วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

"กลัว" ในสถานการณ์ตุลาร้อน เปลว สีเงิน 23 October 2555 - 00:00




"กลัว" ในสถานการณ์ตุลาร้อน

  วันนี้-เป็นวัน "ปิยมหาราช" คือย้อนกลับไปเมื่อ ๑๐๒ ปีที่ล่วงมาแล้ว ณ วันที่ ๒๓  ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๕๓ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่ ๕ ได้เสด็จสวรรคต ด้วยพระชนมพรรษา ๕๘ พรรษา หลังครองสิริราชสมบัติมา ๔๒ ปี พระองค์ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวสยาม การสวรรคตนั้นสร้างความโทมนัสแห่งจิตให้ท่วมท้นแผ่นดิน ทวยราษฎร์จึงพร้อมใจแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ถวายพระนามว่า "พระปิยมหาราช" เป็นรำลึก และกำหนดให้ทุกวันที่ ๒๓ ตุลาคม เป็นวันปิยมหาราช
    พูดถึงการ "ปฏิรูปประเทศ" คือปรับเปลี่ยนจากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งหนึ่งที่ดีกว่า ดังที่พูด-ดังที่ปรารถนากันปัจจุบันนี้ ผมขอให้ดูและศึกษา "กรอบความคิด" ตลอดถึงรูปแบบและวิธีการนำไปสู่เป้าหมายนั้น จากรัชสมัย "สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า"
    นั่นคือการปฏิรูป เพื่ออนาคต-เพื่อประชาชน-เพื่อสถาบันชาติ โดยแท้!
    สำหรับผม ก็คงเหมือนทุกปี คือถวายสักการะพระบรมรูปที่มีอยู่กับบ้านแล้ว จากนั้น ก็ตามเรื่อง-ตามราว ส่วนใหญ่ไม่ได้ไปไหน ถึงเป็นวันหยุดราชการ แต่งานหนังสือพิมพ์รายวัน ไม่มีทั้งวันหยุดหลวง-วันหยุดราษฎร์ ก็หลังขดหลังแข็ง เครียดบ้าง เคร่งบ้าง เส็งเคร็งบ้าง อยู่กับที่ทำงานนั่นแหละ
    ยุคก่อน คือยุคที่แผ่นดิน และดิน-ฟ้า-อากาศ ถูกต้องตามฤดูกาล วันพระบรมรูปฯ คือวัน "เริ่มบรรยากาศใหม่" อากาศหนาวโชยชาย น้ำนองปริ่มตลิ่ง ปริ่มลำคลอง เป็นสัญญาณเตือนว่า  วันออกพรรษา วันงานภูเขาทอง วันงานพระเจดีย์กลางน้ำ วันงานพระปฐมเจดีย์ และวันลอยกระทง กระชั้นเข้ามาตามลำดับแล้ว
    แถวๆ ชายขอบลานพระบรมรูปทรงม้าวันนี้ บางครั้ง-บางปี บางแห่ง จะมีน้ำเอ่อนองขึ้นมาให้สาวๆ ที่นุ่งกระโปรงบานสุ่มไก่ เสื้อแขนกุ๊น หรือแขนกุด บ้างสวมทับด้วยเสื้อกันหนาวอวดประชันสี กระโดดข้ามด้วยจริตบรรเจิด เร้าความตื่นใจน้อยๆ ระคนหัวเราะประสานเสนาะเสียง
    อ้อยคั่ว-ถั่วควั่น-ชิงช้าสวรรค์-มอไซค์ไต่ถัง เงาะป่า...เร่เข้ามา...เร่เข้ามา คนละ ๕๐ สตางค์  ดูมหัศจรรย์ "กา-ขาว-ลิง-ไข่" เสียงโหวกเหวกตะโกนแข่งลูกโป่งสวรรค์ลอยไสว เหล่านี้เป็นบรรยากาศมหาสนุกบนสวรรค์เมืองไทย มีให้เที่ยว มีให้ดู มีให้หลอกสตางค์กันขำๆ ได้ร่ำไป
    แต่สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ เลือนหายไปกับคำว่า "อดีต" เกือบหมดแล้ว!
    มีน้อยหน่า-อาร์พีจี-ปาไข่-เทเลือด-มือตบ-ตีนตบ-แดงแท้-แดงเทียม-ฆ่ามัน-เผามัน-กระทืบมัน-วิดีโอลิงค์-โฟนอิน และมหัศจรรย์ "เผาเมือง-ปล้นบ้าน ได้คนละ ๗.๕ ล้าน เป็นรางวัล" เข้ามาแทนที่!
    ก็ไม่ทราบว่ามีท่านไหนรู้สึกเหมือนผมบ้าง คือวัน-สองวันนี้ นอกจาก "หนาวไม่มา" แล้ว ยังแดดแผดเผาร้อนฉ่าตั้งแต่เช้าจรดเย็น คือมันร้อนอบอ้าวผิดปกติ ร้อนจนแอร์สองพันปีในห้องผม "เอาไม่อยู่" ถามพวกแม่บ้านที่อึดแดด-อึดงานกว่าผม เขาก็บอกว่า
    อบอ้าวจนอยากแก้ผ้าประชัน!
    นอกจากร้อนผิดสังเกตแล้ว เขายังบอกด้วยว่า เดี๋ยวนี้ ไม่รู้มดดำๆ ตัวใหญ่ด้วย มาจากไหนก็ไม่รู้ ไต่กันขวักไขว่-คึกคักเหมือนทหารตั้งแถวจับศึก ผมก็บอกไปว่า มดมันคือ "เจ้ากรมอุตุฯ" แห่งจักรวาล การที่ออกมาสวนสนาม เพ่นพ่านผิดปกติอย่างนี้
    แสดงว่า น้ำป่าหลาก ฝนตกหนัก แผ่นดินไหว พายุคลั่ง ทะเลครืนครั่น "อย่างใด-อย่างหนึ่ง" อันเกี่ยวกับความไม่ปกติของน้ำ ของลม ของฝน ของดิน (ของคนด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ)  อาจจะเกิดในระยะอันใกล้นี้!
    นี่เพียงถอดรหัสจาก "จับสังเกต" ผ่านมด สู่ "ดิน-ฟ้า-อากาศ" ใครก็อย่าทึกทักจังจริงอะไร  แต่ตุลา "ร้อนรุ่ม" จากอากาศเร่าร้อนน่ะจริง ดูเมื่อวานนี้ (๒๒ ต.ค.๕๕) ผบ.ทบ. "พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา" ท่านให้สัมภาษณ์นักข่าวด้วยอารมณ์โกรธ ถึงขั้นเกรี้ยวกราด หน้าตาถมึงทึง
    จะถมึงทึงแข่ง "นายจตุพร" ที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวก่อนเข้าให้ปากคำ DSI หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ คือนายจตุพรไม่เกรงไม่กลัวตำรวจ-ทหาร กล่าวหากันโต้งๆ เลยว่า
     ".......จะเสนอให้ DSI ขอภาพกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพรถที่เข้าออกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่ตั้งอยู่ในกรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ เนื่องจากมีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า มีการบรรทุกบุคคลที่แต่งกายด้วย "เสื้อผ้าสีดำ" อยู่ในรถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าออก......."    
    แต่ ผบ.ทบ.ท่านไม่ได้ "ตบะแตก" ด้วยเรื่องนี้ การเกรี้ยวกราดออกโทรทัศน์จนชาวบ้านแปลกใจระคนตกใจเมื่อวาน น่าจะมาจากเรื่องนี้มากกว่า เรื่องไหนก็อ่านจากข่าวที่ผมยกมาไปเรื่อยๆ แล้วกัน
    ".........วันนี้ ผมได้แต่ร้องขอให้ทุกส่วนราชการทั้ง ๑๗ กระทรวง ๖๖ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันลงไปในพื้นที่ (๓ จว.ใต้) จากนี้ไป ผมจะสรุปผลงานความก้าวหน้าในการทำงานของทุกกระทรวงในทุก ๓ เดือน จะต้องมีผลงานปรากฏออกมา เพราะมีงบประมาณด้วยกันทั้งสิ้น
    ถ้าให้ทหารใช้แต่กำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ทำได้เพียงแค่บังคับใช้กฎหมาย และความเข้าใจก็ไม่เกิด หรือเกิดก็ไม่ครบ ๑๐๐% ผมอ่านแทบลอยด์บางฉบับก็รู้สึกเสียใจ สิ่งที่ผมทำ ผมคิด ไม่มีใครเข้าใจ รวมถึงสิ่งที่รัฐบาลทำ ก็ไม่มีคนเข้าใจ
    ยังมีคนมองในแง่มุมที่ทำให้เกิดความเสียหาย แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้ผล คือการสร้างความเข้าใจ ไม่ว่าจะสื่อมวลชน สำหรับในส่วนของต่างประเทศ ต้องยอมรับว่าดีขึ้น เพราะเราได้ส่งข่าวไปยัง OIC ตลอด ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ทุกประเทศไม่ได้มีปัญหา จะมีก็แต่ประเทศของเราเอง ที่ยังไม่เข้าใจหลายเรื่อง เช่น การใช้กำลังทหาร”
    ท่านโกรธและออกอาการเกรี้ยวกราด เหตุหลักจากสื่อ ท่านระบุว่า "อ่านแทบลอยด์บางฉบับรู้สึกเสียใจ" และว่าต่างประเทศเข้าใจหมด มีแต่คนในประเทศด้วยกันนี่แหละที่ไม่เข้าใจสิ่งที่ทหารและรัฐบาลทำ เกี่ยวกับปัญหา ๓ จว.ใต้
    ผมคาดว่า แทบลอยด์ที่ท่านพูดถึง คงเป็นแทบลอยด์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ ๒๑ ตุลา ที่ทางกอง บ.ก.เขานำเสนอเรื่องปัญหาภาคใต้นั่นกระมัง ที่ "ทำให้ท่านเสียใจ" และใช้สำเนียงดุดัน ต่อคำถามย้ำของนักข่าว เรื่องกวดขันการลงไปทำหน้าที่ในพื้นที่ของ ๑๗ กระทรวง ๖๖  หน่วยงาน ซึ่งพลเอกประยุทธ์ขึงขังว่า
    "........ผมไม่ได้ว่าเขา และไม่ได้บอกว่าทุกคนจะต้องลงไปช่วยกันทำงาน ไม่ได้หมายความว่าทำหรือไม่ได้ทำ แต่ผมบอกว่า เขาทำอยู่แล้ว เพียงแต่บางจุดอาจจะน้อยไป หรือบางจุดจะต้องเพิ่มการทำงาน ซึ่งผมก็ขอร้องกันแค่นั้น ด้วยกลไกของ กอ.รมน.และรัฐบาล อย่าไปตำหนิคนนั้นคนนี้ เพราะไม่ได้อะไรขึ้นมา เขาจะมาเกลียดขี้หน้าผม ผมเอาความดีความชอบอยู่คนเดียวและด่าเขา ดังนั้น อย่าไปเขียนกันแบบนี้ มันไม่ได้ประโยชน์อะไร
    ทั้งนี้หน่วยงานได้มีการประเมินผลการทำงานของ ๑๗ กระทรวง ๖๖ หน่วยงาน ทั้งนี้ กองทัพบกได้งบประมาณเบี้ยเลี้ยงกำลังพล และงบประมาณซื้อเครื่องมือเสี้ยวหนึ่ง อย่ามาบอกว่าทหารนำหน้า และได้งบประมาณ รัฐบาลเกรงใจให้งบประมาณ อย่ามาพูดส่งเดช ไปตรวจสอบดูได้
    ให้ไปถาม ปปง. อย่าได้ว่าทหารใช้งบประมาณเป็นแสนกว่าล้าน ไม่รู้อย่ามาพูด เดี๋ยวผมจะเชิญคอลัมนิสต์ สื่อมวลชน นักวิชาการ ที่แสดงความเห็นในหนังสือพิมพ์ เก่งนัก ก็ต้องมาแล้วกัน พวกนี้เก่งกันทุกเรื่อง ภาคใต้ก็เก่ง กัมพูชาก็เก่ง ก็มาเป็น ผบ.ทบ.ก็แล้วกัน หรือเป็นนายกรัฐมนตรี อย่าดีแต่เขียนหนังสือ เคยทำอะไรบ้างหรือไม่ เขียนแล้วไม่เคยทำอย่ามาวิเคราะห์
    ผมให้เกียรติท่านเสมอ แต่ถ้าเขียนและทำลายกัน ผมก็รับท่านไม่ได้ คนดีๆ มีเยอะแยะ  ผมเป็นคน และเป็นผู้ปฏิบัติ ไม่ใช่นักวิชาการ ดังนั้นหลายๆ อย่างจะต้องเสริมการปฏิบัติให้ได้  ผมไม่ได้ว่าอะไร แต่มีบางคนเท่านั้น ต่อต้านการทำงานของกองทัพ รักแต่ตัวเอง ไม่ได้รักชาติ”
    ก็เห็นใจ ด้วยเข้าใจ "ภาระบนบ่า" ที่ท่านแบกไว้ในอก ต่อกรณีปัญหา ๓ จังหวัดใต้ จนทำให้ท่านดูเหมือนโกรธและเกรี้ยวกราดเอากับสื่อ กับนักวิชาการ ถึงขั้นทำให้ท่านหลุดคำถึงสื่อ ถึงนักวิชาการว่า "รักแต่ตัวเอง ไม่ได้รักชาติ"
    กับจตุพร กับเสื้อดำ-เสื้อแดง พวกฆ่าทหาร สาดสีใส่ทหาร เผาบ้าน-เผาเมือง ท่านสุขุม-นุ่มลึกตอบสนองมาตลอด "ด้วยรับได้" อย่างนั้นหรือ?
    แต่กับพวกสื่อ พวกนักวิชาการที่พูดเรื่องภาคใต้ ท่านโกรธ "ด้วยรับไม่ได้" ถึงขั้นระบุว่า "รักแต่ตัวเอง ไม่ได้รักชาติ" ขนาดนั้นเชียวหรือ?
    บอกตรงๆ ที่ผมพูดถึงท่านวันนี้ ก็ด้วยเหตุผลเดียวคือ
    "กลัวท่าน" ครับ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น