วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เพื่อไทยเปิดตัวสมาชิกใหม่ 4 เหล่าทัพ-ไล่ปชป.ตามเร่งหา "แม่อรรถวิช" วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 12:17 น. ข่าวสดออนไลน์



เพื่อไทยเปิดตัวสมาชิกใหม่ 4 เหล่าทัพ-ไล่ปชป.ตามเร่งหา "แม่อรรถวิช"

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ต.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 15  ต.ค. เวลา 09.30 น. จะมีการเปิดตัวสมาชิกใหม่ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีข้าราชการทหารและตำรวจ ทั้ง 4 เหล่าทัพ เช่น พล.ร.อ.รุ่งรัตน์ บุณยรัตพันธุ์ อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาติ ทิมสุวรรณ อดีตผอ.ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร พล.อ.สหชาติ พิพิธกุล อดีตเจ้ากรมการแพทย์ทหารบก พล.ต.ท.ธนากร ศิริอัฐ อดีตผู้บัญชาการสันติบาล พล.อ.อ.ธงชัย ธารนพ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. และเตรียมทหารรุ่น 10 ประมาณ 23 คน และคาดว่าจะมาเกือบทั้งรุ่น รวมถึงพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ อดีต ผบ.ตร. ที่จะเดินทางมาสมัครในเวลา 13.30 น.

 นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.เพรียวพันธ์เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกว่า ท่านประสานงานมาเองว่าจะเข้ามาสมัคร ส่วนรายละเอียดก็ไม่ทราบว่ามีใครทาบทามหรือไม่ ท่านมีผลงานทั้งด้านปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรม ผ่านการบริหารงานมาแล้ว และท่านไม่ใช่นักพูดหรือนักตอบโต้ แต่เป็นนักบริหารและนักปฏิบัติ ซึ่งตรงกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่เน้นการบริหารมากกว่าพูด ส่วนตำแหน่งเป็นเรื่องของอนาคต แต่ไม่ว่าจะได้ตำแหน่งใดก็ไม่น่าเกลียด เพราะท่านมีความรู้ความสามารถที่สังคมยอมรับ การได้ท่านมาช่วยงานก็จะทำให้พรรคเพื่อไทยแข็งแกร่งขึ้น

 โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ออกมาให้ข่าวเรื่องที่อัยการสูงสุดมีความเห็นไม่สั่งฟ้องคดีการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในเหตุการ์ณ์ 7 ต.ค. 2551 ซึ่งไม่ได้ฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. โดยนายวิชา มหากุล กรรมการ ป.ป.ช. บอกว่าจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาสภาทนายความและนำคดีฟ้องสู่ศาลฎีกา ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อัยการสูงสุดพิจารณาแล้วว่าไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิด

 โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ทำให้สงสัยว่าแล้วคดีการสลายการชุมนุมของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จนมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งป.ป.ช.ใช้เวลาพิจารณาคดีเกือบ 2 ปีกว่า ทำไมคดียังไม่ถึงไหน และไม่มีผลการไต่สวน เหมือนคดีของนายพัน คำกอง ทั้งที่ศาลอาญามีการไต่สวนทีหลัง ตนเชื่อมั่นในองค์กรอิสระโดยเฉพาะป.ป.ช. ไม่อยากให้ประชาชนและสังคมมองว่าป.ป.ช.เลือกปฏิบัติหรือสองมาตรฐาน จึงขอให้ป.ป.ช.เร่งรัดคดีสลายการชุมนุมด้วย

 นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงการหารือเรื่องการบริหารจัดการน้ำร่วมกับกทม. ว่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า รัฐบาลและกทม.ได้ทำงานร่วมกัน แต่ในส่วนของการตรวจสอบก็จะดำเนินการต่อไป เพราะกรณีที่กทม.อ้างเรื่องเทคนิคการเอาถุงทรายไปอุดท่อระบายน้ำ เป็นการอ้างที่น่าจะใช้คำว่าหลอกเด็ก ซึ่งไม่ได้พบแค่ถ.ศรีนครรินทร์ แยกรามคำแหง หรือลำสาลี แต่ยังมีการร้องเรียนจากตลิ่งชันด้วย บางแห่งพบว่าไม่มีการลอกท่อทำให้น้ำยังท่วมขัง นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เราจะดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 4 เรื่อง ประกอบด้วย 1.เรื่องอุโมงยักษ์ทั้ง 7 ว่าใช้ได้ผลจริงตามที่อวดอ้าง และมีการตรวจรับงานถูกต้องหรือไม่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า น่าจะใช้ได้ร้อยละห้าสิบเท่านั้น บางแห่งก็เสีย เช่น อุโมงค์พระขโนง  2.งบขุดลอกคูคลอง 61 ล้าน 30 คลอง น่าจะมีการทุจริต รวมถึงการลอกท่อระบายน้ำและระบบระบายน้ำทั้งกทม.และฝั่งธนรวม 50  เขต ซึ่งประชาชนย่านบางเขนร้องเรียนเข้ามาว่า น่าจะมีการลอกท่อแบบซอยเว้นซอย เพราะพบว่ามีการจ้างกรมราชทัณฑ์มาลอกท่อประมาณ 30-40 ซอยเท่านั้น

 นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายสกลธี ภัทธิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวหาว่า หากพรรคเพื่อไทยตรวจสอบงบลอกท่อระวังจะเจอตอพวกเดียวกันเอง แม้จะเป็นพวกเดียวกันเอง ถ้าผิดจริงตนก็จะตรวจสอบ อยากท้านายสกลธีรวมทั้งผู้บริหารกทม. ถ้ามีหลักฐานว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุจริต ทำไมไม่ตรวจสอบ หรือว่ารู้แล้วละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แล้วถ้ากทม.ไม่เอากระสอบทรายออกภายใน 7 วัน ตนจะยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.สอบละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 

 โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีพรรคประชาธิปัตย์จัดแรลลี่ตามหาชายชุดดำว่า เป็นเรื่องสิ้นคิดและไร้สาระ การเคลื่อนขบวนในวันนั้นก็ทำให้ประชาชนที่สัญจรไปมาเดือดร้อน ถือว่ากระทำลุแก่อำนาจ ไม่เคารพประชาชน และไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม อยากจะถามไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า ในตอนที่เป็นรัฐบาล 2 ปี 8 เดือน และมีอำนาจอยู่ในมือ ทำไมหาไม่เจอ ตนคิดว่าทำเพื่อช่วยนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เพื่อให้รอดพ้นจากกระบวนการยุติธรรมมากกว่า

 "พรรคประชาธิปัตย์ควรจะเอาเวลาไปตามหาแม่นายอรรถวิช สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ คดีธนาคารมหานคร มูลค่าความเสียหายกว่า 4,100 ล้านบาท และยังคงหลบหนีหมายจับของศาลมากว่า 14 ปีวันที่ 30 ต.ค. คดีจะขาดอายุความ ความเสียหายครั้งนั้น ทำให้ธนาคารล่มและต้องมารวมกับธนาคารกรุงไทย นายอภิสิทธิ์เรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา แล้วทำไมไม่เรียกคนของตัวเองกลับมา ทั้งที่เป็นเงินฝากของประชาชน และต้องเอาภาษีประชาชนมาอุ้มธนาคารที่ล่มไป" โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว

 นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ส่วนที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ทราบจากข้อมูลขององค์กรภาคเอกชน ว่ามีการไซฟ่อนเงิน 1.6 หมิ่นล้าน แล้วเรียกร้องให้นายกฯตรวจสอบ ตนคิดว่าเป็นการสร้างข่าวขึ้นมาเพื่อลดความน่าเชื่อถือ หากมีจริงก็ควรหาหลักฐานมาเปิดอภิปรายหรือตั้งกระทู้ถามในสภาก็ได้ เรื่องการทุจริตจำนำข้าว ซึ่งพบว่ามีการทุจริตจริงก็ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ไปกว่า 25 คดีแล้ว

 นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงนายอภิสิทธิ์และนายองอาจ ออกมาโจมตีเรื่องการระบายข้าว กล่าวหาว่ารัฐบาลเล่นกลขายข้าว ทำให้ประเทศชาติเสียหาย อยากเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ อย่าเอามาเป็นเกมการเมือง ผลโพลทุกสำนักก็สนับสนุนให้รัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายนี้ เพราะชาวนาได้ประโยชน์ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นใจประชาชนที่เดือดร้อนบ้างหรือ ถ้ามีข้อมูลว่าทำใหาติเสียหาย ก็ควรหาหลักฐานมาแฉในสภาก็ได้ การทำเช่นนี้จะส่งผลให้นานาชาติไม่เชื่อมั่นประเทศไทย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น