วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

"สุทธิพล"ปูด7ประเด็น ขบวนการล้มประมูล 3 จี ห่วงแผนปลุกระดมโยงการเมือง ดิสเครดิตกสทช. วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 17:02:25 น




"สุทธิพล"ปูด7ประเด็น ขบวนการล้มประมูล 3 จี ห่วงแผนปลุกระดมโยงการเมือง ดิสเครดิตกสทช.

วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 17:02:25 น.

สุทธิพล ทวีชัยการ 

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่า จากการเคลื่อนไหวการคัดค้านการประมูล 3G ทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจเกรงว่าจะเป็นปัญหาลุกลามบานปลาย และเกิดความเสียหายต่อประเทศไทย ในฐานะกรรมการกสทช.และเป็นหนึ่งในกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องนี้ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต รอบคอบ และใช้ดุลยพินิจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติในขณะนี้โดยมุ่งประโยชน์ของประชาชนอย่างไรก็ตาม ได้ติดามเรื่องต่าง ๆ และข้อมูลข่าวสารด้วยความเป็นห่วง รวมทั้งได้มีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์ในเรื่องดังกล่าวดังนี้


ประเด็นแรก การเคลื่อนไหวต่อต้านการประมูลในครั้งนี้มีการนำประเด็นเรื่องสัมปทานมาเกี่ยวข้องทั้ง ๆ ที่มีหลายคนมีแนวคิดที่ไม่เห็นด้วยกับระบบสัมปทานมาก่อน รวมทั้งเคยผลักดันให้มีการเปลี่ยนจากระบบสัมปทานเป็นระบบการแข่งขัน แต่ตอนนี้มีความพยายามนำเรื่องการประมูลมาเปรียบเทียบกับข้อดีของระบบสัมปทาน ทั้งๆ ที่ระบบการประมูลคลี่นความถี่จะเป็นการช่วยลดการผูกขาดอำนาจของหน่วยของรัฐ เพิ่มการแข่งขันให้ภาคเอกชน ส่งผลให้คุณภาพดีขึ้น และราคาตั้งต้นการประมูลต่ำไป โดยมีการสื่อข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายที่คลาดเคลื่อน และนำมาเปรียบเทียกับมูลค่าสัมปทาน ทั้ง ๆ ที่การประมูลครั้งนี้เป็นการนำคลื่นความถี่ที่ไม่อยู่ภายใต้สัมปทานมาจัดสรรให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน โดยมิได้เขาไปแทนที่ระบบสัมปทาน จึงเป็นเรื่องที่น่ากังขาอย่างยิ่ง


ประเด็นที่สอง การเคลื่อนไหวคัดค้านการประมูลในครั้งนี้เคลื่อนไหวในประเด็นที่ต้องการเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล โดยการพยายามให้กสทช.หารายได้ให้รัฐบาลมาก ๆ และมุ่งโจมตีว่า รัฐบาลจะเสียผลประโยชน์จากการประมูลในครั้งนี้ ทั้งๆที่กสทช.เป็นองค์กรของรัฐก็จริงแต่เป็นอิสระจากรัฐบาล และมิได้มีหน้าที่หารายได้ให้รัฐบาล แต่ต้องจัดสรรคลื่นความถี่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน จึงมีข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงเคลื่อนไหวเช่นนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดต่อบทบาทอำนาจหน้าที่ของกสทช.ตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย


ประเด็นที่สาม การให้กสทช.กำหนดราคาตั้งต้นการประมูลสูงเกินไปโดยไม่มีหลักวิชาการรองรับทำให้ส่งผลเป็นการกีดกันผู้ประกอบการรายย่อยไม่ให้เข้าร่วมการประมูลได้ ทำให้ตลาดผูกขาดเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น เหตุใดการคัดค้านจึงต้องการให้กสทช.กำหนดราตั้งต้นที่สูงอย่างไม่มีเหตุผล โดยมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงจากผลการศึกษาของคณะผู้วิจัยจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เช่นนี้ หากกสทช.ทำตามข้อเรียกร้อง ย่อมเป็นการทำให้กสทช.กระทำผิดกฎหมาย เนื่องจากถูกมองว่าเอื้อประโยชนต่อผู้ประกอบการรายใหญ่และมุ่งหารายได้ให้รัฐบาล โดยไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดที่จะต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชน


ประเด็นที่สี่ กระบวนการโจมตีการทำงาน และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง กสทช.ถูกทำอย่างเป็นระบบมีการเคลื่อนไหวตั้งแต่ก่อนการประมูล มีการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ส่งต่อกันเป็นทอด ๆ มีการปลุกระดมโดยใช้สื่อหลายแขนง ซึ่งถ้ากระบวนการนี้ยังดำเนินต่อไปอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง ประชาชนบางกลุ่มอาจถูกโน้มน้าวให้เกิดความเข้าใจผิด ๆ จนต้องการให้ล้มประมูล 3 จีครั้งนี้


ประเด็นที่ห้า มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่า กระบวนการเคลื่อนไหวนี้มิได้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ทางวิชาการอย่างสุจริตใจ เนื่องจากมีการปลุกเร้าให้คนไทยเกลียดชังและหวาดระแวงว่า กสทช.ทำให้รัฐสูญเสียรายได้นับหมื่นล้านบาท ทั้งที่จริง ๆ แล้วคลื่นความถี่ที่นำมาประมูลครั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้มีต้นทุนใด ๆ เนื่องจากเป็นทรัพยากรที่มีอยู่แล้ว และใช้ได้ตลอดไป โดยสามารถกำหนดระยะเวลาการใช้ตามอายุของใบอนุญาต เมื่อหมดใบอนุญาตก็สามารถนำมาจัดสรรได้ใหม่ และที่ผ่านมาคลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz จำนวน 45 GHz ก็ถูกทิ้งไว้เฉย ๆ ไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ใด ๆ ตรงกันข้าม หากไม่มีการนำคลื่นความถี่นี้มาจัดสรร หรือประวิงเวลาให้การจัดสรรคลื่นย่านความถี่นี้ต้องล่าช้าออกไป จะทำให้เกิดวิกฤตต่อระบบโทรคมนาคมของไทยและเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างมหาศาล


ประเด็นที่หก อีกไม่ถึง 2 ปีเราก็จะเข้าสู่ AEC แล้ว หากประเทศไทยยังมีระบบโทรคมนาคมที่ไม่มีประสิทธิภาพเราก็จะแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ไม่ได้ และเมื่อบริษัทโทรคมนาคมของต่างชาติเข้ามาแข่งขัน บริษัทโทรคมนาคมของไทยจะไม่มีโอกาสเติบโตได้ การขัดขวางผลการประมูล 3 จี จะทำให้ต่างชาติได้ประโยชน์ แต่ประเทศไทยเสียหายย่อยยับ จึงมีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณืว่า เป็นเรื่องที่ผิดปกติที่มีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ โดยทำให้ประเทศชาติเสียหาย แต่ต่างชาติได้ประโยชน์


ประเด็นที่เจ็ด มีการโจมตีการทำงานของกทค.เช่น โจมตีว่า กทค.เร่งรับรองผลการประมุล รีบให้ใบอนุญาตโดยพิรุธ ทั้ง ๆ ที่สื่อมวลชนก็เห็นแล้วว่า เราได้มีการถ่ายทอดเสียงในวันพิจารณาผลการประมูล โดยมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ได้มุบมิบแอบทำ และไม่ได้ลุกลี้ลุกลน แต่ต้องดำเนินการตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ มีการกล่าวหาว่ากสทช.เร่งรัดออกใบอนุญาตให้ผู้ชนะการประมูล ซึ่งไม่เป็นความจริง ดังจะเห็นได้จากวันนี้ที่กทค.ได้แถลงการณ์ยืนยันว่า มีเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการก่อนให้บริการ 3 จี ซึ่งเราต้องแน่ใจก่อนว่า ผู้ประกอบการต้องทำตามเงื่อนไขที่เรากำหนดก่อนว่าประชาชนผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์สูงสุด


จึงขอวิงวอนให้ประชาชนชาวไทยรับฟังข้อมูลต่าง ๆ อย่างมีสติ ใตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าให้การยั่วยุใด ๆ อยู่เหนือเหตุลจนทำให้คนไทยเกลียดชังกัน และมองข้ามประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับจากการประมูล 3 จี


บทเรียนความขัดแย้งทางการเมืองในอดีตที่เกิดความเสียหายอย่างเจ็บปวดต่อประชาชนต่อประเทศชาติ จึงคงไม่มีใครต้องการให้เหตุการณ์ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งผมขอยืนยันว่าการเมืองไม่ได้มาเกี่ยวข้องในการที่กสทช.จัดประมูล 3 จีในครั้งนี้


โดยบอร์ดกระทำการโดยบริสุทธิ์ใจ และทำเพื่อประโยชน์ของคนไทย จึงขอให้ประชาชนชาวไทยมั่นใจว่า กสทช.จะสานต่อภารกิจเพื่อชาติให้สำเร็จให้ได้ เพื่อให้การจัดสรรคลื่นความถี่ สำหรับเทคโนโลยี 3 จี ซึ่งเป็นการประมูลคลื่นความถี่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น