วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

จำนำข้าวจำนำชาติ สะท้อนอาการป่วยสังคมไทย เมื่ีอ 11 ต.ค.55


พูดกันมามากเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขอย่างสุดขั้ว คือรับจำนำในราคาสูงกว่าท้องตลาดทุกเมล็ด โดยที่รัฐบาลมิได้หวังจะยกระดับความเป็นอยู่ของชาวนาอย่างแท้จริง แต่ต้องการเพียงคะแนนนิยมทางการเมือง เพื่อรักษาอำนาจให้อยู่ยาวนานที่สุดเท่านั้น 
    นโยบายสุดโต่งลักษณะนี้ ไม่มีทางที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะเดินกลับเข้าสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นได้ เป็นเรื่องยากที่รัฐบาลจะประกาศรับจำนำข้าวเปลือกต่ำกว่าตันละ 15,000 บาท ในฤดูกาลถัดไป เพราะฉะนั้นจะสร้างความไม่พอใจให้กับชาวนาบางส่วนแน่นอน เพราะพวกเขามองว่าต้นทุนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จะต้องสอดคล้องกับราคารับจำนำที่ต้องสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เช่นกัน หรืออย่างน้อยต้องเท่าเดิม
    ประเด็นนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน ที่มาจากภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศ มิใช่เงินในกระเป๋าของคนตระกูลชินวัตร ประชาชนจึงต้องตระหนักร่วมกันว่า รัฐบาลนำเงินภาษีไปใช้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศโดยรวมหรือไม่ 
    โครงการรับจำนำข้าวภายใต้เงื่อนไขใหม่ซึ่งเอื้อต่อการคอรัปชั่นในทุกระดับขั้น ในระยะยาวจะกระทบต่อคนไทยทุกคน ในลักษณะที่แตกต่างกันไป แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือ หากสังคมชาชินต่อการคอรัปชั่น และมองการบริหารราชการแผ่นดินที่จะสร้างความเสียหายต่อประเทศในระยะยาว เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน สังคมไทยจะล่มสลายในที่สุด  
    ลักษณะการบริหารราชการแผ่นดินในขณะนี้ เป็นที่รู้กันว่าคือลักษณะนิสัยของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือ กล้าได้กล้าเสีย ยอมเสี่ยง แต่จะไม่รับผิดชอบเมื่อเกิดความผิดพลาด ในสถานการณ์ที่รัฐบาลต้องขอพื้นที่ทหารเป็นโกดังเก็บข้าว สะท้อนให้เห็นว่าข้าวไปอยู่ในมือของรัฐบาลจำนวนมหาศาลเป็นประวัติการณ์ มากกว่าการแทรกแซงราคาข้าวในปี 2535/2536 หลายเท่าตัว 
    จากท่าทีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เผลอรับว่าการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีนั้น มีเพียงเอ็มโอยู ได้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลพยายามปิดบังความจริงกับประชาชน ไม่ยอมบอกตัวเลขส่งออก และการซื้อขายแบบจีทูจี ที่แท้จริง ทำราวกับว่าเป็นความลับสุดยอดที่ไม่อาจเปิดเผยได้ หากเปิดไปจะกระทบกับความมั่นคงของชาติ อะไรประมาณนั้น ก็เพราะไม่มีตัวเลขตามที่โอ้อวดไว้อยู่ในมือนั่นเอง แต่พยายามจะพูดเรื่องของอนาคต
    สิ่งหนึ่งที่เห็นได้คือ รัฐบาลกำลังจะเสี่ยงดวง เหมือนเล่นไฮโล ตั้งความคาดหวังเอาไว้ว่า เมื่อตนเองเก็บข้าวไว้เยอะ จะทำให้ข้าวในตลาดโลกไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค และจะดันให้ราคาข้าวสูงขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลคาดว่าเมื่อราคาขยับเข้าใกล้ราคาที่รัฐบาลรับจำนำ เวลานั้นอาจเป็นเวลาที่ต้องเร่งเทขาย 
    แต่การซื้อข้าวของประเทศผู้ซื้อนั้น มีหลายปัจจัยประกอบการตัดสินใจว่าจะซื้อข้าวไทยหรือไม่ นอกจากราคาแล้ว ยังมีเรื่องคุณภาพข้าวเข้ามาเกี่ยวข้อง ล่าสุด จีนได้หันไปซื้อข้าวจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่ไทยมากขึ้นแล้ว เพราะเขาเริ่มมองเห็นว่าข้าวคุณภาพสูงสามารถหาซื้อได้จากประเทศอื่นที่ไม่ใช่ไทย และราคายังถูกกว่าอีกต่างหาก 
    แทบทุกอย่างจะสวนทางกันหมด เมื่อรัฐบาลไทยไม่แก้ไขหลักเกณฑ์จำนำข้าวเสียใหม่ ข้าวไทยจะมีคุณภาพด้อยลงเรื่อยๆ ในขณะที่รัฐบาลยังต้องประกาศราคารับจำนำข้าวเปลือกไว้อย่างน้อย 15,000 บาทต่อตัน ต่างจากเวียดนามที่ผลิตข้าวคุณภาพสูงได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำยังได้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่าไทย โอกาสที่รัฐบาลไทยจะได้เห็นข้าวขาดตลาดจากที่ไทยเก็บข้าวเอาไว้อาจเป็นไปไม่ได้เลย นอกจากข้าวในประเทศขาดเสียเอง แต่วิธีนี้ทำได้แค่ไม่เกิน 2 ปีเท่านั้น เพราะข้าวจะด้อยคุณภาพลงเรื่อยๆ 
    ทางออกสุดท้ายของรัฐบาลคงมีเพียงทางเลือกเดียวคือ ขายในราคาขาดทุนแล้วอ้างว่าชาวนาได้ประโยชน์ ซึ่งจะได้ความนิยมจากชาวนา หากสังคมไทยยอมให้เป็นเช่นนั้น เท่ากับว่าสังคมของเราป่วยเข้าขั้นโคม่าแล้ว เพราะเมื่อรัฐบาลทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ กับสินค้าเกษตรตัวอื่นๆ ที่รัฐบาลเห็นว่าสามารถช่วยรักษาอำนาจได้ เราจะล่มจมกันหมดเพราะประเทศไทยจะเต็มไปด้วยคนและสิ่งของที่ด้อยคุณภาพ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น