วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555

มือปืนสังหารหมู่ ป่วยเป็นโรค ′แอสเพอร์เจอร์′ อยู่บ้านหลังละ 48 ล้าน เมื่อ 16 ธ.ค.55



มือปืนสังหารหมู่ ป่วยเป็นโรค ′แอสเพอร์เจอร์′ อยู่บ้านหลังละ 48 ล้าน
 
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ‘อดัม แลนซา’ มือปืน 27 ศพ
ซึ่งฆ่าแม่ของตัวเองจากนั้นไปที่โรงเรียนประถม แซนดี้ ฮุคซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของตัวเองแล้วฆ่าเด็ก 20 คน ผู้ใหญ่ 6 คน ป่วยเป็นโรค ‘แอสเพอร์เจอร์’ ซึ่งผู้ป่วยเป็นโรคนี้มีสติปัญญาเหมือนเด็กปกติแต่จะมีปัญหาในการเข้าสังคมกับผู้อื่น


อดีตเพื่อนร่วมชั้นของอดัมบอกว่าเขาเคยเป็นเด็กที่สุภาพและเรียนเก่ง เขาอาศัยอยู่กับแนนซี่ แลนซ่าผู้เป็นแม่ในบ้านหลังใหญ่ราคาประมาณ 48 ล้านบาท ในนิวทาวน์ รัฐคอนเนตติคัต ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ

อดีตเพื่อนร่วมชั้นหลายคนบอกว่า ไม่มีใครแปลกใจที่เขาก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ 
พวกเขาบอกว่าอดัมไม่ได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับร.ร.มัธยมหรือเมืองนี้ นักเรียนคนอื่นๆ ต่างก็จำเขาได้เพราะเขาชอบแต่งกายด้วยชุดดำและถือกระเป๋าเอกสารสีดำมาโรงเรียน


นายเฟเดอร์แมน อดีตประธานนักเรียนของโรงเรียนมัธยมนิวทาวน์ ปี 2553 
บอกว่าเขาก็เหมือนเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ที่เกือบจะจำอดัมไม่ได้ แต่ได้ยินจากเพื่อนร่วมรุ่นส่วนใหญ่ว่ามือปืนรายนี้ไม่เคยมีเพื่อน และเคยเห็นอดัมเวลาที่เขาเดินจากห้องเรียนหนึ่งเพื่อไปอีกห้องเท่านั้น โดยเขามักเดินคนเดียวและไม่เคยสนใจใคร และบอกว่าสิ่งที่จำได้เกี่ยวกับมือปืนรายนี้คือเขาชอบใส่เสื้อตัวใหญ่โคร่ง เหน็บปากกาไว้ในกระเป๋าเสื้อและถือกระเป๋าเอกสารสีดำในขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ สะพายเป้หลัง


รายงานระบุว่าหลังจากย้ายมาอยู่ที่นิวทาวน์ อดัมได้เข้าเรียนที่ร.ร.ประถมแซนดี้ ฮุคซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ จากนั้นได้เข้าเรียนต่อที่ร.ร.มัธยมนิวทาวน์ โดยจบการศึกษาในปี 2553

ด้านนายริชาร์ด โนเวียร์ ที่ปรึกษาชมรมเทคโนโลยีที่อดัมเป็นสมาชิกกล่าวว่า
อดัมมีความผิดปกติที่เห็นได้ชัด และอธิบายว่าเขาเป็นเด็กขี้กลัวและมีอาการประหม่าทั้งที่อยู่ท่ามกลางผู้คนที่ไว้ใจได้และปฏิเสธที่จะพูดกับใคร แต่ไม่คาดคิดว่าจะเขาก่อเหตุรุนแรงเช่นนี้ได้

รายงานระบุว่าเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค ′แอสเพอร์เจอร์′ ซึ่งผู้ป่วยจะมีปัญหาในการติดต่อสื่อสารและทักษะการเข้าสังคม จนนำไปสู่การแปลกแยกและมีปัญหาทางอารมณ์
เพื่อนบ้านของอดัมรายหนึ่งบอกว่า เขารู้ว่าอดัมมีปัญหาด้านการเข้าสังคม ส่วนอดีตเพื่อนร่วมชั้นอีกคนบอกว่า ทุกคนคิดว่าเป็นเพราะเขาฉลาดและนั่นทำให้เขาไม่ชอบคุยกับคนอื่น และมักจะเกาะกลุ่มอยู่กับเพื่อนที่ฉลาดๆ ด้วยกันเท่านั้น  ในขณะที่อดีตเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งบอกว่าเขาคิดว่าอดัมเป็นเด็กประหลาดตั้งแต่อายุ 5 ขวบ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรดาเพื่อนๆ ของครอบครัวนี้บอกตรงกันว่า อดัมเริ่มมีปัญหาหนักขึ้นเมื่อพ่อแม่แยกทางกันเมื่อปี 2551
หลังแต่งงานมาเป็นเวลา 18 ปี และบอกว่าพ่อของเขาเป็นผู้บริหารระดับสูงน่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อปี และยังคงดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี โดยยกบ้านหรูราคาแพงให้ลูกชายคนเล็กและอดีตภรรยาอาศัยต่อ และให้เงินส่งเสียเกือบ 10 ล้านบาทต่อปี


ขณะเดียวกันอดีตเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งของอดัมก็บอกว่าเขาเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากที่พ่อแม่หย่ากัน
มักจะทำตัวแปลกแยกโดดเดี่ยว แต่ก็ฉลาดมาก  และในหลายปีที่ผ่านมาเขาก็หายหน้าไปจากเพื่อนฝูง และถึงแม้ว่าเขาจะดูแปลกอยู่แล้ว แต่การหย่าร้างของพ่อแม่ก็มีกระทบต่อเขาอย่างมาก โดยเขามักจะทะเลาะกับแม่อยู่เสมอ และเขาเป็นเหมือน ‘ระเบิดเวลาที่รอการระเบิด’


รายงานเพิ่มเติมระบุว่าญาติของครอบครัวนี้บอกว่าแม่ของอดัมซึ่งเคยเป็นครูพิเศษที่โรงเรียนแซนดี้ ฮุค เป็นคนเข้มงวดและเอาแต่ใจตัวเอง และชอบสะสมปืน ซึ่งปืนทั้ง 3 กระบอกที่อดัมใช้ในการก่อเหตุก็มาจากปืนสะสมของเธอและเธอเองที่เป็นคนสอนอดัมให้ยิงปืน

ส่วนอดีตน้องสะใภ้ของแนนซี่แม่ของมือปืนกล่าวว่า
แนนซี่เป็นแม่ที่ดีและใจดี ลูกๆ ของเธอด้วยได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี และบอกว่าแนนซี่เองก็รู้ถึงความปกติของอดัมและได้พยายามปรึกษาจิตแพทย์เพื่อช่วยเหลือลูกชายของเธอ


ด้านไรอัน แลนซา วัย 24 ปี พี่ชายของอดัมซึ่งทีแรกถูกเข้าใจว่าเป็นมือปืนที่ก่อเหตุสังหารหมู่ครั้งนี้ และถูกควบคุมตัวไปสอบสวน โดยถูกปล่อยตัวเมื่อวาน กล่าวว่าเขาไม่ได้ติดต่อกับน้องชายตั้งแต่ปี 2553 และบอกว่าน้องชายเป็นเด็กเนิร์ดและชอบเก็บตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น