ระบายแรงกดดันก่อน
อภิสิทธิ์
เนียนเป็นธรรมชาติเลยก็แล้วกัน
ตามฉากที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรีดมือร่ายรำตามคณะมโนราห์ที่จัดมาต้อนรับคณะ ขณะลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างความประทับใจให้คณะผู้แสดงมโนราห์ และประชาชนที่รายล้อมอยู่รอบๆ ชื่นชอบในความน่ารักของนายกฯ หญิง ที่ไม่หยิ่ง ไม่วางฟอร์มกับใคร
ต่อให้ “หมั่นไส้” ยังไง ก็ลืมอารมณ์นั้นไปชั่วคราว
และก็เป็นอะไรที่น่าจะขัดหู ขัดใจเจ้าถิ่นยี่ห้อประชาธิปัตย์ กับคิวที่พระครูพิพัฒน์ ธรรมานุศาสก์ กับพระครูชลธรรมวงศ์ 2 พระเกจิดังของเมืองคอนทำนายทายทักว่า
“ยิ่งลักษณ์” จะเป็นนายกฯ ลากยาว 3 สมัย
ขนาดผ่านไปแค่ปีเดียว ยังเครียดกันเต็มที
จากละอ่อนผู้ไม่ประสีประสา ใช้เวลาแค่ 49 วัน ขึ้นสู่เก้าอี้นายกฯ นอมินีของพี่ชาย วันนี้ “ยิ่งลักษณ์” ยิ่งอยู่นานยิ่งติดลมบน เล่นได้ตามบท
“นางเอก” ที่คนดูได้เห็นก็ “ยิ่งรัก”
ตรงกันข้ามกับอารมณ์ล่าสุดที่ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศบนเวทีปาฐกถา “อนาคตประเทศไทย 10 ปี
ถัดไปที่คุณอยากเห็น” ตอนหนึ่งพูดกันเป็นนัยฝันว่า
อีก 10 ปีจะไม่อยู่ในการเมืองแล้ว เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ต่อ
แต่ก็ยังติดติ่งกั๊กไว้ ถ้าถึงวันนั้นสิ่งที่ตนเองฝันยังไม่เกิดขึ้น ก็คงโทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเอง
เบื้องต้นจับอาการได้ แค่เหลี่ยมระบายแรงกดดัน
ในสถานการณ์ภายในของพรรคประชาธิปัตย์ที่สังเกตเห็นได้จากภายนอก ในยุค “อภิสิทธิ์” กุมบังเหียนสถาบันการเมืองเก่าแก่สุดในประเทศไทย
มีแต่เด็กๆใน “แก๊งไอติม” ทีมหน้าเดิมๆ อย่างนายอภิสิทธิ์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา “เดอะคึก” นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช
“เจ๊โอ๋” น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม “หนูติ่ง” น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรค ที่ออกมาเปิดปฏิบัติการ “มวยวัด” ฟัดกับทีมโทรโข่งของพรรคเพื่อไทย
กัปตันทีมอย่าง “อภิสิทธิ์” ลดเพดานบินลงไปซดกับ “เด็กเมื่อวานซืน” อย่าง “หนุ่มโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซัดกันในเฟซบุ๊ก
กระโดดลงเวทีมาตรฐานไปเปรียบมวยกับมวยระดับ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย
เดินหน้าฟัดดะ ไม่สนว่ามวยวัด มวยคนละรุ่น
โดยไม่ต้องเน้นเชิงชก ไม่สนลีลา ตามภาพที่ปรากฏสู่สายตามหาชน คนประชาธิปัตย์กรูกันเข้าล้อมกรอบฉุดกระชากลากประธานสภาฯ ลงจากบัลลังก์ ลากเก้าอี้ ขว้างปาแฟ้มใส่หน้าประธานสภาฯ
กระแสตีกลับ
เสียงทักมาตรฐานการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านดังกระหึ่ม
ในสถานการณ์ที่มวยรุ่นใหญ่ของค่ายประชาธิปัตย์พากันหลบต่ำหมด เหมือนจะเขินกับผลงานของเด็กรุ่นใหม่ที่เล่นกันสนุกสนาน
เอาตำนานของพรรคประชาธิปัตย์ไปละเลง
โดยไม่เห็นหัวผู้อาวุโส ไม่สนที่จะขอคำแนะนำจากพวกรุ่นใหญ่ในพรรค
ตามอารมณ์ที่ปรมาจารย์เก๋าสุด อย่างนายชวน หลีกภัย ประธานสภากุนซือพรรค ก็หันไปมีความสุขกับมุมส่วนตัว
ออกแบบการ์ดแต่งงานให้ลูกชาย ปลื้มอกปลื้มใจกับ “หนุ่มปลื้ม” นายสุรบถ หลีกภัย ที่จะได้เป็นฝั่งเป็นฝา ตามประสาของพ่อในวัยชราที่อยากเลี้ยงหลานเต็มที
ไม่มี “ชวน” คุมหางเสือ “อภิสิทธิ์” ก็ยิ่งเสี่ยงออกทะเล
ระดับความมั่นใจของลูกข่ายพรรคประชาธิปัตย์ต่อ
กัปตันทีม ก็ยิ่งลดน้อยถอยลงไป สวนทางกับระดับเสียงเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนผู้นำ ถึงเวลาต้องยกเครื่องใหญ่
ไม่อย่างนั้นไม่มีทางตามทันพรรคเพื่อไทย
นับวันยิ่งถูก “ยิ่งลักษณ์”ลอยลำทิ้งห่างออกไปทุกที.
เนียนเป็นธรรมชาติเลยก็แล้วกัน
ตามฉากที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรีดมือร่ายรำตามคณะมโนราห์ที่จัดมาต้อนรับคณะ ขณะลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างความประทับใจให้คณะผู้แสดงมโนราห์ และประชาชนที่รายล้อมอยู่รอบๆ ชื่นชอบในความน่ารักของนายกฯ หญิง ที่ไม่หยิ่ง ไม่วางฟอร์มกับใคร
ต่อให้ “หมั่นไส้” ยังไง ก็ลืมอารมณ์นั้นไปชั่วคราว
และก็เป็นอะไรที่น่าจะขัดหู ขัดใจเจ้าถิ่นยี่ห้อประชาธิปัตย์ กับคิวที่พระครูพิพัฒน์ ธรรมานุศาสก์ กับพระครูชลธรรมวงศ์ 2 พระเกจิดังของเมืองคอนทำนายทายทักว่า
“ยิ่งลักษณ์” จะเป็นนายกฯ ลากยาว 3 สมัย
ขนาดผ่านไปแค่ปีเดียว ยังเครียดกันเต็มที
จากละอ่อนผู้ไม่ประสีประสา ใช้เวลาแค่ 49 วัน ขึ้นสู่เก้าอี้นายกฯ นอมินีของพี่ชาย วันนี้ “ยิ่งลักษณ์” ยิ่งอยู่นานยิ่งติดลมบน เล่นได้ตามบท
“นางเอก” ที่คนดูได้เห็นก็ “ยิ่งรัก”
ตรงกันข้ามกับอารมณ์ล่าสุดที่ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศบนเวทีปาฐกถา “อนาคตประเทศไทย 10 ปี
ถัดไปที่คุณอยากเห็น” ตอนหนึ่งพูดกันเป็นนัยฝันว่า
อีก 10 ปีจะไม่อยู่ในการเมืองแล้ว เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ต่อ
แต่ก็ยังติดติ่งกั๊กไว้ ถ้าถึงวันนั้นสิ่งที่ตนเองฝันยังไม่เกิดขึ้น ก็คงโทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเอง
เบื้องต้นจับอาการได้ แค่เหลี่ยมระบายแรงกดดัน
ในสถานการณ์ภายในของพรรคประชาธิปัตย์ที่สังเกตเห็นได้จากภายนอก ในยุค “อภิสิทธิ์” กุมบังเหียนสถาบันการเมืองเก่าแก่สุดในประเทศไทย
มีแต่เด็กๆใน “แก๊งไอติม” ทีมหน้าเดิมๆ อย่างนายอภิสิทธิ์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา “เดอะคึก” นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช
“เจ๊โอ๋” น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม “หนูติ่ง” น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรค ที่ออกมาเปิดปฏิบัติการ “มวยวัด” ฟัดกับทีมโทรโข่งของพรรคเพื่อไทย
กัปตันทีมอย่าง “อภิสิทธิ์” ลดเพดานบินลงไปซดกับ “เด็กเมื่อวานซืน” อย่าง “หนุ่มโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซัดกันในเฟซบุ๊ก
กระโดดลงเวทีมาตรฐานไปเปรียบมวยกับมวยระดับ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย
เดินหน้าฟัดดะ ไม่สนว่ามวยวัด มวยคนละรุ่น
โดยไม่ต้องเน้นเชิงชก ไม่สนลีลา ตามภาพที่ปรากฏสู่สายตามหาชน คนประชาธิปัตย์กรูกันเข้าล้อมกรอบฉุดกระชากลากประธานสภาฯ ลงจากบัลลังก์ ลากเก้าอี้ ขว้างปาแฟ้มใส่หน้าประธานสภาฯ
กระแสตีกลับ
เสียงทักมาตรฐานการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านดังกระหึ่ม
ในสถานการณ์ที่มวยรุ่นใหญ่ของค่ายประชาธิปัตย์พากันหลบต่ำหมด เหมือนจะเขินกับผลงานของเด็กรุ่นใหม่ที่เล่นกันสนุกสนาน
เอาตำนานของพรรคประชาธิปัตย์ไปละเลง
โดยไม่เห็นหัวผู้อาวุโส ไม่สนที่จะขอคำแนะนำจากพวกรุ่นใหญ่ในพรรค
ตามอารมณ์ที่ปรมาจารย์เก๋าสุด อย่างนายชวน หลีกภัย ประธานสภากุนซือพรรค ก็หันไปมีความสุขกับมุมส่วนตัว
ออกแบบการ์ดแต่งงานให้ลูกชาย ปลื้มอกปลื้มใจกับ “หนุ่มปลื้ม” นายสุรบถ หลีกภัย ที่จะได้เป็นฝั่งเป็นฝา ตามประสาของพ่อในวัยชราที่อยากเลี้ยงหลานเต็มที
ไม่มี “ชวน” คุมหางเสือ “อภิสิทธิ์” ก็ยิ่งเสี่ยงออกทะเล
ระดับความมั่นใจของลูกข่ายพรรคประชาธิปัตย์ต่อ
กัปตันทีม ก็ยิ่งลดน้อยถอยลงไป สวนทางกับระดับเสียงเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนผู้นำ ถึงเวลาต้องยกเครื่องใหญ่
ไม่อย่างนั้นไม่มีทางตามทันพรรคเพื่อไทย
นับวันยิ่งถูก “ยิ่งลักษณ์”ลอยลำทิ้งห่างออกไปทุกที.
ทีมข่าวการเมือง
โดย: ทีมข่าวการเมือง
23 ตุลาคม 2555, 05:03 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น