วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555

รองผบช.น.ยันอาวุธสงครามที่ยึดได้ไม่เกี่ยวก่อการร้าย เมื่อ 9 ต.ค.55


วันที่ 9 ต.ค.2555 พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. กล่าวถึงการตรวจยึดอาวุธสงครามจำนวนมากซุกซ่อนภายในแฟลตเอื้ออาทรปัญญาอินทราห้องเลขที่ 189/1 อาคาร 39 ถนนปัญญาอินทรา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.ว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมที่เกษียณราชการไปแล้วมาให้ปากคำในฐานะเจ้าของห้องและมาพร้อมกับคนดูแลห้องรวมถึงผู้เช่าช่วงต่อทั้งหมดสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับอาวุธสงครามทั้งหมดหรือไม่อย่างไรซึ่งรองผู้ว่าฯก็ให้ความร่วมมือดี และเดินทางมาให้ปากคำแล้วเมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมาที่ สน.โคกคราม และยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามที่ตรวจพบทั้งหมด

พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวต่อว่า อาวุธสงครามทั้งหมดที่ตรวจยึดนั้น เชื่อว่านำมาเก็บไว้เพื่อจำหน่ายเพื่อการค้ามากกว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเตรียมการของกลุ่มก่อการร้ายที่หวังจะเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ กทม.อย่างแน่นอน เพราะของกลางที่พบส่วนใหญ่เป็นจำพวกชิ้นส่วนประกอบและเครื่องกระสุนปืนที่พร้อมจะขายมากกว่านำไปก่อเหตุน่าจะเป็นพวกพ่อค้า ฉะนั้นขอประชาชนอย่าได้ตื่นตกใจ 

"ตอนนี้เราได้ส่งซีรีส์นัมเบอร์ไปตรวจสอบตามหน่วยงานสรรพาวุธต่างๆ ที่เป็นหน่วยราชการทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วันก็จะทราบว่าซีรีส์นัมเบอร์นี้ล็อตนี้ผลิตเมื่อไหร่อย่างไรมีจำหน่ายที่ไหน แต่หากเป็นซีรีส์ที่ไม่มีการผลิตในประเทศไทยก็น่าเชื่อว่าจะมีการนำเข้ามาอาจจะลักลอบก็เป็นได้ ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ อย่างตัวลูกปืนคอร์ในบ้านเราที่ใช้อยู่ไม่ใช่สีนี้ แต่อาจเป็นไปได้ทั้งนั้นว่าอาจมีการลักลอบจากหน่วยงานต่างๆ แล้วเอาออกมาขาย เราก็ต้องตรวจสอบไปตามหน่วยราชการอย่างที่บอกว่าหน่วยไหนมีอะไรขาดหายไป ปริมาณที่พบอาจจะยังไม่มากเพียงพอถึงขนาดมีการลักลอบนำออกขายต่างๆประเทศ น่าจะพวกพ่อค้าลักลอบขายในประเทศมากกว่า เพราะกระสุนปืน 10,000 นัด หากนำมาแจกให้กองกำลังคนละ 1,000 นัดก็ได้เพียงแค่ 10 คนเท่านั้น เราต้องสืบสวนสอบสวนหาที่มาที่ไปของอาวุธสงครามทั้งหมด สั่งการให้ฝ่ายสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไว้ประกอบแล้ว ขอยืนยันว่า อาวุธสงครามที่พบครั้งนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเตรียมการก่อการร้ายของกลุ่มใดๆ เป็นเรื่องของการขายชิ้นส่วนมากกว่า" รอง ผบช.น.กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น