอบการ จึงไม่ต้องการเพิ่มต้นทุนค่าขนส่ง แต่ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน องค์การคลังสินค้า ะองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร . พิจารณาอนุมัติเพิ่มโกดังกลางตามความเหมาะสม โดยล่าสุดมีข้าวที่เข้าร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 9 ล้านตัน และเชื่อว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการฯ ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะมีปริมาณข้าวเข้าร่วมโครงการฯ ถึง 10 ล้านตัน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เห็นชอบรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพิ่ม 5 หมื่นตัน
14 ม.ค.-นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เสนอให้รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มอีก 1 แสนตัน ตามมติของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) แต่ คชก.เห็นชอบในหลักการเพียง 5 หมื่นตันก่อน เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศไทยและตลาดโลก เริ่มกระเตื้องขึ้นบ้างแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องดำเนินการในคราวเดียว และ คชก. ต้องการให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และกรมการค้าภายใน (คน.) จัดทำแผนการจัดซื้อ จัดเก็บ และระบายออกให้ชัดเจน นำเสนอต่อที่ประชุมภายใน 7 วัน โดยการรับซื้อครั้งนี้จะใช้งบประมาณกว่า 1,250 ล้านบาท ส่วนการระบายออกคาดว่าจะใช้เกณฑ์ราคาเดิม ที่กิโลกรัมละ 25 บาท18 ม.ค.- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลประชุมคณะอนุกรรมการระบายน้ำมันปาล์มว่า ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางการระบายน้ำมันปาล์มดิบที่รับซื้อจากเกษตรกรใน 5 แนวทาง ได้แก่การนำปาล์มดิบมากลั่นเป็นน้ำมันปาล์มบรรจุขวด เพื่อบริโภคภายในประเทศจำนวน 1 หมื่นตันต่อเดือน เป็นระยะเวลา 6 เดือน จำหน่ายในราคา 42 บาทต่อขวด ส่วนที่ 2 นำไปผลิตไบโอดีเซลจำนวน 5 หมื่นตัน ส่วนที่ 3 นำไปให้โรงไฟฟ้าใช้ในการผลิตไฟฟ้า 1 หมื่นตัน ส่วนที่ 4 นำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ และส่วนสุดท้ายนำส่งออกประมาณ 1 หมื่นตัน
กระทรวงพาณิชย์ยืนยัน มาตรการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำยังไม่ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปิดกิจการ
16 ม.ค.-นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ อาจกระทบธุรกิจที่ใช้แรงงานจำนวนมาก แต่ไม่ได้ส่งผลให้บริษัท ห้างร้านต้องปิดกิจการลง การที่มีบริษัทบางแห่งเลิกกิจการไปเป็นวัฏจักรทางธุรกิจ ขณะที่ภาครัฐได้ออกมาตรการบรรเทาผลกระทบ และดูแลราคาสินค้าไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพ ตลอดจนจัดหน่วยธงฟ้าเคลื่อนที่ จำหน่ายสินค้าราคาถูกนำร่องเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียงนอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์จะสร้างทางด่วนธุรกิจอาเซียน ASEAN Fast Track Lane ให้สะดวกรวดเร็วสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน และสร้างผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด e-Commerce เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายทางออนไลน์ของประเทศ16 ม.ค.-นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าว ว่าภายใน 3-5 เดือนนี้จะไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้า ส่วนระยะเวลาที่จะใช้ในการตรึงราคาสินค้าจะดูเป็นรายไตรมาส สำหรับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม ยังไม่ใช่เหตุผลหลักในการขอปรับขึ้นราคาสินค้า แต่กรมการค้าภายในจะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด หากเงินบาทแข็งค่าขึ้น กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ควรมีมาตรการดูแล เช่นเดียวกับกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออกอีกทางหนึ่ง16 ม.ค.-ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่าได้เปิดเว็บไซต์ www.price.moc.go.th "ผู้ผลิตผู้บริโภคตื่นตัว" เพื่อให้ประชาชนและผู้ผลิตมีช่องทางในการติดตามภาวะราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ได้เป็นรายสัปดาห์ โดยเว็บไซต์จะเผยแพร่ข้อมูลแหล่งผลิต ตลาดขายปลีก ราคาขายปลีก ราคาขายส่งในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ราคาหน้าฟาร์มในแหล่งผลิตสำคัญเป็นรายสัปดาห์ โดยเน้นข้อมูลรายการสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ โดยเฉพาะอาหารสด ได้แก่ ผัก ผลไม้ ข้าวสาร ไข่ ไก่ หมู ซึ่งเป็นสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยจะรวบรวมข้อมูลราคาขายปลีก ขายส่งจาก 350 ตลาดทั่วประเทศ เบื้องต้นมี 112 สินค้า 700 รายการ ในอนาคตจะทำให้ครบ 450 สินค้า 3,000 รายการ
ประเทศไทยวาง 8 ยุทธศาสตร์ เตรียมความพร้อมเป็นเมืองหลวงอาเซียน
14 ม.ค.-นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ยุทธศาสตร์ไทยใน AEC" ว่า ประเทศไทยได้วาง 8 ยุทธศาสตร์เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมทั้งวางเป้าหมายให้ไทยเป็นเมืองหลวงแห่งอาเซียน โดยเริ่มตั้งแต่การปลูกฝังให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดี มีการกระจายความมั่งคั่ง ไม่ใช่เฉพาะในกรุงเทพมหานครทั้งนี้ประเทศไทยถือว่ามีความพร้อมทางด้านภูมิศาสตร์ที่สามารถเชื่อมโยงอาเซียน แต่จะต้องทำให้ภายในประเทศมีความสมบูรณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เน้นการลงทุนในระบบรางและทางน้ำ ขณะที่การลงทุนระบบรางจะเป็นรถไฟความเร็วสูงใน 4 เส้นทางหลัก คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่วนทางถนนจะเน้นการลงทุนเพื่อการขยายขนาด ไม่ใช่ขยายเส้นทางใหม่ เพื่อประหยัดต้นทุนด้านขนส่ง โดยเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาเห็นชอบหลักการ ในร่างพระราชบัญญัติ ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน พ.ศ....วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ในอีก 2 สัปดาห์15 ม.ค.-นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กล่าวถึงกรณีค่าเงินบาทไทยสูงเป็นอันดับ 2 ในเอเชียและอาเซียนว่า มีปัจจัยจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งเป็นแนวทางของสหรัฐในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้นแนวโน้มค่าเงินประเทศทั่วโลกจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ ยกเว้นบางประเทศที่มีปัญหาการขาดดุลการค้า และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด อย่างไรก็ตามธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลัง ยังไม่มีนโยบายเข้าไปแทรกแซงค่าเงิน แต่จะสนับสนุนการนำเงินบาทไปลงทุนในต่างประเทศ ในรูปแบบการลงทุนทางตรง การลงทุนตราสารทางการเงิน และส่งเสริมให้ภาคเอกชนนำเข้าสินค้าประเภททุน ซึ่งจะทำให้อุปสงค์ในเรื่องของเงินตราต่างประเทศมีมากขึ้น และจะมีส่วนประคับประคองไม่ให้เงินบาทแข็งค่า16 ม.ค.-นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงนี้ว่า เป็นไปตามทิศทางค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาคเดียวกัน ยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการดูแลเป็นพิเศษ มีปัจจัยจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุก่อนหน้านี้ว่า มาตรการ QE ยังไม่ยุติในเร็ววันนี้ ประกอบกับธนาคารกลางยุโรป ยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ทำให้นักลงทุนมั่นใจ ที่จะเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ไทยจำนวนมาก ซึ่งเงินทุนเคลื่อนย้ายยังอยู่ในทิศทางไหลเข้าและไหลออก เพราะผู้นำเข้ายังต้องการซื้อดอลลาร์สหรัฐเป็นปกติ และในช่วงนี้อาจมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนมาก ทำให้มีความต้องการซื้อเงินบาทมากตามไปด้วย
ธปท. ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยฟื้น ส่งออกผ่านจุดต่ำสุด ผลักดันจีดีพีปี 2556 โตเพิ่มเป็นร้อยละ 4.9
18 ม.ค.-นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รายงานนโยบายการเงินฉบับแรกเดือนมกราคม 2556 โดยปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2555 และ 2556 เพิ่มขึ้น หลังจากที่เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 ขยายตัวได้ดีกว่าคาด ส่งผลให้จีดีพี ปี 2555 ปรับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5.9 จากเดิมร้อยละ 5.7 ส่วนจีดีพีในปี 2556 ปรับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.9 จากเดิมร้อยละ 4.6นายไพบูลย์ฯ กล่าวว่า ความเสี่ยงจากปัญหาเศรษฐกิจโลกมีน้อยลง หลังจากกรีซแก้ปัญหาหนี้สาธารณะคืบหน้าไปพอควร ขณะที่สหรัฐอเมริกาสามารถแก้ปัญหาหน้าผาการคลังได้บางส่วน ทำให้คาดการณ์ว่าการส่งออกจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 9 จากปีก่อนขยายตัวเพียงร้อยละ 3.6
กรมสรรพากรให้ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นภาษาอังกฤษได้
15 ม.ค.-นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เป็นประธานเปิดการสัมมนาการยื่นแบบฯ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาฉบับภาษาอังกฤษ “Guide to Personal Income Tax Return” ให้แก่ผู้เสียภาษีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และคำอธิบายวิธีการกรอกแบบแสดงรายการของปีภาษี 2555 ที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2556 ทั้งนี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษี ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในเมืองไทย และเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในอาเซียน
ช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 2555 ภาคครัวเรือน และภาคอุตสาหกรรม ตื่นตัวซื้อกรมธรรม์มากขึ้น
17 ม.ค.-นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่านับตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2555 ถึง 7 มกราคม 2556 มียอดจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ รวมทั้งสิ้น 591,167 ฉบับ จากบริษัทประกันภัยทั้งสิ้น 52 บริษัท ในขณะที่ทุนประกันภัยต่อ ตามสัดส่วนของทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ สะสมมีจำนวน 47,864 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยต่อ ตามสัดส่วนของทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ สะสมมีจำนวน 359 ล้านบาท การตื่นตัวทำประกันภัยพิบัติเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปลายปี สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจและความเชื่อมั่นในการดำเนินงานของกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 02-290-8899 หรือเว็บไซต์ www.ncif.or.th
กระทรวงพลังงานจับมือผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ มั่นใจใช้ก๊าซโซฮอล์ 91
15 ม.ค.-พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานโดยกรมธุรกิจพลังงาน ร่วมมือกับค่ายรถจักรยานยนต์ ประกอบด้วย ฮอนด้า คาวาซากิ ซูซูกิ ยามาฮ่า และเวสป้า สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในการใช้ก๊าซโซฮอล์ โดยปล่อยขบวนคาราวานรถจักรยานยนต์ มั่นใจใช้ก๊าซโซฮอล์ ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าแกรนด์ พระราม 9 เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์เปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเบนซิน 91 มาเป็นก๊าซโซฮอล์ 91 รองรับการยกเลิกจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 เป็นการกระตุ้นให้ใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก แทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลร้อยละ 25 ภายใน 10 ปี ตั้งแต่ปี 2555- 2564 ซึ่งปัจจุบันเอทานอลซึ่งเป็นส่วนผสมของก๊าซโซฮอล์ในประเทศ มีกำลังผลิตส่วนเกิน 2 ล้าน 7 แสนลิตรต่อวัน หากประชาชนใช้ก๊าซโซฮอล์มากขึ้นจะส่งผลให้เพิ่มปริมาณการใช้เอทานอลมากขึ้นขณะที่นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานกล่าวว่า การใช้ก๊าซโซฮอล์ 91 ประหยัดกว่าใช้น้ำมันเบนซิน 91 กิโลเมตรละ 71 สตางค์ ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้จัดตั้งศูนย์บริการปรับแต่งเครื่องยนต์ ให้สามารถใช้ก๊าซโซฮอล์กว่า 200 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึง 24 เมษายน 2556 โดยคาดว่าสัดส่วนการใช้ก๊าซโซฮอล์จะขยับขึ้นเป็นร้อยละ 88 ของผู้ใช้น้ำมันในประเทศได้ภายใน 3 เดือน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายองค์การสะพานปลา
16 ม.ค.-นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่พนักงานและเจ้าหน้าที่ขององค์การสะพานปลา ให้เร่งพัฒนาระบบบริหารจัดการ ให้การสนับสนุนชาวประมง และอุตสาหกรรมการประมงให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ พัฒนาระบบการขนส่งผลิตภัณฑ์สินค้าสัตว์น้ำให้มีความทันสมัย ลดต้นทุนการขนส่ง สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการสำหรับซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การประมงด้านนายวิรัช เถื่อนยืนยงค์ ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา เปิดเผยว่า วางแผนที่จะพัฒนาสะพานปลากรุงเทพ ให้เป็นตลาดกลางสัตว์น้ำที่ทันสมัย เป็นศูนย์รวมธุรกิจประมงของ โดยมีสินค้าสัตว์น้ำ ทั้งสัตว์น้ำมีชีวิต สัตว์น้ำสดและแปรรูป ที่มีคุณภาพสูง สะอาด ถูกสุขอนามัย และเป็นศูนย์การเรียนรู้ ท่ามกลางบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีภูมิทัศน์สวยงาม
มั่นคง
กระทรวงการต่างประเทศ ประชุมหารือแก้ปัญหาชาวโรฮิงญา ลักลอบเข้าประเทศไทย
15 ม.ค.-นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรณีที่มีชาวโรงฮิงญา ลักลอบเข้ามายังประเทศไทยอย่างผิดกฏหมายนั้น สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้จัดประชุมโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) กระทรวงการต่างประเทศ จากรายงานล่าสุดขณะนี้มีกลุ่มชาวโรฮิงญาลักลอบเข้ามาา 857 คน เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 160 คน โดยอยู่ในความดูแลของหน่วยงานไทย ขั้นตอนการดำเนินการ จะมีการพิสูจน์ว่ากลุ่มชาวโรฮิงญาที่เข้ามาในประเทศไทย เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ หรือเข้าประเทศอย่างผิดกฏหมาย แต่ในเบื้องต้น ได้ตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายไว้ก่อน16 ม.ค.-นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จะต้องหารือภายในกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนจะไปพูดคุยกับองค์การข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ขณะนี้ยังไม่ผลักดันออกนอกประเทศ15 ม.ค.-พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่าการดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 แต่ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับหลักสากลและมนุษยธรรม ขณะที่การแก้ปัญหาระยะยาว จะต้องสกัดกั้นการหลบหนีเข้าเมืองอย่างเข้มข้น ส่วนการที่องค์การสหประชาชาติขอเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะนี้รัฐบาลยังไม่อนุญาต เนื่องจากยังสามารถจัดการตามหลักมนุษยธรรมได้16 ม.ค.-พลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความคิดเห็นว่า สหประชาชาติควรมีบทบาทมากกว่านี้ เรื่องการหาประเทศที่ 3 ในการส่งตัวชาวโรฮิงญา เท่าที่ได้รับข้อมูลขณะนี้ อาจมีจำนวนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งรัฐบาลกำลังปราบปราม16 ม.ค.-นายอาซิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้เดินทางไปเยี่ยมกลุ่มมุสลิมชาวโรฮิงญาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา และด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ ได้มอบเงินสดจำนวน 3 แสนบาท ผ่านนายเกชา เบญจคาร นายกเทศมนตรีตำบลสำนักขาม เพื่อนำไปดูแลชาวโรฮิงญาในระหว่างที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่ตามหน่วยงานต่างๆ และกล่าวว่าไม่ต้องการให้ผลักดันชาวโรฮิงญาเหล่านี้กลับไปยังประเทศพม่า เพราะจะต้องประสบกับชะตากรรมเหมือนเดิม ขณะเดียวกันเรียกร้องให้ประสานงานไปยังประเทศที่สาม ให้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้านพล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ชาวโรฮิงญาเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 4 แสนคน โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เพื่อเดินทางไปประเทศที่สาม จากปัญหาความรุนแรงในถิ่นฐานของตนเองส่วน พ.ต.อ.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยความคืบหน้าด้านคดีว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งชาวไทยและชาวพม่าไปแล้ว 10 คนในข้อหานำพาและให้ที่พักพิง และออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 3 คนในข้อหาเดียวกัน17 ม.ค.-ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 9 ดูแลปัญหาในพื้นที่ พบว่าเป็นการหลบหนีเข้าประเทศไม่ได้เป็นการค้ามนุษย์ ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ และยังไม่พบว่ากระทบกับความมั่นคงในประเทศ
คณะทูตภูมิภาคอเมริกาและแปซิฟิก และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป พอใจมาตรฐานการผลิตอาหารแช่แข็งและการใช้แรงงานต่างด้าวไทย
16 ม.ค.-นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการนำคณะทูตภูมิภาคอเมริกาและแปซิฟิก และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เยี่ยมชมการใช้แรงงานต่างด้าว ที่บริษัทไทยรอยัลฟรอเซนฟู๊ด จำกัด และสถานแปรรูปสัตว์น้ำเบื้องต้น หรือล้งกุ้ง ส.สมพล คณะทูตฯ มีความสบายใจมากขึ้น เพราะเห็นกระบวนการผลิต และการใช้แรงงานต่างด้าวชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นการยืนยันว่า ไทยปฏิบัติตามแผนต่อต้านการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ไม่มีการใช้แรงงานเด็ก แรงงานผิดกฎหมาย หรือการค้ามนุษย์ ในอุตสาหกรรมอาหารแช่เยือกแข็ง
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ใน 7 จังหวัดเสี่ยง
16 ม.ค.-นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่าได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ใน 7 จังหวัดเสี่ยง อาทิ จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ระยอง ชลบุรี ระนองขณะที่นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าได้ดำเนินการตรวจสอบแรงงานประมงอย่างใกล้ชิด มีการขึ้นทะเบียนเรือ ทะเบียนผู้ใช้แรงงาน รวมทั้งผลักดันเรือประมงขนาดกลางและขนาดใหญ่ ให้ติดตั้งระบบจีพีเอส เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้
กลุ่มผู้ก่อการร้ายลอบวางเพลิงกล้องวงจรปิดเสียหาย 97 เครื่องในพื้นที่ 7 อำเภอของจังหวัดยะลา
14 ม.ค.-พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า กลุ่มก่อเหตุออกปฏิบัติการในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. เกิดเหตุทั้งหมด 43 จุด ในพื้นที่ 7 อำเภอ กล้องวงจรปิดเสียหาย 76 เครื่อง ในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจภูธร 9 แห่ง ลักทรัพย์กล้องวงจรปิด 3 เครื่อง นอกจากนั้นคนร้ายยังวางเพลิงเสาโทรศัพท์(AIS) เสียหาย 1 เสา และตู้ TOT เสียหาย 1 ตู้ในพื้นที่ สภ.บันนังสตาพื้นที่ที่เสียหายมากคืออำเภอบันนังสตาจากการวิเคราะห์คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ และน่าจะเป็นสัญญาณว่า จะเกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่ในจังหวัดยะลาในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ และจะเกิดเหตุชนิดพร้อมกันทั่วจังหวัด อย่างไรก็ตามกล้องวงจรปิดบันทึกภาพผู้ก่อเหตุได้ในพื้นที่อำเภอกรงปินัง ส่วนพฤติกรรมเบื้องต้นของผู้ก่อเหตุ พบว่าใช้กระสอบป่านบรรจุไว้ในยางรถจักรยานยนต์ และใส่น้ำมันแขวนไว้กับกล้องวงจรปิดแล้วจุดไฟเผา15 ม.ค.-พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า กล้องวงจรปิดที่ได้รับความเสียหายจากเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผา มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 97 เครื่อง จากการตรวจสอบพบว่ากล้องวงจรปิดที่ถูกลอบวางเพลิง เป็นกล้องขององค์การบริหารส่วนตำบลและของอำเภอ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ลงพื้นที่หาข้อมูลและมูลเหตุจูงใจ15 ม.ค.-พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่าจะนำกล้องซีซีทีวีมาติดตั้งใหม่เพื่อชดเชยของเดิมที่เสียหาย พร้อมทั้งจะเพิ่มกล้องอีกหลายจุดในพื้นที่เสี่ยง การทำลายกล้องครั้งนี้มองได้ 2 ประเด็นที่อาจมีความเกี่ยวข้องกัน ทั้งจากการเสียผลประโยชน์จากการติดตั้งกล้องซีซีทีวี และจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ไม่สามารถเจรจาให้กัมพูชาถอนคดีปราสาทพระวิหารออกจากศาลโลก
16 ม.ค.-นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า ศาลโลกนัดสืบพยานครั้งแรกวันที่ 15-19 เมษายน 2556 โดยจะเปิดให้ชี้แจงฝ่ายละ 2 รอบ ฝ่ายไทยมีเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮกเป็นตัวแทน ใช้เวลาฝ่ายละ 270 นาที ตั้งแต่เวลา 10.00-13.00 น.และ 15.00-16.30น. ไทยหวังว่าศาลจะไม่รับพิจารณาคดีนี้ เพราะไม่ใช่การตีความแต่เป็นคดีใหม่ อย่างไรก็ตามหากศาลโลกรับไว้พิจารณา ไทยจำเป็นต้องชี้แจง ไม่เช่นนั้นจะเท่ากับสละสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ โดยจะยืนยันว่าไม่มีอะไรต้องตีความในประเด็นนี้อีก เพราะที่ผ่านมาไทยปฏิบัติครบถ้วนตามกระบวนการ ซึ่งกัมพูชายอมรับว่าไทยปฏิบัติครบถ้วนแล้วปลัดกระทรวงการต่างประเทศยอมรับว่า ไม่สามารถเจรจาให้กัมพูชานำเรื่องออกจากการพิจารณาของศาลโลก แนวทางที่ดีที่สุดคือเตรียมพร้อมสู้คดี และใช้แนวทางการทูตสร้างสันติวิธี
รองนายกรัฐมนตรี เปิดสายด่วน 1386 แจ้งเบาะแสยาเสพติดในชุมชน
14 ม.ค.-ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสข้อมูลยาเสพติด ให้แก่ตำรวจ ผ่านทางสายด่วน 1386 ตลอด 24 ชั่วโมงร้อยตำรวจเอกเฉลิมฯ กล่าวว่าพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถือเป็นแหล่งพักยาเสพติดกว่าร้อยละ 60 ของประเทศ หากตำรวจทั้ง 88 สถานี ได้ทำงานร่วมกับ 50 เขตของกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด จะทำให้การปราบปรามยาเสพติดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ตำรวจหาดใหญ่และเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดยึดกล่องพัสดุไปรษณีย์ 24 กล่อง ซุกซ่อนใบกระท่อมและยาแก้ไอ
16 ม.ค.-พ.ต.อ.อดิเรก บือราเฮง ผกก.สภ.หาดใหญ่ และ ร.ต.อ.สมร บุญไสว สว.กก.3 ปส.4 ตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์จำนวน 24 กล่อง ที่ถูกส่งมารวมไว้ที่ศูนย์ไปรษณีย์หาดใหญ่ จากการตรวจสอบพบว่าภายในซุกซ่อนใบกระท่อมน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ยาแก้ไอขนาดต่างๆ 129 ขวด กล่องพัสดุดังกล่าวส่งมาจากศูนย์ไปรษณีย์ในพื้นที่กรุงเทพ นครปฐม สมุทรสาคร มีปลายทางกระจายอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จากการตรวจสอบชื่อที่อยู่ของทั้งผู้ส่งและผู้รับพบว่าเป็นชื่อปลอม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ที่ซุกซ่อนยาเสพติด ยาแก้ไอ ยากล่อมประสาท เครื่องกระสุน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถประกอบระเบิดได้ อย่างน้อยสามครั้งที่ศูนย์ไปรษณีย์หาดใหญ่ ซึ่งใช้วิธีการเดียวกัน คาดว่าเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มเดียวกัน
กระทรวงคมนาคมเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เตรียมเปิดประมูลจัดซื้อขบวนรถมีนาคมนี้
16 ม.ค.-นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าจะปรับแนวทางการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง จากเดิมกำหนดการก่อสร้างเส้นทางภาคเหนือเป็น 2 ระยะ คือเส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก และพิษณุโลก –เชียงใหม่ ให้เป็นการก่อสร้างเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ รวมระยะทาง 680 กิโลเมตร โดยไม่ต้องแบ่งเป็น 2 ระยะ โดยจะประกวดราคาพร้อมกันกับเส้นทางสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา เส้นทางภาคใต้ กรุงเทพฯ-หัวหิน และเส้นทางภาคตะวันออก กรุงเทพฯ-พัทยา งบประมาณดำเนินโครงการประมาณ 600,000 ล้านบาท ขณะที่การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงทั้งหมด ตั้งงบประมาณไว้ที่ 900,000 ล้านบาทส่วนงบประมาณในการจัดซื้อตัวรถอยู่ที่ร้อยละ 20 ของงบดำเนินโครงการทั้งหมดหรือประมาณ 180,000 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าในเดือนมีนาคมนี้ การประกวดราคาและระบบทั้งหมดจะชัดเจนขึ้น สำหรับความเร็วรถที่วิ่งให้บริการเบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นมาตรฐานของรถไฟความเร็วสูง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น