วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

'เนวิน' กินรวบทุกตำแหน่ง 'ภท.' 'สมศักดิ์' ตีจากเดินหมากอิสระ 15 October 2555



'เนวิน' กินรวบทุกตำแหน่ง 'ภท.' 'สมศักดิ์' ตีจากเดินหมากอิสระ

  หลังจากปรากฏความขัดแย้ง เรื่องรอยร้าวในพรรคภูมิใจไทยในหน้าสื่อฯ มานาน ระหว่าง "กลุ่มเพื่อนเนวิน" และ "กลุ่มมัชฌิมา" ก็เกิดความชัดเจนเมื่อทราบผลการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยชุดใหม่ ในวันที่ 14 ต.ค. ที่ 9 ตำแหน่ง เป็นของกลุ่มเพื่อนเนวินทั้งหมด
    ประกอบด้วย "อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย "บุญจง วงศ์ไตรรัตน์"  เป็น
รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 "ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ" เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 2 ขณะที่ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" น้องชาย "เนวิน ชิดชอบ" แกนนำพรรคภูมิใจไทย เป็นเลขาธิการพรรค
    "ศุภชัย ใจสมุทร" เป็นรองเลขาธิการพรรค "นาที รัชกิจประการ" เป็นเหรัญญิกพรรค "สรอรรถ กลิ่นประทุม" เป็นประธานที่ปรึกษาและกรรมการบริหารพรรค "รังสิกร ทิมาตฤกะ" เป็นนายทะเบียนพรรค และ "ศุภมาศ อิสรภักดี" เป็นโฆษกพรรค
    งานดังกล่าวไร้เงากลุ่มมัชฌิมาและ ส.ส.ทั้ง 7 มาร่วมสังฆกรรมตามคาด และก็ไม่มีที่ว่างเหลือไว้ให้กลุ่มของ "สมศักดิ์ เทพสุทิน" หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา และผู้ก่อตั้งพรรคภูมิใจไทยมากับมือ พร้อมตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่เดิมเป็นของ พรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท และ อดีต รมว.พาณิชย์ และคนใกล้ชิด ก็ถูกยึดเอาไปด้วย
    “นาที รัชกิจประการ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นเหรัญญิกพรรคภูมิใจไทย ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ระบุ ก็ออกมายอมรับ
    “การที่กลุ่มมัชฌิมาไม่มาประชุมและไม่ส่งตัวแทนเป็นกรรมการบริหาร แสดงว่าเขาต้องการจะเป็นอิสระในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องการทำงานร่วมกันในกิจการของพรรคอีกแล้ว"
    "อนุทิน" หัวหน้าพรรคคนใหม่ ก็พูดเรื่องนี้แบบไม่เต็มเสียง เพราะนโยบายของพรรคเน้นความปรองดอง
    “ยืนยันว่า 7 ส.ส.กลุ่มมัชฌิมา ยังร่วมงานทางการเมืองกับพรรค แม้จะไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมวันนี้ แต่ส่งตัวแทนมา ส่วนการทำงานในสภา กลุ่มมัชฌิมาจะเป็นเอกเทศหรือฟังเสียงของพรรคนั้น ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องที่ต้องเป็นมติ และก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกันภายในแล้วเรื่องตัวกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ ที่จะมีตัวแทนกลุ่มมัชฌิมาเข้าร่วมแล้ว แต่หากกลุ่มมัชฌิมาจะแยกไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ก็ขอให้รอถึงวันนั้นก่อนจึงจะให้ความเห็น แต่วันนี้ยังไม่มีการลาออกหรือแสดงท่าทีใดๆ”
    "สมศักดิ์ เทพสุทิน" แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ก็ตอบแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและขัดกับข้อเท็จจริงว่า ตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค และต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่ต้องการตำแหน่งใดในการบริหารพรรค เพราะเกรงว่าจะมีคนไปปล่อยข่าวในทางที่ผิด และส่งความเสื่อมเสียให้ตนอีก ดังนั้น ต้องแสดงความชัดเจน ส่วนการทำงานระหว่าง พรรคภูมิใจไทย และกลุ่มมัชฌิมานั้น คงไม่มีปัญหา เพราะทุกคนก็ยังเป็นฝ่ายค้าน
    ย้อนกลับไปถึงปมความขัดแย้งระหว่าง 2 ขั้ว คือทั้งคู่พยายามวิ่งเต้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อขอเป็นพันธมิตรฯ หวังจะเข้าร่วมรัฐบาล รวมถึงในเรื่องของธุรกิจของแต่ละกลุ่มด้วย
    ขณะที่ นายใหญ่ ก็มีความฉลาดพอ ไม่ตัดมิตร พร้อมให้ความหวังของทั้ง 2 กลุ่ม เพื่อหวังหลอกเสียงสนับสนุนในสภาในเรื่องกฎหมายสำคัญ อาทิ พ.ร.บ.ปรองดอง การโหวตแก้รัฐธรรมนูญ เป็นต้น เพื่อโดดเดี่ยวพรรคประชาธิปัตย์ 
    “สมศักดิ์” ได้รับคำตอบจากนายใหญ่ หากจะร่วมรัฐบาล ต้องให้ตัวเขาเป็นหัวหน้าพรรค คุม ส.ส.ทั้ง 34 คน เพราะต้องการเสียงที่เป็นกอบเป็นกำ  
    ฝ่ายนายอนุทิน ก็มองว่าทางฝ่าย “มัชฌิมา” มี ส.ส.แค่ 7 เท่านั้น จึงเป็นข้อเสนอที่มากเกินไป และหวั่นเกรงว่าจะถูกยึดอำนาจจาก ส.ส. 27 คนไปด้วย
    หลังจากนั้นก็ให้ข่าวซัดกันเองจนบานปลาย และสิ่งที่ตามมา ส.ส.ที่ทำงานร่วมกันก็เริ่มบาดหมางใจ โดยเฉพาะ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กลุ่มเพื่อนเนวิน และ นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล ส.ส.สุโขทัย กลุ่มมัชฌิมา ก็ไม่มองหน้ากันในสภาแล้ว รวมทั้ง ส.ส. 7 คน มัชฌิมาก็ไม่เคยเข้าร่วมประชุมพรรคอีกต่อไป
    ขณะที่ผู้ใหญ่ของแต่ละกลุ่มก็ไม่มีท่าทีจะกลับมาเพื่อปรับความเข้าใจกัน เอาแต่วุ่นวายกับการไปหาและทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พอใจ และก็ถูกเขาหลอกใช้เสียงในสภาอีกซ้ำอยู่หลายรอบ
    โดยแลกกับความฝันลมๆ แร้งๆ ในการร่วมรัฐบาล ซึ่งวันนี้ทางกลุ่มเพื่อนเนวินก็ตื่นแล้ว จากคำสัมภาษณ์ของนายอนุทิน ที่พร้อมทำงานเป็นฝ่ายค้าน และรอการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะรับทราบขวากหนามมากมาย โดยหวังว่าวันนี้ภูมิใจไทย ไม่เป็นศัตรูกับเพื่อไทย ก็พอใจแล้ว
    แต่ก็ไม่ทราบว่า “สมศักดิ์” คิดอย่างไร ที่ยังมีความพยายามต่อเนื่อง พร้อมกับจะสลัดออกจากกลุ่มเพื่อนเนวิน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและลดภาพความขัดแย้ง หวังเข้าร่วมรัฐบาลให้ได้ ล่าสุดก็ไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกง
    ทั้งที่ตอนนี้พรรคเพื่อไทย คนในเองก็ยังเลือดตาแทบกระเด็นกับตำแหน่งรัฐมนตรี ที่จะประสานหลายๆ ก๊ก ให้ลงตัว
    หรือหัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา แค่หวังให้งบประมาณลงพื้นที่ ส.ส.ทั้ง 7 คน พร้อมกับธุรกิจต่างๆ สามารถเดินไปได้ก็เท่านั้น ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เพราะไม่เคยชินกับการเป็นฝ่ายค้าน.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น