วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

"ลี กวน ยิว"ออกโรง เตือนไทย-วิพากษ์พม่า วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11:30:36 น.




"ลี กวน ยิว"ออกโรง เตือนไทย-วิพากษ์พม่า

วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11:30:36 น.

เมืองไทย 25 น.  โดย ทวี มีเงิน  ข่าวสด 23 ตุลาคม 2555

นานๆ สิงห์เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่มหาอมตะนิรันดร์กาลอย่าง "ลี กวน ยิว" อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์จะให้สัมภาษณ์สื่อ มวลชน ที่สำคัญพูดถึงเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกันมานานอย่าง "ไทย" กับ "พม่า" ประเทศที่กำลังเนื้อหอมสุดๆ จึงน่าสนใจอย่างยิ่งว่าเขาจะพูดถึงอย่างไร คำพูดทั้งหลายทั้งปวงถ่ายทอดผ่าน "ฟอร์บส์" นิตยสารชื่อดังที่คนไทยรู้จักกันดี



"ลี กวน ยิว " ได้แสดงความเห็นต่อระบบเศรษฐกิจ "แบบตลาดเสรี" และระบบเศรษฐกิจ "แบบสังคมนิยม" โดยยกตัวอย่างกรณี "ไทย" และ "พม่า" ยิ่งน่าสนใจว่าทำไมต้องเป็นไทยกับพม่า แต่เมื่อติดตามดูจะเห็นว่าทั้งสองประเทศนี้มี "ความเหมือน" และ "ความต่าง" อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว

อดีตนายกฯสิงคโปร์ระบุว่า ระหว่างไทยกับพม่าพื้นที่และประชากรใกล้เคียงกัน รวมทั้งในช่วงทศวรรษที่ 60 ทั้งสองประเทศยังมี ขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกันด้วย จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 1962 เมื่อพม่าก้าวสู่การปกครองระบอบทหาร ซึ่งดำเนินระบบเศรษฐกิจแบบปิดกั้นตัวเองรวมทั้งขับไล่ชาวอินเดียที่เข้ามาบุกเบิกอุตสาหกรรม ค้าปลีกก่อนหน้านั้นหลายทศวรรษ 



แต่ในทางตรงข้าม บรรดาผู้นำไทยเลือกที่จะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี เปิดรับจากการลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก และต้อนรับผู้อพยพชาวจีนเข้ามาในประเทศ จนส่งผลให้ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียนโยบาย ปิดกั้นตัวเองของพม่าทำให้รายได้ประชาชาติต่อหัวในพม่าอยู่ที่ 1,950 เหรียญสหรัฐต่อปีเท่านั้น ขณะที่ไทยอยู่ที่ 8,516 เหรียญสหรัฐต่อปี 

อย่างไรก็ตาม อดีตผู้นำสิงคโปร์ออกโรงเตือนว่า แม้ไทยเปลี่ยนระบบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยในห้วงเวลาที่ผ่านมากองทัพก็ได้ก่อการรัฐประหารทุกครั้งที่เห็นว่ารัฐบาลขาดประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ 80 ปีที่ผ่านมา กองทัพมีความพยายามรัฐประหาร 18 ครั้งโดยล้มเหลว 7 ครั้ง



การแทรกแซงของกองทัพนำไปสู่ความไม่แน่นอนทางการเมืองและฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างหนัก ดังนั้นทั้งไทยและพม่าควรตระหนักดีว่า ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากนโยบายด้านการค้าและลงทุนที่เสรี ในทางกลับกันนโยบายที่ปิดกั้นตัวเอง คือ สาเหตุทำให้พม่าล้าหลังกว่า 50 ปี 



ต้องบอกว่า มุมมองของสิงห์เฒ่า ทั้งลึก ทั้งคม ไม่เคยทิ้ง ลายเดิมจริงๆ

พม่ากำลังสังคายนาประเทศครั้งใหญ่เตรียมเปิดประตู สู่โลกภายนอก แต่ไทยยิ่งนับวันยังพายเรืออยู่ในอ่างไปไม่ถึงไหนซักที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น