วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ปรับครม."ปู3" จัดกระบวนทัพ ตามสไตล์"ยิ่งลักษณ์" วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10:50:31 น.




ปรับครม."ปู3" จัดกระบวนทัพ ตามสไตล์"ยิ่งลักษณ์"

วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10:50:31 น.

คอลัมน์ การเมือง มติชน 23 ตุลาคม 2555

กระแสปรับ ครม.กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ในแวดวงรัฐบาล มีการส่งสัญญาณเตือนให้เตรียมพร้อม

แต่ไม่ว่าใครจะพร้อมอย่างไร

สุดท้าย นักข่าวก็ต้องไปจ่อไมโครโฟน ถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

หากคำตอบยังไม่เปลี่ยนไปจาก "ยังไม่ได้คิด ทำงานก่อนค่ะ"

ก็ต้องเปิดเพลง "รอ" กันต่อไป


ถามว่าการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องจำเป็นหรือไม่

มองจากมุมของ "บ้านเลขที่ 111" คำตอบ ณ เวลานี้ ย่อมระมัดระวังเป็นพิเศษว่า "จำเป็น"

ถามว่าพร้อมหรือไม่ คงยิ่งกว่าพร้อม เพราะ 5 ปีที่เว้นวรรค บวกกับอีก 5 เดือน นับจากพ้นโทษเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม เป็นเวลาของการสั่งสมอันยาวนาน

รอเวลาสำแดงออกของคุณภาพที่ผ่านการ "บ่ม" อย่างเข้มข้น

หลังจากที่ให้ "ตัวสำรอง" ทำหน้าที่มาระยะหนึ่ง

ในสายตาของนักบริหาร หากถามว่า การปรับ ครม.จำเป็นหรือไม่

คำตอบมีได้ร้อยแปดพันเก้าประการ

รวมถึงคำว่า refresh

เพื่อสร้างความสดใหม่ให้กับการทำงาน หลังจากเดินทางผ่าน 1 ปีเศษที่ตึงเครียดและเต็มไปด้วยปัญหา

แต่ถ้าถามบรรดารัฐมนตรี หรือ "ไลน์อัพ" ของ ครม.ปัจจุบัน ทุกคนย่อมพยักพเยิดให้ไปถามนายกฯยิ่งลักษณ์



สถานการณ์เร่งรัดให้มีการปรับ ส่วนหนึ่งมาจากการลาออกจาก มท. 1 และรองนายกฯ ของ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ

ส่งผลให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ต้องรับเอางานกำกับดูแล ของอดีตรองนายกฯยงยุทธ ไปเป็นภาระ

เป็นภาระที่ผู้แบกรับคึกคักและเต็มใจ

ส่วน นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ รมช. มหาดไทย หรือ "มท.2" ก็ทำหน้าที่ รักษาการ "มท.1"

แต่เมื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เกษียณอายุราชการจาก ผบ.สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ และตัดสินใจสวมเสื้อทีมแห่งพรรคเพื่อไทย

แน่นอนว่า ส่วนหนึ่ง ด้วยแรงดันจากบ้านจันทร์ส่องหล้า

และเมื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เปิดปากเผยว่า พร้อมจะดูแลงานด้านการปราบปรามยาเสพติด

สปอตไลต์ก็ฉายจับไปที่ เก้าอี้รองนายกฯ หรือ รมว.มหาดไทย ทันที

เป็นอีกแรงกดดันให้เกิดการปรับปรุงคณะรัฐมนตรี



จะอย่างไร การปรับ ครม.ก็จะต้องเกิด ขึ้น

จะช้าจะเร็ว เป็นปัญหาเรื่องจังหวะก้าว หรือจังหวะเวลา

ส่วนเหตุผล มีความตกผลึกในระดับที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนเปลงได้

เพราะใน ครม.เอง แม้การกอดคอทำงาน 1 ปีเศษ ได้ทำให้เกิดความผูกพัน จนเกิดแนวโน้มปฏิเสธการปรับเปลี่ยน

รัฐมนตรีบางคนแจ้งเกิด เป็นมือบริหารรุ่นใหม่ ถึงขนาดเตรียมขยายบทบาท วางตัวให้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สำคัญยิ่งขึ้น

บางคนปรับตัวจากรัฐมนตรีโลกลืม กลายเป็นมือทำงานที่มีจุดเด่น

แต่ 1 ปีเศษ ก็ทำให้เห็นได้เช่นเดียวกันว่า ใครที่ทำงานไม่ได้ หรือไม่มุ่งมั่นในการทำงาน เพียงแต่มาโหนมาเกาะเอาไว้

ถึงเวลาต้อง "ปัดกวาด" กันครั้งใหญ่

นั่นคือ เหตุผลหลักในการปรับ "ปู 3" ที่ลงตัวอยู่ลึกๆ มาระยะหนึ่ง



ส่วนจังหวะเวลาในการปรับ ครม.เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ท่ามกลางเสียงโจมตีด้วยข้อหาร้ายแรงที่สรรหามาเป็นการเฉพาะ ที่แม้นายกฯผู้ชายก็ยังไม่เคยเจอ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ตอบโต้ในแบบฉบับ ของตัวเอง

สุดท้ายกลายเป็นว่า ฝ่ายตรงข้าม กำลัง "ติดหล่ม" ตัวเอง 
การปรับ ครม.ที่จะเกิดขึ้น นอกจากสร้างทีม ครม.จาก "ตัวเลือก" ที่มากขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ เพื่ออยู่ยาว ไม่ต้องปรับเปลี่ยนกันบ่อยๆ อีก

ยังจะเป็นการปรับที่มีนัยยะตอบโต้ข้อกล่าวหา และยืนยันความเป็น "ผู้นำ" ของนายกฯ

ทั้งภายในและภายนอกพรรค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น