วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ศาลสั่งจนท.คุมประพฤติ สืบเสาะพฤติกรรมสาวฉุนไม้ได้เงินช่วยท่วม โดดถีบนายอำเภอ ก่อนตัดสินคดี วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18:26:21 น.




ศาลสั่งจนท.คุมประพฤติ สืบเสาะพฤติกรรมสาวฉุนไม้ได้เงินช่วยท่วม โดดถีบนายอำเภอ ก่อนตัดสินคดี

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18:26:21 น.

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 13 ต.ค. พ.ต.ท.สุพิตร โคนพันธ์  สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว ได้นำตัวนางสาวนรมน จันทร์ไพจิตร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 241/11 ม.8 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ที่กระโดดถีบและทำร้ายร่างกายนายเฉลิมพล มั่งคั่ง นายอำเภอลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายและดูหมิ่นเจ้าพนักงาน  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมาสาเหตุเรื่องเงินเยียวยาน้ำท่วม  ซึ่งผู้ต้องหาได้ใช้เงินสดประกันตัวไปในวงเงินสองหมื่นบาท

เช้าวันนี้ศาลจังหวัดปทุมธานี ได้ออกนั่งบัลลังก์สั่งการให้เจ้าหน้าที่ควบคุมความประพฤติไปสืบเสาะประวัตินางสาวนรมน จันทร์ไพจิตร ผู้ต้องในคดีนี้ แล้วให้รายงานผลภายใน 15 วัน จึงจะตัดสิ้นในคดีนี้ และให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปก่อนโดยใช้หลักประกันเดิม

ด้านนายเฉลิมพล มั่งคั่ง นายอำเภอลาดหลุมแก้ว  กล่าวว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ถูกถีบ ได้อธิบายกับนางสาวนรมน ว่าบ้านเลขที่ 241/11 ม.8 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว ที่ให้ผู้อื่นเช่าพักอาศัยอยู่ในช่วงน้ำท่วมพอน้ำลงผู้เช่าบ้านของนางสาวนรมนฯได้ย้ายออกจากบ้านไป และต่อมาก็ได้ยืนเรื่องขอรับเงินรอบแรกจำนวน 5,000 บาทและก็ได้รับไปแล้วซึ่งผู้เช่าบ้านดังกล่าวได้มายืนเรื่องขอเงินเยียวยารอบสองอีกครั้ง ดังนั้นตามกฏระเบียบจริงของ กบอ.ผู้ที่เช่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นผู้เสียหายตามระเบียบ ของ กบอ.เนื่องจากได้รับผลกระทบน้ำท่วมจริงๆในช่วงที่ยังเช่าบ้านอยู่ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน

นายเฉลิมพล กล่าวว่าซึ่งพอต่อมาเจ้าของบ้านจริงหลังดังกล่าวก็ได้มายืนเรื่องขอรับเงิน พอทางอำเภอได้ตรวจสอบปรากฏว่ามีรายซ่ำซ้อนกันจึงได้มีการสั่งระงับเพื่อตรวจสอบก่อนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งทางเจ้าของบ้านก็ไม่ฟังเหตุผลและโวยวายทันทีโดยไม่ฟังคำอธิบาย ทันใดนั้นเจ้าของบ้านคือนางสาวนรมน ได้เข้ามาทำร้ายร่างกาย ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องเข้ามาจับกุม แต่ว่าทางนางสาวนรมนฯยังไม่หยุดด่ายังด่าตนเองด้วยถ้อยคำที่หยาบคายตลอด จึงต้องควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายและดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง แต่ถ้าหากนางสาวนรมนเกิดความสำนึกผิดจริงโดยเข้ามาขอโทษ ตนเองก็ไม่ใช้คนใจร้ายก็จะพิจารณาอีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น