วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สืบเผาเมือง 53 คลิปโยงทักษิณ มั่นใจฟัน 24 แดง ข่าวหน้า 1 15 December 2555 ข่าวไทยโฟสต์



สืบเผาเมือง 53 คลิปโยงทักษิณ มั่นใจฟัน 24 แดง

สืบพยานโจทก์คดีเผาเมืองนัดแรก รอง ผอ.กองข่าว ทบ.แฉการชุมนุม นปช.ช่วงแรกเป็นไปโดยสงบ แล้วทวีความรุนแรงขึ้น ยิงเอ็ม 79 ขว้างระเบิด ยิงอาร์พีจีใส่พื้นที่ราชการ และยิง จนท.เสียชีวิตหลายนาย พร้อมเปิดคลิปโยง "ทักษิณ" อัยการมั่นใจพยานหลักฐานเอาผิด 24 แก๊งแดงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ยันไม่เปลี่ยนสีแน่
    ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 14 ธ.ค. ศาลออกนั่งบัลลังก์เพื่อสืบพยานโจทก์ครั้งแรก คดีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย หมายเลขดำ อ.2542/53 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 และกลุ่มผู้ค้าที่ได้รับความเสียหายรวม 42 ราย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช., นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์, นพ.เหวง โตจิราการ และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กับพวก รวม 24 คน เป็นจำเลย
    ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย, ร่วมกันทำให้ปรากฏกับประชาชนด้วยวาจา มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป ประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ร่วมกันชุมนุมหรือ มั่วสุม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน  ระหว่างวันที่ 28  ก.พ.-20 พ.ค.53
    โดยนายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 นำ พ.อ.ธนากร โชติพงษ์ นายทหารปฏิบัติการ กรมข่าวทหารบก  เบิกความสรุปว่า ขณะเกิดเหตุ พยานเป็นรอง ผอ.กองข่าว กรมข่าวทหารบก ซึ่งได้รับแต่งตั้งเข้าปฏิบัติหน้าที่นายทหารส่วนข่าวร่วมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เพื่อรวบรวมรายงานข่าวสรุปสถานการณ์ประจำวันเสนอผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ขณะที่การชุมนุมช่วงแรกยังเป็นไปโดยสงบ แต่เมื่อมีผู้ชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ ประมาณ  60,000-70,000 คน ก็มีการเข้ายึดพื้นที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศและสี่แยกราชประสงค์ในการชุมนุม และเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่น มีการยิงเอ็ม 79, ขว้างระเบิด เอ็ม 26, ระเบิดเอ็ม 67 และยิงจรวดอาร์พีจี เข้าไปในพื้นที่ราชการ ขณะที่การข่าวไม่ชี้ชัดได้ว่าเป็นบุคคลใดบ้าง แต่พบว่า น่าจะเชื่อมโยงกับผู้ชุมนุมที่สถานการณ์เกิดในช่วงเดียวกัน และนอกจากในพื้นที่ กทม.แล้วยังมีการชุมนุมในต่างจังหวัดด้วย เช่น อุดรธานี อุบลราชธานี เชียงใหม่ 
    ส่วนการสูญเสียเริ่มเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ศอฉ.ได้ขอกระชับพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ-สี่แยกคอกวัว ซึ่งมีการปะทะของกำลังเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่มีบุคคลไม่ทราบฝ่ายรวมอยู่ด้วย และมีการยิงใส่เจ้าหน้าที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายนาย อาทิ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม รอง เสธ.พล.ร.2 รอ. ค่ายจักรพงษ์ อ.เมืองฯ จ.ปราจีนบุรี ที่ถูกอาวุธยิงใส่เสียชีวิต ที่ยังสงสัยว่าจะเป็นเอ็ม 79 หรือลูกระเบิดชนิดขว้าง นอกจากนี้ยังมี ผบ.พล. ร.2 ที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดด้วย  แต่ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยึดยานพาหนะและถอดอะไหล่ชิ้นส่วนออก รวมทั้งยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ไปด้วย โดยหลังเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.53 มีแนวโน้มที่ความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง เช่น การยิงเอ็ม 79 เข้าไปในพื้นที่กองพันทหารราบที่ 11 รอ. ที่ตั้งของ ศอฉ. และยิงเข้าไปในกระทรวงสาธารณสุขหลังที่มีการประชุม ครม.ด้วย สำหรับการชุมนุมของ นปช. จะมีกลุ่มการ์ดอยู่ด้วยกันหลายกลุ่ม โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการวิดีโอลิงค์ส่งภาพและเสียงมายังเวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดงด้วย   
    พ.อ.ธนากรกล่าวว่า ในช่วงการชุมนุม ศอฉ.พยายามเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล โดยช่วงที่มีการกระชับพื้นที่ไม่ได้ใช้ความรุนแรงเพื่อสลายการชุมนุม เพียงแต่ต้องการกดดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติไปเอง เนื่องจากขณะนั้นมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายอยู่ด้วย โดยช่วงการกระชับพื้นที่ก็ยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นประมาณ 6 จุด ก่อเหตุเผาในหลายพื้นที่ ซึ่งต่อมาการชุมนุมได้ยุติลงเมื่อประมาณวันที่ 20 พ.ค.53 
    ทั้งนี้ ระหว่างสืบพยาน อัยการโจทก์ ได้นำวีซีดีประมวลภาพเหตุการณ์ระหว่างการชุมนุม ความยาวประมาณ 10 นาที เสนอศาลเพื่อเปิดดูด้วย โดยปรากฏเสียงและภาพของแกนนำ นปช. เช่น นายณัฐวุฒิ นายจตุพร นายอริสมันต์ และอีกหลายคน ที่ขึ้นปราศรัยกล่าวกับผู้ชุมนุมให้ไปรวมตัวที่ศาลากลางจังหวัดแต่ละที่เพื่อเตรียมพร้อม และยังมีถ้อยคำบางตอนที่กล่าวถึงใช้น้ำมันเบนซินวางเพลิงเผาสถานที่ต่างๆ ใน กทม. และศาลากลางจังหวัด อาทิ ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยกลุ่มของจำเลยได้ดูภาพดังกล่าวด้วย
    ภายหลังนายรุจกล่าวถึงแนวทางการนำพยานโจทก์เข้าเบิกความว่า เบื้องต้นทางอัยการเตรียมพยานไว้กว่า 300 ปากเช่นเดิม ยังไม่มีแนวคิดที่จะเพิ่มเติมหรือตัดพยานแต่อย่างไร  ส่วนที่พยานโจทก์ไม่มีนายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอฉ. (ขณะนั้น) เพราะพนักงานสอบสวนดีเอสไอไม่เคยเรียกบุคคลทั้งสองมาให้ปากคำในฐานะพยานในคดีนี้ แต่ยืนยันว่าจะมีการนำนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ มาเป็นพยานโจทก์คนสำคัญอย่างแน่นอน 
    “ยืนยันว่าไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ทางอัยการจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา จะไม่ท้อ และไม่มีการเปลี่ยนสีแน่นอน และส่วนตัวมั่นใจพยานหลักฐานในคดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่จะเอาผิดพวกจำเลยได้แน่นอน เพราะหากหลักฐานไม่พอ คงไม่ยื่นฟ้อง" นายรุจกล่าวตอนท้าย
    ด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง ซึ่งศาลสั่งถอนประกันและถูกควบคุมตัวที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ กล่าวถึงการยื่นขอประกันตัวว่า ตนได้ปรึกษากับทางทีมทนายความแล้วว่าจะยื่นเรื่องขอศาลปล่อยชั่วคราวอีกครั้ง โดยอ้างเหตุผลว่าใกล้เปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 21 ธ.ค.นี้แล้ว ตนควรจะต้องประกันตัวออกไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ซึ่งหากศาลอนุญาต เมื่อปิดสมัยประชุมสภาตนก็ไม่ต้องกลับมาถูกคุมขังอีก.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น