วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

บันทึกหน้า 4...เพลิงทัศน์ 16 October 2555




บันทึกหน้า 4...เพลิงทัศน์

    ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ “บิ๊กออฟ” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และมีฐานะเป็น “พี่ชาย” คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์    จากนี้ต่อไปบทบาทในพรรคคงไม่ใช่แค่สมาชิกธรรมดาเป็นแน่  ยิ่งตอนนี้เก้าอี้หัวหน้าพรรคก็ว่าง มีแค่รักษาการคือ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ฉะนั้น ประชุมพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 30 ตุลาคม เป็นไปได้สูงมากทีเดียวที่จะเลือก “ระดับบิ๊ก” อย่าง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เป็นหัวหน้าพรรค ...๐ สำหรับอนาคตทางการเมืองของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ระยะสั้นนอนมาชัวร์ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ส่วนระยะยาวหลังยุบสภาแล้วมีการเลือกตั้งใหม่ จะถูกจัดวางให้ดำรงตำแหน่งเป็น “นายกรัฐมนตรี” คนต่อไปแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตามเสียงร่ำลือหรือไม่อย่างไรนั้น  แว่วว่าตลอดระยะเวลาแค่ 12 ปีที่ผ่านมาคนของ “ตระกูลชินวัตร” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 3 คน ฉะนั้นคนต่อไปให้ “ดามาพงศ์” เป็นนายกฯ บ้างจะเป็นไรไปจริงไหมครับ “คุณหญิง”? ...๐ ศาลปกครองกลางมีคำสั่ง“ยกคำร้อง” คดีที่ นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระด้านโทรคมนาคม ยื่นฟ้องขอให้คุ้มครองชั่วคราว กรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดประมูลคลื่น 3 จี กสทช.ยืนยันว่าจะดำเนินการประมูลแน่ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ แต่ใช่ว่าจะ “ฉลุย” เพราะต้องลุ้นกันอีกยก เมื่อ “กลุ่มกรีน” ของ นายสุริยะใส  กตะศิลา และพวกรวม 6 คน ได้ฟ้องเพิ่ม โดยขอให้ “ยกเลิกการประมูล” ซึ่งศาลก็ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ออกมา เพียงแต่พิจารณาแค่ว่า “คดีนี้มีเหตุผลสมควรที่จะยังไม่ดำเนินการไต่สวนในวันนี้ (15 ตุลาคม) ..ศาลจะได้มีคำสั่งในภายหลังโดยเร็ว” เท่านั้น ...๐ “คลื่น 3 จี” ถือเป็นทรัพยากรสาธารณะที่คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของ ฉะนั้น ผลประโยชน์มหาศาลที่เกิดจากคลื่น 3 จี ประชาชนทุกคนต้องช่วยกันควบคุมตรวจสอบ การที่มีผู้ไปร้องต่อศาลเพื่อขอให้ระงับการประมูล ด้วยเห็นว่าไม่ชอบมาพากลนั้น ก็ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ คำสั่งศาลจะออกมาทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับ ไม่เห็นจะเป็นการ “ถ่วงความเจริญ” ตามที่มีการด่าทอกันตรงไหน ตรงกันข้าม กลับเป็น “อารยะ” ของประเทศที่เจริญด้วยซ้ำ ที่นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ว่าอะไรๆ ก็จะปลุกม็อบ หรือพอมีคำพิพากษาของศาล ไม่เป็นที่ถูกใจก็ด่าประณาม “สองมาตรฐาน” นี่ต่างหากที่ “ถ่วงความเจริญ” ของประเทศ...๐     กระทรวงพาณิชย์ที่เจ้ากระทรวงชื่อ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ได้กลายเป็น “กระทรวงสายล่อฟ้า” ไปแล้ว โดยเฉพาะโครงการ “รับจำนำข้าว” ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่มีการเปิดเผยสัญญาซื้อขายข้าวต่อสาธารณะ เลยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วการขายข้าวรัฐต่อรัฐ หรือ “จีทูจี” ที่อ้างกันว่าได้ทำสัญญาไว้กับหลายประเทศ เช่น จีน, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, โกตดิวัวร์(ไอวอรีโคสต์), บังกลาเทศ นั้น ตกลงข้อเท็จจริงเป็นประการใดกันแน่!? ...๐ มีประเด็นที่น่าสนใจก็คือ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม คณะรัฐมนตรีมีมติ อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้อาวุธและยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ เป็นสินค้าที่ต้องห้ามการส่งออกไปสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ และกำหนดให้เพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าจาก สาธารณรัฐโกตดิวัวร์ (ไอวอรีโคสต์) ซึ่งเป็นประเทศเดียวกับที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อ้างว่าได้ทำจีทูจีซื้อขายข้าว และล่าสุดได้ส่งมอบข้าวให้ประเทศดังกล่าวแล้ว 300,000 ตัน!?...๐ “บิ๊กเซอร์ไพรส์” จริงๆ สำหรับ “น้องปลื้ม” นายสุรบถ หลีกภัย หรือปลื้ม บุตรชายนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศลั่นระฆังวิวาห์กับ “น้องทับทิม” น.ส.มัลลิกา จงวัฒนา หลังคบหากันระยะหนึ่ง และทำงานเป็นพิธีกรรายการวีอาร์โซร่วมกันประมาณ 2 ปี โดยทั้งสองจะจัดงานแต่งงานขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ และเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน จะจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ งานนี้เห็นว่า “ชวน หลีกภัย” ยิ้มกริ่มเป็นปลื้มไปเลยแฮะ...๐ บันทึกปิดท้ายด้วยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “การแก้ไขการดำรงตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เหลือวาระ 5 ปี” โดยศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ซึ่งสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจากทั่วประเทศ ยกเว้นพื้นที่การปกครองพิเศษ กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา จำนวน 1,255 หน่วยตัวอย่าง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 83.19 เห็นว่า “เป็นผลดี” มากกว่า “ผลเสีย” เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์ ความรู้ และความสามารถเข้ามา รวมทั้งไม่เป็นการผูกขาดกับผู้ที่มีอิทธิพลในการปกครองท้องถิ่น และเป็นการลดการทุจริตคอรัปชั่นได้อีกด้วย...๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น