วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ทูตจีนประจานขายข้าว...จีนทูเจ๊...บ่ฮู้บ่หัน...บุกพรรคปชป.จู๋จี๋ งานนี้สนุก เมื่อ 1 ธ.ค.55







รัฐบาลปูแหกตาประชาชน
ทูตจีนเผยรัฐบาลจีนซื้อข้าวไทยเป็นเรื่องของเอกชน
คณะโรงเรียนการเมืองของจีนนำโดยรองผู้อำนวยการการเมืองของจีน จากกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ ได้นำนายก่วน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคและแกนนำ โดยรองผอ.การเมืองของจีนได้บรรยายเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของประเทศจีนในทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยยืนยันว่าผู้นำคนใหม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน และ มีแนวคิดที่จะทำให้เศรษฐกิจเติมโตเป็นสองเท่าตัว ภายใน10 ปี และจะดำรงเป้าหมายจีดีพี ของจีนโต 15 % ต่อปี ทุกๆปี อีกทั้งจีนยังมีนโยบายพัฒนาด้านเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดความมั่งมีศรีสุขต่อประชาชน และเป็นมิตรกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงต้องการให้เกิดสันติภาพ ซึ่งเมื่อจีนมีศักยภาพเพียงพอก็พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสันติภาพให้กับโลก
นายก่วน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการขายข้าวแบบจีทูจี ระหว่างไทยกับจีนว่า เป็นประเพณีที่เกิดขึ้นมาหลาย10 ปีแล้ว เพราะประเทศไทยผลิตข้าวมากที่สุด และขายข้าวได้เป็นอันดับหนึ่งของโลกตลอดมา จึงมีการหารือกันขอให้จีนซื้อข้าวเพิ่มเพื่อช่วยเหลือชาวนาไทย ให้มีรายได้ดีขึ้น ต่อมาก็มีการลงนามในข้อตกลงสนับสนุนค้าสินค้าเกษตร และ สนับสนุนการค้า โดยในเรื่องข้าวนั้น จีนก็เห็นว่าควรที่จะสนับสนุนจึงลงนามในหลักการเรียกว่า ระหว่างรัฐบาลเป็นในระดับหลักการเท่านั้น แต่ถ้าจะซื้อขายจริงๆจะมอบหมายให้บริษัทไปหารือกับประเทศไทยโดยตรง ทั้งนี้ทราบว่ามีการเซ็นสัญญากับบริษัทแล้ว โดยประมาณหลายแสนตัน แต่ไม่เคยมีสัญญาซื้อขาย 5 ล้านตันตามที่รัฐบาลไทยกล่าวอ้าง เพราะจีนไม่ได้ซื้อข้าวจากไทยประเทศเดียว จึงไม่ได้ซื้อมากมาย เพราะเราก็ไม่ได้ขาดข้าวอยู่แล้ว เพียงแต่ซื้อเพื่อปรับตามความต้องการของตลาดที่ชอบรสชาติข้าวไทย แต่บางครั้งก็ซื้อจากเวียดนาม รัสเซีย และอีกหลายประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่าบริษัทที่จีนมอบหมายให้ซื้อข้าวกับบริษัทจีเอสเอสจี กับไทยใช่หรือไม่ นายก่วนมู่ กล่าวว่า ไม่ได้มีบริษัทเดียว แต่มีหลายบริษัทประมาณ 4 - 5 บริษัท ซึ่งสัญญาซื้อขายก็ยังไม่ได้ยุติทั้งหมด ต้องตกลงกันต่อไป ซึ่งสาเหตุที่จีนเลือกซื้อข้าวไทยขณะที่ราคาสูงกว่าประเทศอื่นเพราะคุณภาพและรสชาติต่างกัน โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิของไทยมีซื้อเสียงในประเทศจีน โดยเฉพาะผู้บริโภคทางภาคใต้ของจีนชอบข้าวไทย แม้ราคาจะสูงแต่บริษัทเอกชนต้องคิดว่าคุ้ม ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ซื้อข้าวจากไทย เพราะทุกอย่างมีกลไกตลาดกำกับ
เมื่อถามว่า สังคมกำลังสงสัยว่าจีทูจีในการขายข้าวระหว่างไทยกับจีน กำลังเป็นเครื่องมือบังหน้าในการทุจริต เอกอัครราชทูตจีน ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้โดยกล่าวว่า ไม่ทราบ และอยากอธิบายว่าการซื้อข้าวจากไทยเป็นประเพณีที่ทุกปีต้องซื้อ ส่วนการเปิดแอลซี รัฐบาลจะไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องของบริษัท เนื่องจากการดำเนินการของบริษัทหรือรัฐวิสาหกิจจะทำเอง รัฐบาลมีบทบาทเพียงแค่ชี้นำให้มีการซื้อขายเท่านั้น จากนั้นบริษัทจะไปตกลงกันเองกับประเทศไทย
" ระบบที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจีนเป็นผู้ซื้อ แต่มีบทบาทชักนำให้รัฐวิสาหกิจ หรือภาคเอกชนเข้ามาซื้อเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลแล้ว รวมถึงเรื่องการตกลงราคาก็เป็นเรื่องที่สองฝ่ายคุยกัน หลักการอยู่ที่กลไกตลาด บริษัทที่ซื้อไปต้องขายได้กำไร เพราะถ้าขาดทุนคงไม่ซื้อเพราะรัฐบาลไม่ได้ช่วย เนื่องจากมีกฏเกณฑ์และระเบียบหลายอย่าง"นายก่วน มู่ ระบุ

เนชั่นทันข่าว
พญามังกรดอดเข้าถ้ำพรรคประชาธิปัตย์
ในขณะที่อเมริกากระจู๋กระจี๋อี๋อ๋อพรรคเพื่อไทย
ถ้าการเมืองพลิกกลับ คนลำบากน่าจะเป็นประเทศที่อยู่ใกล
เพราะไทยกับจีนนั้นคือพี่น้องกัน มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันมานานแสนนาน
อเมริกันมากอบโกยผลประโยชน์ ใช้พื้นที่ของไทยที่เป็นต่อในทางยุทธศาสตร์เพื่อประโยชน์ตัวเอง
การที่ทูตจีน ไม่รับลูกการขายข้าว "จีทูจี" ครั้งนี้....รัฐบาลขี้ข้าอาจจนมุม

หากมีการสอบสวนถึงชั้น ปปช. และศาล
งานนี้อาจมีเฮ...รัฐบาลเจ๊ทูเจ๊ อาจถึงเวลา เจ๊งทูเจ๊ง
แคน ไทเมือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น