วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ในที่สุดรัฐบาล “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็โล่งไปเปลาะหนึ่ง เมื่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีมติเอกฉันท์ไม่รับเรื่อง ให้ตีความโครงการรับจำนำข้าวว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อ 11 ต.ค.55



ในที่สุดรัฐบาล “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็โล่งไปเปลาะหนึ่ง เมื่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีมติเอกฉันท์ไม่รับเรื่องที่ “อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ให้ตีความโครงการรับจำนำข้าวว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ ใช่ว่าเรื่องนี้จะสร่างซาลง แต่นี่เป็นเพียงจุดสตาร์ทของสังคมที่มาจับตาโครงการแบบตาไม่กะพริบ ทีเดียว...๐ โดยเฉพาะกรณีการขายข้าวในสต็อกแบบ “รัฐต่อรัฐ” หรือ “จีทูจี” ที่ส่งกลิ่นทะแม่งอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการใช้เรื่อง “ความลับ” มาปกปิดข้อมูล เพราะหากยึดตามที่ “บุญทรง เตริยาภิรมย์” รมว.พาณิชย์ตอกย้ำว่ามีการขายจริง! ใน 4 ประเทศ 6 สัญญา คือ “จีน, อินโดนีเซีย, บังกลาเทศ และโกตดิวัวร์หรือไอเวอรีโคสต์” นั้น ก็แทบไม่มีประเทศไหนจะมีปัญหาการเมืองภายในที่ต้องงุบงิบห้ามเปิดเผย หรือ ที่บอกว่าเป็นความลับนั้น เป็นในส่วนของคนขายคือพี่ไทยเองจ๊ะ...๐ ดูแล้วแนวโน้มที่ “บุญทรง” อาจจะ ตายเดี่ยวสังเวยจำนำข้าว มีความเป็นไปได้สูง ยิ่งท่าทีของเดอะโต้ง “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” รองนายกฯ และ รมว.การคลัง ล่าสุดที่ให้สัมภาษณ์ก็เหมือนจะลอยตัว ว่าการจำนำและระบายสต็อกมี รมว.พาณิชย์ดูแล ก็ยิ่งทำให้เห็นว่างานนี้ใครจะกลายเป็นแพะซะแล้ว...๐ แต่ที่น่าอเนจอนาถอย่างมากคือ ผู้นำอย่าง “ยิ่งลักษณ์” ที่นอกจากเป็นนายกฯ แล้ว ยังสวมหัวโขนเป็นประธาน กขช. หรือ “ประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ” แต่แทบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร พูดผิดเรื่อง “ตัน” เป็น “ไร่” ยังพอเข้าใจได้ แต่ การบอกเห็น “เอ็มโอยู” ทั้งที่เป็น “สัญญาซื้อขาย” นั้น มันเกินเลยการให้อภัย ได้เสียจริง หรือว่าที่ “นายกฯ หยุดเสาร์-อาทิตย์” หลุดออกมาจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ ที่มีแต่ “เอ็มโอยู” ยังไม่มีสัญญาซื้อขาย เพราะที่น่าสังเกตคือทำไมการขายข้าวมันถึงได้ยืดยาวขนาดไปจบในปีหน้าเลยทีเดียว!!!...๐ น่าคิดสำหรับข้อเสนอของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอ ให้จัดงบ 1.5 แสนล้านบาทแจกให้ชาวนาไปเลย เพราะดีกว่าทำจำนำข้าว ซึ่งแม้ว่าหลายฝ่ายมองว่าเป็นการประชด แต่จริงแท้ข้อเสนอดังกล่าวจะทำให้เงินตกถึงมือชาวนาอย่างแท้จริงมากกว่าโครงการจำนำที่เงินนับแสนๆ ล้านเข้ากระเป๋าคนหน้ากลมหน้าเหลี่ยมที่ไหน...๐ เพราะเริ่มมีคนสังเกตเห็นใครบางคน “ที่หน้าไม่กลม” เที่ยวตระเวนทำตัวเป็นนายหน้าค้าข้าวในเวทีโลกแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่แถวตะวันออกกลาง หากินส่วนต่างเหมือนกับเคยเป็นหน้าม้าในการซื้อขายทีมในแวดวงกีฬามาแล้ว งานนี้ถ้าเป็นสงครามก็เรียกได้ว่าประสานทั้งในและนอกโจมตีประเทศบ้านเกิดให้ฉิบหายกันเลยทีเดียว...๐ โถ! เห็นน้ำคำ ของ “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” ว่าการคุ้ยแคะเรื่อง “ถุงทราย” เอย “งบลอกท่อ” เอย ของ “กทม.” ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เรื่องการยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณาจำนำข้าวเป็นเรื่องการเมือง ก็ได้แต่ปลงสังเวชแทนพ่อลิเกหลงโรงเสียจริง คง คิดว่าคนฟังและชาวบ้านรับประทาน “หญ้า” เป็นอาหารหลักหรือไง ถึงแถไถได้เต็มประดาซะขนาดนั้น...๐ ไม่ต่างจาก “พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต” รมว.กลาโหม ที่ขึงขังถอดยศ “อภิสิทธิ์” และล่าสุดก็ให้อดีตทหารอย่าง “ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต” ออกมาตีฆ้องร้องป่าวอีกราย เดี๋ยวเขาสวนกลับมาเรื่อง ถอดยศนักโทษ อย่าง “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นมาแล้วจะตอบไม่ถูกนะเออ เพราะกรณีของอภิสิทธิ์นั้นยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ เลยนอกจากบทสรุปของบิ๊กโอ๋เอง แต่กรณีของนายใหญ่นั้น “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” นั้น มีคำพิพากษาชัดแจงแล้วนะจ๊ะ...๐ 16 ต.ค.นี้จะเป็นวันประวัติศาสตร์อีกครั้งในการ “ประมูล 3 จี” แต่ดูจากทิศทางลมแล้วก็ทำให้น่าย้อนมองกลับไปดูการประมูล 3 จี ในยุค “กทช.” เสียจริง เพราะศาลปกครองได้ รับคำร้องของ “อนุภาพ ถิรลาภ” นักวิชาการอิสระด้านโทรคมนาคม และ “สมาคมสถาบันคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้บริโภค” แล้ว ในการให้ระงับการประมูล งานนี้ กสทช.ก็ต้องตุ้มๆ ต่อมๆ ลุ้นระทึกในบ่ายวันที่ 11 ต.ค.นี้ว่า การไต่สวนจะมีการคุ้มครองชั่วคราวซ้ำรอบเดิมหรือไม่...๐ เห็นโฆษณาโหมประชาสัมพันธ์ของ ค่ายทรูในเรื่องนี้ทำนอง “เล็กแต่ใจสู้” แล้วก็น่าสงสารจับจิตจับใจเหลือเกิน แต่เมื่อมองไปยังเบื้องหลังของทรูที่มีเครือซีพีที่เรียกว่ารวยติดอันดับโลกหนุนหลังก็น่าคิดใหม่ เพราะ กรณี “ทรูอินเทอร์เน็ต” ที่เรียกว่าเป็นรายใหญ่ แต่เพื่อนๆ รายเล็กอย่าง 3BB,ทีโอที เขาปรับความเร็วลูกค้าให้เป็น 10 เมก ฟรีไปแล้วอย่างใหญ่โต แต่ทรูกลับทำแบบซุ่มเงียบ ไม่เคยแจงหรือบอกลูกค้าแต่อย่างใด แล้วจะไม่ให้คิดกันเองได้ว่าของจริงหรือไก่กากันแน่ที่บอกว่าเล็กแต่ใจสู้...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น